กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า
ทำไม "เพื่อไทย" ไม่ขึ้นป้ายประนาม ขับไล่ "จตุพร" พ้นพรรค? (สารส้ม)
|
|
|
|
ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย มีการนำรูปภาพของ ส.ส. 4 คน มาติดประกาศ ประกอบด้วย นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก, นายปิยะรัช หมื่นแสน ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายนที สุทินเผือก (กรุง ศรีวิไล) ส.ส.สมุทรปราการ และนายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ ส.ส.สมุทรปราการ
พร้อมข้อความอธิบายว่า "บุคคลในลำดับหมายเลขที่ 1 และหมายเลขที่ 2 เป็นบุคคลที่ไม่ปฎิบัติตามมติและแนวทางการดำเนินการของพรรค โดยจงใจกระทำตนเป็นปฎิปักษ์และฝ่าฝืนแนวนโยบายของพรรคอย่างชัดแจ้ง ซึ่งทางพรรคกำลังดำเนินการเพื่อให้พ้นจากสมาชิกภาพของพรรคตามขั้นตอนต่อไป และไม่ให้ทำกิจกรรมในนามพรรค ส่วนบุคคลหมายเลข 3 และหมายเลข 4 ได้ประกาศด้วยตนเองต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชนโดยเปิดเผยแล้วว่าต้องการออกไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคอื่นที่มิได้มีอุดมการณ์และแนวนโยบายตรงกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้น เพื่อมิให้ประชาชนที่มีความไว้วางใจต่อพรรคเพื่อไทยเกิดความสับสนจึงไม่ให้บุคคลทั้ง 2 ทำกิจกรรมในนามพรรคอีก และมอบให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาดำเนินการต่อไป"
ทำอย่างกับบริษัทเอกชนที่จับได้ว่าพนักงานโกง ก็เลยขึ้นป้ายหรือออกประกาศว่าพนักงานคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทอีกต่อไปแล้ว
และจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยก็เคยดำเนินการในลักษณะคล้ายกันกับ ส.ส. 2 คน คือ นายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร
1) คงเป็นเรื่องดี... หากพรรคการเมืองทุกพรรคจะเอาใจใส่ ติดตามตรวจสอบ กำกับดูแลพฤติกรรมของ ส.ส.ในสังกัดพรรคของตน มิให้กระทำการอันเลวทรามต่ำช้า กระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง หรือมีความประพฤติที่เสื่อมทราม ผิดจริยธรรมร้ายแรง พร้อมกับดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อยกระดับคุณภาพของนักการเมืองให้สูงยิ่งขึ้น
แต่ที่พรรคเพื่อไทยกระทำต่อ ส.ส.ของพรรคเหล่านี้ ยังสงสัยอยู่ว่า มีเจตนาแท้จริงประการใด
2) การดำเนินการของพรรคเพื่อไทย มีลักษณะเลือกปฏิบัติ หรือสองมาตรฐาน เนื่องจากมีการละเว้น ไม่ดำเนินการกับ ส.ส.ของพรรคอีกหลายคน ที่อาจมีพฤติกรรมเลวร้ายยิ่งกว่าที่ถูกลงโทษไปแล้ว หรือไม่
เพราะตามที่อ้างว่า "เป็นบุคคลที่ไม่ปฎิบัติตามมติและแนวทางการดำเนินการของพรรค โดยจงใจกระทำตนเป็นปฎิปักษ์และฝ่าฝืนแนวนโยบายของพรรคอย่างชัดแจ้ง... เพื่อมิให้ประชาชนที่มีความไว้วางใจต่อพรรคเพื่อไทยเกิดความสับสน จึงไม่ให้บุคคลทั้ง 2 ทำกิจกรรมในนามพรรคอีก..."
แสดงว่า ส.ส.คนไหนไม่ปฏิบัติตามมติและแนวทางของพรรคฯ ก็จะต้องถูกลงโทษ ขึ้นป้ายประนาม ตะเพิดพ้นพรรค เหมือนๆ กัน ใช่หรือไม่?
ถ้าอย่างนั้น... ถามว่า กรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไปเป็นแกนนำเสื้อแดง รับคำสั่ง รับงาน หรือปลุกระดม ปลุกปั่น สั่งการ หรือดำเนินการ จนกระทั่งทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในบ้านเมือง ชักชวนให้คนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ผิดศีลธรรม เกิดวินาศกรรม เผาบ้านเผาเมือง ถูกครหาโดยสังคมส่วนรวม ฯลฯ
บางคนถึงขนาดปราศรัยปลุกระดม กระทบต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างอุกอาจ
ทั้งหมด เหตุใดจึงไม่ถูกดำเนินการลงโทษแต่ประการใดเลย?
ยกตัวอย่างกรณีของนายจตุพร ซึ่งขณะนี้ ปรากฏว่า อดีต สสร.2550 จำนวนนับ 10 ราย ได้ยื่นเรื่องต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง ส.ส.เนื่องจากกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยระบุถึงการกระทำหลายกรณี ต่างกรรม ต่างวาระ เช่น
ปราศรัยปลุกระดม ชี้นำ ยุยง ปลุกปั่น หรือสั่งการให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น การข่มขู่รัฐบาลว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง การจลาจล การเผาบ้านเผาเมือง หรือแม้แต่การสั่งการให้คนเสื้อแดงในต่างจังหวัดไปรวมที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อกระทำการบางอย่างทันที หากเกิดเหตุที่กรุงเทพฯ และในที่สุด ก็เกิดเหตุการณ์ดังที่ปราศรัย สั่งการ หรือปลุกระดมมวลชนเอาไว้ก่อนแล้วขึ้นจริงๆ
ยิ่งกว่านั้น ความเสียหายและรุนแรงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองที่ผ่านมา มีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีการแบ่งงานกันทำ ประกอบกันทั้งแกนนำมวลชน พรรคการเมือง และกองกำลังติดอาวุธ บทบาทและพฤติกรรมของนายจตุพรจึงมีส่วนกระหน่ำซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้เลวร้าย เกิดความเสียหายร้ายแรงยิ่งขึ้น ทั้งๆ ที่ ตนมีสถานะเป็น ส.ส. พึงปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงปลอดภัยในบ้านเมือง
แต่จนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ดำเนินการประนาม ตะเพิด หรือขับไล่นายจตุพรพ้นพรรค เหมือนเช่นที่กระทำกับ ส.ส. ที่กล่าวหาเขาว่าปฏิบัติตนเป็นปฏิปักษ์และฝ่าฝืนแนวนโยบายของพรรค
หรือพรรคเพื่อไทยจะยอมรับว่า สิ่งที่นายจตุพรและพวกกระทำต่อบ้านเมืองไปทั้งหมดนั้น เป็นแนวทางการดำเนินการ แนวนโยบายของพรรค หรือมติพรรค ถูกต้องแล้ว?
และเพื่อมิให้ประชาชนที่มีความไว้วางใจต่อพรรคเพื่อไทยเกิดความสับสน จึงสนับสนุนให้นายจตุพรและพวก ทำกิจกรรมในนามพรรคต่อไป ใช่หรือไม่?
3) การไม่ดำเนินการกับนายจตุพร ส.ส.ของพรรคนั้น จะเท่ากับยอมรับด้วยหรือไม่ว่า พฤติกรรมต่อไปนี้ เป็นแนวทางการดำเนินการ แนวนโยบายของพรรค หรือมติพรรค
ไม่ว่าจะเป็น การกล่าวเท็จในที่ประชุมรัฐสภา หรือในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หรือในการขึ้นเวทีปราศรัยต่อประชาชน ถ่ายทอดกระจายเสียงผ่านสื่อสาธารณะ โดยเจตนาจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงสำคัญ นำไปสู่การปลุกปั่น สร้างความเกลียดชังในสังคม มุ่งหมายจะให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ต่อต้าน หรือล้มล้างการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
ยกตัวอย่าง การใช้คลิปตัดต่อเสียงของนายกรัฐมนตรี นำมาใส่ร้ายกล่าวหาว่านายกฯ สั่งฆ่าประชาชน แม้กระทั่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพิสูจน์แล้ว ยืนยันตรงกันว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นการตัดต่อเสียงของนายกฯ โดยที่เสียงต้นฉบับไม่มีการพูดสื่อความหมายในลักษณะดังกล่าวเลย แต่ก็ยังไม่ยุติการบิดเบือน นำหลักฐานเท็จมาปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในสังคม
การโกหกว่านายกฯ ไม่ได้อยู่ในรถที่คนเสื้อแดงรุมทำร้ายในกระทรวงมหาดไทย เมษายน 2552, การโกหกว่ารัฐบาลแทรกแซงคดียึดทรัพย์ และขัดขวางขั้นตอนการพิจารณาฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ, การโกหกว่ารัฐบาลมีแผนลับสั่งฆ่าประชาชน, การโกหกเรื่องชู้สาวของบุคคลระดับสูงกับคนในรัฐบาล, การโกหกว่าทางการกัมพูชามีเทปลับของคนในรัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่การทูตของไทย, การโกหกว่านางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิตในเหตุการณ์ 7 ต.ค.2551 เพราะหนีบระเบิดมาร่วมชุมนุมพันธมิตร ฯลฯ
พรรคเพื่อไทยไม่ควรจะสองมาตรฐาน และไม่ควรปกป้อง ส.ส.ที่ทำให้พรรคเสื่อมเสีย |
|
วันที่ 1/9/2010 |
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|