• ส้มอำมาตย์ ยุทธศาสตร์ ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ |
โพสต์โดย พี , วันที่ 22 มี.ค. 53 เวลา 09:13:47 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
การเคลื่อนไหว ของคนเสื้อแดงในครั้งนี้ มีวาทะกรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอยู่2คำ คือ 1.ล้มอำมาตย์ และ2. ไพร่
เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวของแกนนำที่ขึ้นเวทีแล้ว จะมีการสอดรับในเชิงยุทธศาสตร์
คำว่า ล้มอำมาตย์ นั้น ต้องเข้าใจด้วยว่า อำมาตย์ กับพระมหากษัตริย์ นั้นมีความเชื่อมโยงกัน ในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เท่านั้น จึงจะมีคำว่า อำมาตย์ใช้ เพราะอำมาตย์แปลว่า ผู้รับใช้พระราชา อันหมายถึงข้าราชการทุกหมู่เหล่า เพราะฉะนั้น การล้มอำมาตย์ก็คือการที่ไม่ต้องการให้คำว่า อำมาตย์คงมีอยู่ต่อไปในประเทศไทย ซึ่งก็คือ ไม่มีผู้รับใช้พระราชาอีกต่อไป ในที่สุดย่อมไม่มีพระราชา อยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป
เหตุการณ์ที่สอดรับหลักคิดนี้ คือ ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ได้เปลี่ยน คำว่า ข้าราชการ อันหมายถึงผู้รับใช้พระราชาซึ่งก็คือ อำมาตย์ นั่นเอง เป็นคำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจตนาที่ ทักษิณเปลี่ยนในตอนนั้น มาประจักษ์อย่างชัดแจ้งก็ตอนที่เป็นหัวหน้ามวลชนเสื้อแดงคราวนี้เอง
ไพร่ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สอดรับกัน คำๆนี้ แกนนำเสื้อแดง พยายามที่จะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ประเทศไทย มีการแบ่งชนชั้นกัน เป็นชนชั้นศักดินา ซึ่งสูงสุดคือ พระมหากษัตริย์ และต่ำสุดคือไพร่ การเคลื่อนไหว ครั้งนี้เหมือนกับ การล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ของ รัสเซีย และโปรแลนด์ เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่า ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ ซึ่งคนไทยทุกคน เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ เหมือนกับ เคารพสักการะพระในโบสถ์ กราบไหว้บูชาด้วยความเคารพเลื่อมไส คนไทยไม่เคยรู้สึกว่า พระในโบสถ์ กับคนไทย อยู่คนละชนชั้นกัน ซึ่งเหมือนกับ พระมหากษัตริย์ ที่คนไทยก็ไม่ได้รู้สึกว่าแบ่งชนชั้นเช่นกัน ในทางตรงข้าม คนไทยรู้สึกว่า พระเจ้าอยู่หัวเป็นพ่อของแผ่นดิน ซึ่งคำว่าพ่อ มีสถานะอยู่เหนือกว่าก็จริง แต่อยู่เหนือกว่าในสถานะที่เคารพบูชา เชื่อฟังคำสั่งสอน เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี ยิ่งพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ทรงมีพระจริยวัตรงดงาม มีพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยมากมายยิ่งเป็นที่เคารพบูชาอย่างเหลือคณานับ
แต่ แกนนำ ซึ่งรวมทั้ง ทักษิณ ชินวัตร พยายามที่จะสร้างความรู้สึกให้ประชาชนรู้สึกว่า ประเทศไทย มีการแบ่งชนชั้น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงเมื่อเทียบกัน พระเจ้าอยู่หัว ทรงลงไปดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประชาชน ซึ่งรวมทั้งคนยากคนจน มากกว่า ทักษิณ ชินวัตร และแกนนำที่ขึ้นปราศัยโจมตีทางอ้อมทุกคนรวมกันเสียอีก พระเจ้าอยู่หัว ทรงทำอย่างนี้มีอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า40ปีแล้ว
ในทางส่วนพระองค์ พระเจ้าอยู่หัว ทรงมีชีวิตอย่างเรียบง่าย รองพระบาท(รองเท้า)คู่หนึ่ง พระองค์ท่านใช้เป็นสิบปี ฉลองพระองค์(เสื้อผ้า)ตัวหนึ่งใช้เป็นสิบปี ใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในทางกลับกัน มาดูชีวิต ของ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ที่ผ่านมา ใช้ชีวิตสุดหรู สุขสบายอย่างไร ใครๆก็เห็น นั่นน่ะหรือ ที่ ทักษิณ พยายามบอกกับคนเสื้อแดงว่า เขาเป็นไพร่
สิ่งที่ ทักษิณ ตลบแตลง อีกเรื่องหนึ่งคือ พยายามหักล้าง อภิสิทธิ์ที่บอกว่า ทักษิณไม่ใช่ไพร่
แต่บอกว่าเขาเป็นไพร่ บังเอิญโชคดี เป็นเศรษฐีใหม่ เขาจึงเป็นไพร่ ที่โชคดีได้เป็นเศรษฐี ตรงนี้ เป็นความตลบแตลง อันเป็นคุณสมบัติส่วนตัวของ ทักษิณ ที่ทำมาโดยตลอด เพราะ ในความเป็นจริง ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเยาว์วัย สอบเข้าโรงเรียน นายร้อย เรียนจบมาเป็นนายตำรวจ ครองยศครั้งสุดท้าย เป็น พันตำรวจโท ได้ไปเรียน ปริญญาเอกที่อเมริกา ด้วยทุนหลวง จนจบปริญญาเอก มาทำธุรกิจ ได้เป็นเจ้าของ กิจการ ดาวเทียม คนเดียวของประเทศไทย เป็นเจ้าของธุรกิจมือถือ ขององค์การโทรศัพท์ซึ่งมีเครือข่ายดีที่สุด และสัมปทานที่ ทักษิณได้ ยังมีสัญญาห้ามองค์การโทรศัพท์ให้สัมปทานรายอื่น ที่จะมาเป็นคู่แข่ง นี่หรือ ชีวิต ของไพร่ ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
เพราะฉะนั้น ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว ของคนเสื้อแดง ที่ใช้คำ 2 คำคือ ล้มอำมาตย์และ ไพร่ ในครั้งนี้ไม่สามารถจะคิดเป็นอื่นไปได้ นอกจากคำว่า บั่นทอนความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเมื่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ถูกลดความสำคัญลง ในที่สุดก็จะล่มสลาย
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3379 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย พี
IP: Hide ip
, วันที่ 22 มี.ค. 53
เวลา 09:13:47
|