ศอฉ.แถลงระบุมีตาย 4 เจ็บอีก 80 นาย เป็นนายทหาร 2 นาย จากเหตุปะทะตลอดวัน ยืนยันทหาร-ตร.สามารถยิงม็อบเพื่อป้องกันตัวได้แต่ต้องต่ำกว่าขา ค้นรังแดงพบอาวุธสงครามเพียบมีที่ยึดจากจนท.เมื่อวันที่10 เม.ย.ด้วย...

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.เวลา 20.32 น.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงสรุปสถานการณ์การกดดันยึดคืนพื้นที่ โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 13-14 พ.ค.53ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณแยกราชประสงค์ ได้ส่งผลกระทบอย่างมาก เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ ศาลแพ่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ

ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามหาทางคลี่คลายทุกวิถี ทั้งการเจรจา แต่ในที่สุดแกนนำเสื้อแดงก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม ต่อมานายกรัฐมนตรี ได้เสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ เบื้องต้นทางแกนนำเสื้อแดงตอบรับ แต่ก็มาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่อรอง ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดก็ปฏิเสธแผนปรองดอง เนื่องจากการแทรงแซงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ศอฉ.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระชับวงล้อม, สกัดกั้น และตัดระบบสาธารณูปโภค เพื่อเป็นการตัดกำลังการสนับสนุนของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะเข้าไปสมทบ ซึ่งขอทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนว่ายังไม่มีการเคลื่อนพลเข้าไปยึดพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เหตุการณ์ที่ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมได้ใช้มวลชนใช้อาวุธ, ใช้ความรุนแรง โจมตีเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธในการป้องกันตนเอง เพื่อเป็นการระงับการสูญเสีย รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่เคยสั่งเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปปราบปราม สั่งฆ่าประชาชน อย่างที่มีการบิดเบื้อน

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า หลัง ศอฉ. ประกาศมาตรการกดดันในวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสั่งให้กระชับวงล้อมบริเวณราชประสงค์เป็นรูปสี่เหลี่ยม เพื่อกดดันผู้ชุมนุมตัดการส่งกำลังบำรุง ตัดสาธารณูปโภค ปิดการจราจร ทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ผู้ชุมนุมลดลง แต่มีกลุ่มก่อการร้าย กลุ่มติดอาวุธ กลุ่มจักรยานยนต์ พยายามบุกดดันด่าน ด้วยใช้อาวุธปืน อาวุธเอ็ม 79 ระเบิดขว้างยิงใส่เจ้าหน้าที่และใช้ประชาชนเป็นโล่กำบัง ดังนั้น เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องป้องกันตัวเอง ปฏิบัติตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก

“ที่ผ่านมาการขอคืนพื้นที่เจ้าหน้าที่ไม่ใช้อาวุธ แต่ถูกผู้ชุมนุมยึดอาวะ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จำเป้นต้องรักษาระยะห่าง หากผู้พยายามเคลื่อนเข้าหาเจ้าหน้าที่ซึ่งมีการเตือนให้หยุดแล้วแต่ไม่หยุด ก็มีความจำเป็นต้องใช้ปืนลูกซองกระสุนจริงในการยิงสกัดกั้น แต่จะพยายามยิงลงพื้นที่หรือยิงบังคับกรวยกระสุนให้ต่ำระกับไม่เกินเข่า เพื่อยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าถึงตัวเจ้าหน้าที่ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนเจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์จะทำร้ายถึงชีวิต อย่างไรก็ตามภาพข่าวบางภาพที่มีการนำเสนอเป็นเพียงบางส่วนของเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นโดยเฉพาะภาพทหารที่ผลักดันผู้ชุมนุมหรืออาวุธในกรณีต่างๆ แต่อาจจะไม่เห็นภาพที่กลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธยิงเจ้าหน้าที่"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า บริเวณพื้นที่สี่แยกราชประสงค์เป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งในวันนี้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ81 นาย เป็นทหาร 2นายนอกจากนี้ยังได้จับเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม79 ปืนเอ็ม 16 ปืนอาก้า ระเบิดขว้างชนิดต่างๆเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายมีอาวุธ สงครามมาใช้เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามขณะนี้ ศอฉ.สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้และจะพยายามยุติการชุมนุมโดยหลีกเลี่ยง ความรุนแรง ทั้งนี้ มาตรการในการกดดันจะมีการเพิ่มความเข้มข้นต่อจากนี้ไปเรื่อย ๆขอให้มั่นใจใน ศอฉ.

สำหรับเหตุคนยิงเอ็ม 79 เข้าใส่เวทีเสื้อแดงที่ราชประสงค์  พ.อ.สรรเสริญ กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเราไม่มีอาวุธเอ็ม 79 และเจ้าหน้าที่เข้าใกล้พื้นที่ชุมนุมไม่ได้ ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นผู้ทำ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะเพิ่มมาตรการเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะชี้แจงก่อนปฏิบัติ แต่จากนี้ไปเราจะปฏิบัติก่อนแล้วค่อยชี้แจง สำหรับตัวเลขผู้ก่อการร้ายที่ติดอาวุธแฝงอยู่ในผู้ชุมนุมมีประมาณ 500 คน.

ขอบคุณ ภาพและข่าวจาก ไทยรัฐ