• เพื่อนหญิงแฉอดีตประธานรัฐสภาข่มขืนซี5 |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 09 ส.ค. 53 เวลา 23:06:56 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันที่ 9 ส.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ มูลนิธิเพื่อนหญิงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดสัมมนา “การคุกคามทางเพศ อาชญากรรมร้ายรายวันของสังคม” โดยน.ส.พัชรี จุลหิรัญ นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า จากการเก็บสถิติความรุนแรงทางเพศ ที่ผู้ถูกกระทำมาขอคำปรึกษาจากมูลนิธิเพื่อนหญิง ในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 775 ราย ในจำนวนนี้พบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศมากถึง 83 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 แยกเป็น 1.ข่มขืนกระทำชำเรา 45 ราย ร้อยละ 54 มีผู้หญิงรายหนึ่งต้องการเลิกกับผู้ใหญ่บ้าน จ.กาญจนบุรี เพราะมีความต้องการทางเพศสูงต้องมีเพศสัมพันธ์เช้ากลางวันเย็น ฝ่ายหญิงขอเลิกแต่ฝ่ายชายไม่ยอม ฝ่ายหญิงต้องแจ้งความดำเนินคดีฐานข่มขืน 2.พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 ราย 3.พรากผู้เยาว์โดยการยินยอมมีเพศสัมพันธ์ 9 ราย 4.รุมโทรม 7 ราย โดยมีผู้กระทำรุมโทรมมากสุดถึง 9 ราย 5.อนาจาร 7 ราย 6.คุกคามทางเพศ 3 ราย และ7.พยายามข่มขืน ค้ามนุษย์ แอบถ่าย โชว์อนาจาร 4 ราย รายหนึ่งเป็นพี่เขยแอบถ่ายน้องเมียซึ่งกลัวว่าจะถูกนำมาเผยแพร่ที่สาธารณะ
“ที่น่าตกใจคือผู้กระทำ 33 ราย หรือร้อยละ 40 เป็นคนใกล้ชิดกับผู้เสียหาย เช่น เป็นเพื่อน หรือเพื่อนบ้าน โดยผู้เสียหายอายุน้อยสุดแค่ 3 ขวบ ถูกญาติใช้นิ้วล่วงละเมิดเด็ก ส่วนผู้กระทำมีอายุมากที่สุด 78 ปี ล่วงละเมิดทางเพศด้วยการอนาจารลูกตัวเองตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนอายุ 24 ปีก็ยังขอหลับนอนกับลูกอยู่ อย่างไรก็ตาม การล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ส่วนใหญ่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้นมากถึงร้อยละ 24 โดยผู้เสียหายจากความรุนแรงทางเพศเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2551” น.ส.พัชรี กล่าว
น.ส.พัชรี กล่าวต่อว่า มูลนิธิเป็นห่วงการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน เนื่องจากมีเพิ่มมากถึง 18 ราย หรือร้อยละ 22 จากปี 2551 มีเพียง 8 รายโดยมีหลายรูปแบบ ทั้งการแตะเนื้อต้องตัว ดักรอ พบเจอ ข่มขู่ อนาจาร บางรายถึงขั้นมอมยาลูกจ้างและใช้อาวุธปืนขู่แล้วพยายามข่มขืน โดยผู้เสียหายบางรายได้ดำเนินคดีและร้องเรียนทางวินัย กลับถูกหน่วยงานและเพื่อนร่วมงานมองว่ากระด้างกระเดื่องต่อหัวหน้า อย่างไรก็ตามพบว่าผู้กระทำยังมีพฤติกรรมกระทำความรุนแรงต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ตามมา
“ล่าสุดมีกรณีน่าตกใจกรณีเจ้าหน้าที่หญิงระดับ 5 รัฐสภา รายหนึ่งจบปริญญาโทจากเมืองนอก เป็นคนสวย ทั้งเคยเป็นอดีตเชียร์ลีดเดอร์ ธรรมศาสตร์ ถูกอดีตประธานรัฐสภาคนหนึ่งพยายามใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้ามาตีสนิทและให้ร่วมเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยกัน จากนั้นมีการบังคับให้เดินด้วยส้นสูง 3 นิ้ว จากชั้น 1 ถึงชั้น 8 ของคอนโดเพื่อนำเอกสารงานไปส่งถึงตัว พร้อมทั้งให้ดูบอลแล้วลวนลามจนถึงขั้นละเมิดทางเพศ จนต้องหยุดงานไป 15 วัน เป็นผลให้หัวหน้างานไล่ออกจากงาน จนเกิดความเครียด สภาพจิตใจย่ำแย่ ครอบครัวก็ไม่เข้าใจ ทำให้พยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง จนอดีตประธานรัฐสภาคนนี้พ้นจากตำแหน่ง จึงได้ฟ้องศาลปกครองเพื่อขอกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง” นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าว
น.ส.พัชรี กล่าวอีกว่า คดีได้ยืดเยื้อมานาน 2-3 ปี จนปี 52 ผู้เสียหายจึงเข้ามาปรึกษากับมูลนิธิเพื่อนหญิง ซึ่งต้องมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจอยู่หลายเดือน เนื่องจากศาลปกครองชั้นต้นตัดสินเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้มีความผิดที่หยุดงาน จึงได้อุทธรณ์ต่อศาลจนศาลตัดสินว่าให้สามารถกลับเข้ามาทำงานที่รัฐสภาได้อีกครั้ง ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกรณีถูกข่มขืนอาจจะทำไม่ได้เนื่องจากติดข้อกฎหมายขาดความอายุความ เพราะคดีดังกล่าวตามกฎหมายเป็นคดีที่ยอมความกันได้ และมีอายุความแค่ 3 เดือน เนื่องจากผู้ถูกกระทำอายุเกิน 18 ปีแล้ว ซึ่งน่าจะมีการแก้กฎหมายขยายอายุความเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายมีเวลาฟื้นฟูจิตใจก่อนดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามที่ผู้เสียหายไม่แจ้งความข้อหาข่มขืนตั้งแต่แรกเพราะผู้กระทำอยู่ในอำนาจเป็นถึงประธานรัฐสภาขณะนั้น และผู้เสียหายเป็นถึงลูกข้าราชการระดับสูง จึงเป็นห่วงชื่อเสียงหน้าตาของครอบครัว อีกทั้งถูกเพื่อนร่วมงานมองว่าเป็นการสมยอมจึงไม่กล้าดำเนินการใดๆ
ข่าวจาก ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2534 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 09 ส.ค. 53
เวลา 23:06:56
|