• ปชป.รอดยุบพรรคเพราะฝีมือกกต.หรือ2มาตรฐาน |
โพสต์โดย ดอนแก้ว , วันที่ 12 มิ.ย. 53 เวลา 00:35:57 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ปชป.รอดยุบพรรคเพราะฝีมือกกต.หรือ2มาตรฐาน
ใครที่ติดตามข่าวคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ
มีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)คงสับสนพอสมควรว่า เกิดอะไรขึ้น
คดียุบพรรคแบ่งออกเป็น 2 คดี ได้แก่
หนึ่ง การรับเงินอุดหนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) 29 ล้านบาท
แต่ไม่นำไปทำป้ายโฆษณาหาเสียง
แต่นำไปแจกจ่ายให้แก่คนสนิทและคนใกล้ชิดของนายประดิษฐ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค
ในขณะนั้น(ปี 2547-2548) กกต.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ
สอง คดี ปกปิด ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยการรับเงินสนับสนุนพรรคการเมือง
จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน) 258 ล้านบาท
ผ่านบริษัทผ่านบริษัท เมซไซอะ บิชิแนลแอนด์ ครีเอชั่น จำกัด
ซึ่ง กกต.ยื่นคำร้องผ่านอัยการสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่อัยการสูงสุดตีสำนวนกลับ
เพราะมีข้อบกพร่องถึง 8 ข้อโดยเฉพาะไม่มีหลักฐานทางการเงิน
ที่แสดงให้เห็นว่า มีกรรมการบริหาร ปชป.รับเงินจำนวนดังกล่าว
นอกจากปากคำของพยานคือ นายประจวบ สังขาว เจ้าของบริษัท เมซไซอะ
และข้อสันนิษฐานตามพยานแวดล้อม
หลักฐานเพียงแต่โยงถึงนายธงชัย คลศรีชัย ลูกพี่ลูกน้องของนายประดิษฐ์
ทำให้อัยการสูงสุด ต้องการสอบสวนการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธงชัยเพิ่มเติม
จากคำวินิจฉัยสั่งการของ กกต.เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 ใช้วิธีการสันนิษฐานเอาง่ายๆว่า
จากพยานเอกสารและพยานบุคคลรับฟังได้ว่า
นายธงชัย มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายประดิษฐ์ โดยบิดานายประดิษฐ์เป็นลุงของนายธงชัย
ประกอบกับนายธงชัยกับนายประดิษฐ์ มีรายชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านหลังเดียวกันจากคำให้การของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้า ปชป.ในขณะนั้น ให้การรับว่า
นายธงชัยมาช่วยงานนายประดิษฐ์ สอดคล้องกับคำให้การของกรรมการผู้จัดการบริษัทคมมาศ
และกรรมการผู้จัดการบริษัท เม็คเนทชายส์ ที่ให้การว่า
ในการรับจ้างทำป้ายให้ ปชป.ผ่านการประสานงานและสั่งการโดยนายธงชัย
และเมื่อส่งมอบงานแล้วยังรับเงินจากนายธงชัย ซึ่งมีห้องทำงานอยู่ชั้น 1 ของพรรค
มีป้ายชื่อและมินิเซฟในห้อง และเคยเห็นนายประดิษฐ์อยู่ในห้องทำงานนายธงชัย
เชื่อว่า นายธงชัยเป็นผู้ช่วยเหลือด้านการเงินของนายประดิษฐ์
จากความเชื่อมโยงดังกล่าวข้างต้นรับฟังได้ว่า นายธงชัยช่วยงานนายประดิษฐ์
ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านการเงินของพรรคและการช่วยเหลือดังกล่าวเข้าข่ายตัวแทนเชิด
ดังนั้นนายประดิษฐ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค จึงไม่อาจปฏิเสธความผิดรับผิดชอบได้
ขณะเดียวกันนายประดิษฐ์ได้กระทำหรือเชิดให้ผู้อื่นกระทำในฐานะเลขาธิการพรรค
ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคย่อมพ้นความรับผิดชอบของ ปชป.มิได้นอกจากนั้น อัยการสูงสุดเห็นว่า ยังมีปัญหาข้อกฎหมายว่า
การรับเงินบริจาคโดยไม่เปิดเผย ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 51
มีโทษเฉพาะตัวของหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค
มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่น้อยกว่า 3 เท่าฯ
หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่มีโทษยุบพรรค
แต่ กกต.กลับตีขลุมอ้างว่า เงินที่ ปชป.รับมา เป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบ
จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเอามาใช้ในการเลือกตั้ง อันเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงมีโทษถึงยุบพรรค
แต่ กกต.ลืมไปว่า คดีที่มีการกล่าวหาผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีนว่า
ยักยอกเงิน 258 ล้านบาทอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นั้น ยังไปไม่ถึงไหน
(ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาด้วยซ้ำ) อยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
แต่กลับอ้างว่า
การนำเงินมาใช้ของทีพีไอมาใช้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้ความบกพร่องของสำนวนดังกล่าว
ถ้า กกต.ไม่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนแล้ว
ขืนดันทุงรังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยอ้างว่าให้ศาลไปไต่สวนเพิ่มเติมเอาเอง
นอกจากเป็นการโยนภาระให้กับศาลแล้ว ยังแสดงให้เห็นความไม่รับผิดชอบในการทำสำนวนอีกด้วย
เมื่อเห็นมาตรฐานการทำงานของ กกต.ในคดี 258 ล้านบาท
และอ่านคำร้องคดีเงินอุดหนุนของ กกต.29 ล้านบาท ตามสมควรแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่า
ทำไมจึงมีการปล่อยข่าวว่า มีการทุบกระจกรถพนักงานสอบสวน ฉกสำนวนคดียุบพรรค
และพยายามโยงว่าเป็นฝีมือของที่ปรึกษาของตุลาการรัฐธรรมนูญรายหนึ่ง
ทั้งๆที่วัน เวลาซึ่งถูกทุบรถนั้น กกต.ได้ยื่นคำร้องให้ต่อศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งหมายความว่า สำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมดอยู่ในมือของตุลาการ
และได้ส่งให้ ปชป.ในฐานะผู้ถูกร้องเรียบร้อยแล้ว
การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยโดยร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 2 คนถอนตัว
ยิงตอกย้ำให้เห็นว่า เป็นการกดดันเพื่อให้ศาลรัฐธรรมมีคำสั่งยุบ ปชป.
ทั้งๆที่สำนวนที่ยื่นต่อศาลอาจมีข้อบกพร่องมากมาย
ตามมาตรฐานฝีมือของ กกต. จะได้เที่ยวอ้างว่า ศาลมี 2 มาตรฐานทั้งๆที่อาจเป็นเพราะ กกต.ไร้ฝีมืออย่างที่เห็นๆกันอยู่
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1353 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ดอนแก้ว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 มิ.ย. 53
เวลา 00:35:57
|