• วันละคลิป**ตร.หญิงรุดชี้แจง ผบก.หลบ อีกคลิปหน้าโต๊ะพระ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 24 ก.ย. 53 เวลา 09:54:22 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เพ็ชร์ลูกโดนอ่วม ปปป.สอบทุจริต อีกคดี-เหยื่อสาว โชว์คลิปถูกผจก. ลวนลามในสนง.
หน้าพระ - คลิปหลักฐานอีกชุดที่ พล.ต.ต.กอดจูบซุกไซ้ตำรวจหญิง หลังจากนำพระพุทธรูปไปตั้งบนโต๊ะหมู่บูชา ภายในห้องทำงาน เมื่อเสร็จแล้ว พล.ต.ต.คนดังกล่าว ยังตามเข้าไปนัวเนียกับเหยื่ออีก ต่อหน้าพระพุทธรูป
|
เปิดอีกคลิปผู้การ"เพ็ชร์ลูก"จูบกอดนัวเนียตำรวจหญิงหน้าโต๊ะหมู่บูชาในห้องทำงาน หลังให้ตำรวจหญิงอุ้มพระพุทธรูปไปจัดวางที่โต๊ะบูชา พล.ต.ต.คนดังก็เดินตามไปกอดจูบกันดูดดื่ม ผบช.ภาค 6 สั่งกก.สอบสวนวินัยให้รีบรายงานผลสอบให้เสร็จในวันนี้ ก่อนจะเสนอผบ.ตร. ลงโทษต่อไป ตร.หญิงที่ปรากฏในคลิปรุดพบผบช.แล้ว แต่ยังไม่พร้อมเข้าให้การกับกก.สอบวินัย แฉคลิปอาจหลุดตอนที่มีช่างไปซ่อมระบบคอมพ์-วงจรปิด โผล่อีกคลิปเหยื่อสาวพนง.บัญชีร้องปวีณาโดนผจก.ลวนลามอนาจาร ล้วงกระ โปรงจับจิ๋ม พอร้องเจ้าของบริษัทกลับโดนไล่ออก เพื่อนที่เอาคลิปวงจรปิดมาให้ก็โดนให้ลาออกเช่นกัน
จากกรณีพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. สั่งสอบสวนเรื่องที่พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก เสียงก้อง ผบก.ภ.จว.ตาก ไปปรากฏในคลิปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตำรวจหญิงในห้องทำงานภายในบก.ภ.จว.ตาก ทั้งกอดปล้ำลูบคลำก่อนหายเข้าไปในห้องน้ำทั้งคู่นานหลายนาที ต่อมาพล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ผบช.ภาค 6 สอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีมูล และสั่งให้พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูกไปช่วยราชการที่บช.ภาค 6 เป็นเวลา 90 วันและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยร้ายแรง ล่าสุดมีเปิดเผยแพร่คลิปอีกอันเป็นภาพตำรวจหญิงคนเดิมนำแฟ้มเอกสารไปให้ผู้การเพ็ชร์ลูกเซ็น และมีการกอดจูบลูบไล้กันกันเนีย ตามที่ "ข่าวสด" เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงผลสอบสวนของพล.ต.ต. เพ็ชร์ลูก ว่า ผลการสอบสวนยังมาไม่ถึงตน คาดว่ายังสอบสวนไม่ถูกต้อง เมื่อถามว่า ได้เห็นพฤติกรรมของผบก.ภ.จว.ตากผ่านทางคลิปหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ยังไม่เห็น ยังมาไม่ถึงตน เห็นจากภาพนิ่งของหนังสือพิมพ์เท่านั้น
เมื่อถามว่า คลิปดังกล่าว พล.ต.ต.เพ็ชร์ลูกระบุว่าเป็นการตัดต่อ เพื่อกลั่นแกล้งเนื่องจากอยู่ในช่วงของการแต่งตั้งข้าราชการตำวจ พล.ต.อ. วิเชียรกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องดูผลการสืบ สวนว่าคลิปเป็นของจริงหรือของปลอม เมื่อถามว่า นำเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และพฤติกรรมดังกล่าวมาเป็นหลักในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และ ตร.นำมาใช้แล้ว
ที่ จ.พิษณุโลก พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ผบช.ภาค 6 ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้พล.ต.ต. เพ็ชร์ลูกต้องมารายงานตัวตามคำสั่งย้ายมาประจำที่ตำรวจภูธรภาค 6 ระยะเวลา 90 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเดินทางมารายงานตัวหรือยัง คาดว่าต้องมารายงานตัวตามคำสั่งในวันนี้ และเมื่อมาแล้วก็ต้องมาพบตน ขณะที่จังหวัดตากวันนี้ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.จำลอง น้อมเศียร ผบก. สส.ภาค 6 ไปรักษาการผบก.ภ.จว.ตากแล้วเช่นกัน และต้องเร่งดำเนินการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจ ภ.จว.ตากเป็นการด่วน
พล.ต.ท.สุรสีห์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.ชัยณรงค์ วงษ์สุนทร รอง ผบช.ภาค 6 ที่ตั้งเป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงลงพื้นที่ไปสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และจะให้เสร็จตามกำหนดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการลงมาภายใน 3 วัน นั้นคือวันที่ 24 ก.ย.นี้ หากผลสอบออกมามีมูลว่ามีความผิดจริงจะนำเสนอผลสอบสวนให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ ขั้นตอนต่อไป สตช.ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อพิจารณาโทษต่อไป
ผบช.ภาค 6 กล่าวว่า เรื่องคดีความ หากมีผู้เสียหายที่เป็นตำรวจหญิงมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษ และทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดตากก็เปิดช่องทางให้ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนตำรวจหญิงที่ปรากฏในภาพวีซีดีนั้นได้มาพบตนแล้ว แต่ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์การล่วงละเมิดทางเพศให้กับเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดหรือไม่ พล.ต.ท. สุรสีห์กล่าวว่า ตำรวจโดยทั่วไปมีวินัยในตัวเองอยู่แล้ว และส่วนใหญ่ก็มีวินัย มีเพียงส่วนน้อยที่ทำไม่ดีเป็นเรื่องเสื่อมเสียของตัวบุคคลเอง และสังคมก็ประณาม ตำรวจมีวินัย มีมาตรฐานการลงทัณฑ์อยู่แล้ว ตำรวจทุกคนรู้หมด แค่ตำรวจหญิงเข้าไปใกล้ชิด ไม่มีพฤติกรรมอื่นมีโทษทางวินัยที่หนักพอควรแล้ว ถ้าเป็นตำรวจชั้นประ ทวนก็จะถูกสั่งขัง 30 วันทันที ถ้าเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีโทษกักยาม 30 วัน ถ้าอย่างอื่นก็เจอวินัยร้ายแรง ปลดออก ไล่ออก
เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต. จำลอง น้อมเศียร ผบก.สส.ภาค 6 รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.ตาก ได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดตาก และเข้าพบนายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก เพื่อขอทราบนโยบายในการทำงาน
มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดในห้องทำงานของผบก.ภ.จว.ตากนั้นติดตั้งมาหลายปีแล้ว โดยผบก.ภ.จว.ตากคนเก่าเป็นคนติดตั้งไว้ โดยที่ผู้การคนต่อๆ มาไม่ทราบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ส่วนที่มีคลิปดังกล่าวออกมาเผยแพร่นั้นคาดว่าเป็นเพราะเมื่อเดือนสองเดือนก่อน ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของสำนักงานตำรวจ จ.ตาก ซึ่งควบคุมการทำงานและการบันทึกกล้องวงจรปิดเกิดเสีย จึงให้ช่างมาซ่อม จากนั้นไม่นานก็มีการแพร่คลิปนี้ออกมา
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ดาบตำรวจหญิงที่ปรากฏอยู่ในคลิป พร้อมด้วยสามีที่เป็นตำรวจชั้นประทวน ได้ยื่นลาพักร้อนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยทั้งคู่ปิดบ้านพักเดินทางออกนอกพื้นที่จ.ตากไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าพล.ต.ต.เพ็ชร์ลูกกับดาบตำรวจหญิงและสามีได้มีการเจรจาตกลงกันบางอย่างไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่มีการร้องเรียนและเผยแพร่คลิปนี้ใหม่ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันมีคลิปของพล.ต.ต.เพ็ชร์ลูกออกมาเผยแพร่อีกคลิป ซึ่งเป็นคลิปที่ 3 แล้ว เป็นภาพในห้องทำงานจุดเดิม โดยตำรวจหญิงคนเดิมเข้ามาในห้องพัก เพื่อช่วยพล.ต.ต.เพ็ชร์ลูกนำพระพุทธรูปไปวางไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาภายในห้องทำงาน เมื่อจัดแจงวางพระ พุทธรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งพล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก กับตำรวจหญิงก็สวมกอดและจูบกันอยู่นานตรงหน้าโต๊ะหมู่บูชา
เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.สุรสีห์กล่าวอีกครั้งว่า วันนี้ผบก.ภ.จว.ตากไม่ได้เดินทางมาพบ จึง สั่งการให้พล.ต.ต.ประสาน บุณยะปาน รอง ผบช.ภาค 6 เป็นผู้รับผิดชอบในการรายงานตัวของผบก.ภ.จว.ตาก ส่วนตนจะเดินทางเข้ากรุง เทพฯ เพื่อร่วมงานเกษียณอายุราชการตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบภายหลัง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.วงศ์เทพ วงศ์พรหมเมศร์ ผกก.ฝอ.ภ.จว.ตาก สังกัดภูธร จ.ตาก ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาในการแต่งตั้งโยกย้าย ตร.ทุกท่าน ลงวันที่ 24 ส.ค.2553 เรื่องขอให้ย้ายพล.ต.ต.เพ็ชร์ลูก เสียงก้อง ผบก.ภ.จว.ตาก ออกจากพื้นที่เนื่องจากมีเจตนาจงใจฉ้อราษฎร์-บังหลวง อันเป็นเหตุให้รัฐเกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่องหลายกรรมหลายวาระ จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องคดีอาญา หลายเรื่อง หลายข้อหา
จ.พะเยา นางเจริญศรี ไชยขัติย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบข่าวของตำรวจชั้นผู้ใหญ่กระทำการล่วงเกินตำรวจหญิงผู้ใต้บังคับบัญชาในห้องทำงาน โดยจรรยาบรรณของข้าราชการไม่ควรจะเกิดขึ้นเพราะเป็นการละเมิดผู้ที่อ่อนเยาว์กว่าย่อมไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าฝ่ายผู้หญิงจะสมยอมหรือถูกข่มขู่ก็ตาม เรื่องกรณีดังกล่าวตนคิดว่าอาจจะมีซุกซ่อนอยู่ในสังคมไทยที่ไม่ได้รับการเปิดเผยอีกไม่น้อย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการข่มเหง ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะแต่บุคคลทั้งสองเท่านั้น แต่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็กระทบด้วย ทั้งสามีและลูกของฝ่ายหญิงถ้ามี และภรรยาและลูกของนายตำรวจใหญ่ จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกว่าในฐานะผู้หญิงกำลังถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จากเพศตรงข้ามอย่างไม่เหมาะสม เหมือนผู้หญิงทั้งประเทศ และอาจจะถึงทั้งโลกถูกกระทำไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานตำรวจเป็นหน่วยงานที่มีเกียรติ เป็นที่พึ่งของประชาชน แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นประชาชนจะพึ่งใคร
"สิ่งที่เกิดขึ้นกับฝ่ายหญิงถึงแม้ว่าจะถูกบังคับหรือข่มขู่หรือไม่ก็ตามต้องได้รับความเป็นธรรม เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เช่นนี้แล้ว ตัวผู้ถูกกระทำ ครอบครัว และอนาคตเรื่องงาน ย่อมกระทบ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องให้กำลังใจแก่ผู้หญิง พร้อมกันนี้อยากย้ำไว้เสมอว่าศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ทั้งหญิงและชายเท่าเทียมกัน จึงขอประณามการกระทำดังกล่าวและขอให้กำลังใจแก่ผู้ถูกกระทำ" นางเจริญศรีกล่าว
วันเดียวกัน น.ส.นิด (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่บัญชีบริษัทแห่งหนึ่งย่านกระทุ่มแบน เข้าร้องต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ที่คลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่าถูกผู้จัดการฝ่ายบุคคลกระทำการอนาจารด้วยการใช้มือล้วงจับอวัยวะเพศ เมื่อทำเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าของบริษัทกลับถูกบังคับให้ลาออก จึงต้องมาขอความช่วยเหลือร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ
น.ส.นิดกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้รับวางบิลไปให้ทำการเบิกจ่าย ซึ่งการวางบิลแต่ละครั้งจะต้องมานั่งรอแมสเซนเจอร์ที่ห้องพนักงานฝ่ายบุคคล ปกติจะมีพนักงานประจำฝ่ายประมาณ 7 คน วันเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ 3 คน มีนายวัชรินทร์ เจตน์เพชรสังข์ ผจก.แผนกบุคคล อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งตนได้ยินมาว่ามีพฤติกรรมลวนลามและทำอนา จารพนักงานหญิงหลายคนในบริษัทเป็นประจำ
"ในวันนั้นระหว่างนั่งรอ นายวัชรินทร์ลุกจากโต๊ะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆ พยายามจับเสื้อคลุมของหนู ก่อนใช้มือล้วงเข้าไปในกระโปรงจับอวัยวะเพศของหนูทันที หนูตกใจมากจึงลุกขึ้นเดินหนี แต่นายวัชรินทร์ดึงชายเสื้อของหนูไว้ และล้วงจับอวัยวะเพศของหนูอีกครั้ง ก่อนบอกว่าขอยืมเงิน 1 พันบาท หนูจึงรีบวิ่งออกจากห้องทันที แล้วไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง แต่เพื่อนร่วมงานบอกว่าไม่สามารถช่วยได้ เพราะกลัวตก งาน หนูจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.แสมดำ ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน" น.ส.นิดกล่าว
เหยื่อสาวกล่าวว่า ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. เจ้า ของบริษัทได้โทร.เข้ามือถือ ให้ตนเข้ามาเคลียร์ในวันจันทร์ที่ 13 ก.ย. โดยมีนายวัชรินทร์ และผู้จัดการฝ่ายบัญชีร่วมอยู่ด้วย เจ้าของบริษัทถามตนว่าจะเอาอย่างไร เพราะต้องการให้ยอมความ ต้องการเงินเท่าไหร่ แต่ตนยืนยันว่าไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้นายวัชรินทร์ยอมรับในสิ่งที่ทำกับตน
"เจ้าของบริษัทกลับไม่สนใจ สั่งให้พนักงานหญิงคนหนึ่งในห้องประชุมล้วงเข้าไปในกระ โปรงของหนู แล้วถามโดนอวัยวะเพศไหม พนักงานหญิงคนดังกล่าวบอกว่าโดน แต่เจ้าของบริษัทไม่เชื่อ สั่งให้พนักงานหญิงอีกคนล้วงอีกครั้งแล้วถามว่าโดนหรือไม่ พนักงานหญิงคนดังกล่าวบอกว่าโดน เจ้าของโรงงานก็ยังไม่เชื่อ จึงเดินเข้ามาถกกระโปรงของหนูขึ้นจนถึงเอวต่อหน้าคนในห้องประชุมทำให้หนูเกิดความอับอายอย่างมาก" เหยื่อสาวกล่าว
น.ส.นิดกล่าวว่า หลังจากนั้นตนพยายามขอร้องให้เพื่อนร่วมงานทั้ง 2 คนเป็นพยานให้ แต่ทั้งคู่บอกว่าคงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะกลัวถูกไล่ออก ตนจึงไปขอร้องเพื่อนอีกคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ไอทีดูแลกล้องวงจรปิดของบริษัท นำเทปที่โดนอนาจารมาให้และนำไปมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน ต่อมาวันที่ 16 ก.ย. เพื่อนคนดังกล่าวบอกว่าโดนเจ้าของบริษัทบังคับให้ลาออก ตนจึงรีบไปพบเจ้าของบริษัท ก้มลงกราบเท้าขอร้องว่าอย่าให้ลาออกเลย เพราะมีลูกติดวัย 4 ขวบต้องเลี้ยงดู แต่เจ้าของบริษัทกลับบอกว่าให้ตนยืนยันว่านายวัชรินทร์ไม่ได้ลวนลาม แต่ตนไม่ยอม เจ้า ของบริษัทจึงสั่งให้ตนกับเพื่อนเซ็นใบลาออกทั้งคู่ ก่อนตัดสินใจเข้าร้องเรียนครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปวีณา หงสกุล ประ ธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์ กรสาธารณประโยชน์) ได้ประสานไปยังพ.ต.อ. สุนทร อัมพรายน์ ผกก.สน.แสมดำ เพื่อเร่ง ดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อช่วยเหลือในเรื่องค่าจ้างกับผู้เสียหายทั้งสองคนทันที
ส่วนพ.ต.อ.สุนทร อัมพรายน์ ผกก.สน. แสมดำ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทำสำนวนดำเนินคดีแจ้งข้อหากล่าวหาทำอนาจาร ส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป ส่วนเรื่องจะให้ทางบริษัทรับเข้าทำงานคงไปบังคับไม่ได้ ผู้เสียหายต้องร้องศาลแรงงาน ตนก็ยังไม่ได้ดูคลิป เพราะอยู่กับร้อยเวรเจ้าของคดี อย่างไรก็ตาม สั่งให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพราะการจับโดนอวัยวะเพศหรือไม่โดนไม่สำคัญ แค่ลวนลามก็ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว
ข่าวจาก ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3041 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 24 ก.ย. 53
เวลา 09:54:22
|