• กฎหมายก่อการร้ายอาวุธพิฆาต"แม้ว" |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 26 พ.ค. 53 เวลา 09:39:54 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
และเมื่อพลิกดูตัวบทกฎหมายแล้วจะพบว่า กฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับความผิดฐานก่อการร้ายไว้ก็คือ "ประมวลกฎหมายอาญา" ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติม "ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย" เข้าไปในปี 2546 ในสมัย "รัฐบาลทักษิณ"
โดยใน มาตรา 135/1 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นความผิดอาญาดังต่อไปนี้
(1) ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการใดอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรืออันตรายอย่างร้ายแรงต่อร่างกาย หรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ
(2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ
(3) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใด หรือต่อสิ่งแวดล้อม อันก่อให้เกิดหรือน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ
ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท
การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือหรือให้ได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย
มาตรา 135/2 ผู้ใด
(1) ขู่เข็ญว่าจะกระทำการก่อการร้าย โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้นจะกระทำการตามที่ขู่เข็ญจริง หรือ
(2) สะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือยุยงประชาชนให้เข้ามีส่วนในการก่อการร้าย หรือรู้ว่ามีผู้จะก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้
ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 135/3 ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตามมาตรา 135/1 หรือมาตรา 135/2 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในความผิดนั้นๆ
ทั้งนี้นอกจากศาลอาญาได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายแล้ว ก่อนหน้านี้ศาลอาญาก็ได้ออกหมายจับ "แกนนำ นปช" ในข้อหา "ก่อการร้าย" กว่าสิบคน ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอดิศร เพียงเกษ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายขวัญชัย ไพรพนา นายนิสิต สินธุไพร นายพายัพ ปั้นเกตุ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายวิเชียร ขาวขำ นายอารี ไกรนรา นายสุขเสก พลซื่อ นายสุรชัย เทวรัตน์ และนายรชต หรือกบ วงศ์ยอด
สำหรับการขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากต่างประเทศนั้น ทำได้ใน 2 กรณี คือ 1.กรณีขอตัวมาเพื่อยื่นฟ้องคดีเป็นจำเลยต่อศาล และ 2.ขอตัวมาเพื่อรับโทษตามคำพิพากษา
กรณีนี้ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาก่อการร้ายตามที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ร้องขอ ซึ่งเป็นหมายจับในชั้นสอบสวน "อัยการ" ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกลางตามกฎหมายในการขอ "ผู้ร้ายข้ามแดน" ยังไม่สามารถดำเนินการให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยต้องรอจนกว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นพร้อมมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาก่อการร้ายส่งให้พนักงานอัยการและเมื่อถึงขั้นตอนดังกล่าวอัยการจะพิจารณาสำนวนของดีเอสไอก่อน หากอัยการพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ฟ้องคดี อัยการจึงจะสามารถประสานกับรัฐบาลประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ ให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีได้
อย่างไรก็ตามยังมีวิธีเลือกอีกทางหนึ่งคือ การใช้ระบบ "อินเตอร์โพล" หรือ "ตำรวจสากล" คือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่ง "หมายจับ" พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้าย ไปยังตำรวจสากล(อินเตอร์โพล) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้ส่งหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณต่อไปยังประเทศสมาชิกกว่าร้อยประเทศ เพื่อนำไปปิดไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางผ่านด่านเข้ามาก็สามารถจับกุมส่งกลับประเทศไทยได้เลย
ข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1183 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 พ.ค. 53
เวลา 09:39:54
|