ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
29 พ.ย. 52 นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าต่อกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการวิเคราะห์ว่า ปัญหาที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ในช่วง 3 – 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีการพบอาวุธ และวัตถุระเบิด โดยการครอบครองของการ์ดกลุ่ม นปช. ที่จ.เชียงใหม่นั้น โดยปัญหาที่ทำให้มีการยกเลิกการชุมนุมในช่วง 29 – 30 พย. ที่จ.เชียงใหม่ และที่กรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่มวลชนในส่วนกลุ่มนปช. เริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่จะใช้ความวุ่นวายในการก่อเหตุควบคู่ไปกับการชุมนุม ซึ่งส่งผลให้แรงสนับสนุนจากฐานมวลชนกลับถูกปฏิเสธ ทำให้แกนนำเกิดวิกฤติศรัทธาในการนำของกลุ่ม นปช. จนถึงมีการประเมินว่ามีความแตกแยกขึ้นภายในกลุ่มด้วย
โฆษกพรรคฯ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม แกนนำส่วนน้อยนั้นยังคงเดินหน้าตั้งหลักเพื่อขับเคลื่อนทางการเมืองนอกสภาในการกดดันล้มรัฐบาลต่อไป ดังนั้นจึงถือว่ารัฐบาลต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากที่มีการวางระเบิดที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทั้งที่ก่อนหน้านี้ที่มีการวางระเบิดทั้งที่ ปปช. และศาลรัฐธรรมนูญ มาแล้ว
ขณะเดียวกันโฆษกพรรคฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากการปรากฎตัว และการเปิดเผยการขับเคลื่อนของแนวร่วมของกลุ่มนปช. และตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สร้างความหวาดวิตกในหลายกลุ่ม โดยกล่าวถึงขนาดที่จะมีการปะทะระหว่างกองทัพ กับกองทัพประชาชน อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นแนวทางที่สอดรับกับแกนนำนปช. บางส่วน ที่ยืนยันล้มรัฐบาลโดยใช้กำลัง
“มีการพูดถึง สงครามกลางเมือง มีการพูดถึง สงครามประชาชน ซึ่งเป็นแผนการณ์ของบางฝ่ายที่ต้องการให้บ้านเมืองเคลื่อนไปสู่ พรรคฯ มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น และมั่นใจมากว่านายทหารส่วนใหญ่นั้นไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับนายทหารนอกแถว อย่างพล.ต.ขัตติยะ” โฆษกพรรคฯ กล่าว
นอกจากนี้โฆษกพรรคฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าในขณะที่ยังอยู่ในระหว่างการประกาศพรบ.ความมั่นคง และยังมีผลบังคับใช้อยู่ ตนต้องการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้อำนาจของพรบ.สืบที่มาและติดตามพฤติกรรม ของพล.ต.ขัตติยะ ในอดีตว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร
ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ครบรอบ 1 ปีของการยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร และมีบางฝ่ายทักท้วงถึงความคืบหน้าของคดีนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้ลำดับเหตุการณ์ว่าเรื่องนี้มีการเริ่มต้นมาจากการชุมนุมในบริเวณสะพานมัฆวาน และพล.ต.ขัตติยะ ออกมาทำนายเหตุการณ์ว่าจะมีการยิงระเบิด M79 ต่อมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งกระทู้ถามถึงการทำนายนี้ว่ามีหลักฐานอย่างไร ในสัปดาห์ถัดมาปรากฎว่ามีการยิงระเบิดเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรที่บริเวณสะพานมัฆวานจนเป็นเหตุสืบเนื่องทำให้มีการเคลื่อนการชุมนุมมาปิดล้อมที่สภาฯ และเกิดการสลายการชุมนุม ในเหตุการณ์ 7 ตุลา จนนำมาสู่เหตุการณ์การปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ดี พรรคประชาธิปัตย์มองว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบทางการเมืองนั้นมี 3 กลุ่มคดี ที่รัฐบาลพร้อมจะให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปด้วยมาตรฐานเดียวไม่เลือกปฏิบัติ โดยคดีกลุ่มที่ 1 เป็นคดีทุจริตการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแรกสุด ซึ่งคดีนี้แม้ว่จะมีการยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหลายคน ก็ยังถือว่าคดีนี้ยังไม่เข้าสู่ในชั้นศาล เนื่องจากพยานหลักฐานและข้อมูลนั้น ก็ยังต้องมีการเตรียมการโดยอัยการและยื่นฟ้องต่อไป
“หากจะกล่าวอ้างว่าเลือกปฏิบัตินั้น ก็ต้องดูตัวอย่างว่าคดีบางคดีแม้ว่าจะเกิดขึ้นโดยบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองนั้น แต่ทางรัฐบาลก็ไม่ได้แทรกแซงเพื่อผลักดันให้คดีนั้นเร็วกว่าข้อมูล และพยานหลักฐานที่พึงมี” นพ.บุรณัชย์กล่าว
กลุ่มคดีที่ 2 คือคดีที่เกิดขึ้นจากการยึดสนามบินในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีส่วนของสำนวนที่มีการเดินหน้าเพื่อยื่นฟ้องจำนวน 32 คดี
กลุ่มคดีที่ 3 เป็นกลุ่มคดีจากการเคลื่อนไหวสร้างเหตุการณ์ความวุ่นวายและการจลาจลเมื่อเดือนเมษายน มีสำนวนคดีที่กำลังยื่นฟ้อง จำนวน 25 คดี
“ในทุกกรณี พรรคฯ ในฐานะแกนนำรัฐบาลยืนยันว่าจะต้องสร้างบรรทัดฐานของการรักษาตัวบทกฎหมาย และรักษาหลักนิติธรรมของบ้านเมือง ไม่ให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบผลของการกระทำ” นพ.บุรณัชย์กล่าว
ขณะเดียวกันนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยังได้ประเมินท่าทีล่าสุดของพรรคเพื่อไทยว่า มีสัญญาณหลายอย่างหลังจากที่ปฏิเสธการเข้าร่วมการสร้างความสมานฉันท์ โดยการปฏิรูปการเมือง และการทำประชามติแล้ว จากเหตุการณ์ 2 วันที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าทางพรรคเพื่อไทยได้เริ่มเปิดเผยการสร้างแนวร่วมเดียวกันกับกลุ่มนปช. ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวกลุ่มนายทหารที่ให้สัมภาษณ์พาดพิง ก้าวล่วงสถาบันองคมนตรีโดยตรงด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และวานนี้ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาให้การสนับสนุนในลักษณะให้การปกป้องคุ้มครองการตรวจจับวัตถุระเบิดที่จ.เชียงใหม่ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย
โดยโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนอยากถามว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร เมื่อถูกจับผิดได้ เหตุใดจึงต้องออกมาโกหกเพื่อปัดความรับผิดชอบ และทางพรรคประชาธิปัตย์ยังต้องการให้ฝ่ายค้านให้โอกาสการทำงานของรัฐสภาในการสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ไม่ใช่พยายามสร้างเงื่อนไขเพื่อการเคลื่อนไหวนอกสภาเพื่อสร้างความขัดแย้ง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|