พบเงินสดเกือบ 5 หมื่นบาท ยัดชักโครกห้องน้ำ รพ.ลำปาง หลังคนไข้แจ้งกดน้ำไม่ลง ผอ.โรงพยาบาลคาดเป็นของคนไข้ที่มีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากเคยพูดว่าซ่อนเงินไว้ มอบเจ้าหน้าที่เร่งตามหาเจ้าของ ...
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. พ.ต.ท.นวพล พงษ์ไพโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งจาก นายอธิฐาน วงศ์ใหญ่ รอง ผอ.รพ.ลำปาง ว่า พบเงินสดจำนวนมากในชักโครกห้องน้ำ รพ.ลำปาง ชั้นที่ 5 จึงเดินทางไปสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สอบสวน สืบสวนจำนวนหนึ่ง หลังจากไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่แผนกช่างของ รพ.ได้นำเงินสดที่อยู่ในชักโครกออกมาทั้งหมดแล้ว โดยเงินสดทั้งหมดนับได้รวม 43,800 บาท อยู่ในสภาพที่เปียกโชกไปด้วยน้ำ และถูกนำขึ้นไปพึ่งอากาศให้แห้ง หลังจากก่อนหน้านั้น ได้ถูกพบยัดอยู่ในท่อชักโครก ภายในห้องน้ำหมายเลข 2 ชั้น 5 ตึกศัลยกรรมหญิง ซึ่งก่อนหน้าที่จะพบเงินดังกล่าว ได้มีคนไข้ไปแจ้งกับพยาบาลว่า ไม่สามารถกดชักโครกได้ คล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างไปอุดตันในท่อระบาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่บำบัดน้ำเสีย ของ รพ.ลำปางเข้าไปทำการตรวจสอบและซ่อมแซม
ซึ่งเจ้าหน้าที่บำบัดน้ำเสีย ได้ทำการแก้ไขโดยการใช้อุปกรณ์ดันสิ่งที่อุดตันเพื่อให้หลุดออกไปจากท่อ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงได้ใช้ตะขอล้วงเข้าในท่อเพื่อเกี่ยวเอาสิ่งที่อุดตันออกมา ก่อนจะพบว่าสิ่งที่เกี่ยวติดออกมานั้นเป็นเงินแบงค์พัน จึงได้เกี่ยวออกมาอีก ก็พบว่ามีทั้งแบงค์ร้อย และแบงค์ร้อยติดออกมาจำนวนมากเมื่อเห็นดังนั้นจึงได้ ตัดสินใจใช้ค้อนทุบท่อในส่วนที่มีสิ่งอุดตันอยู่ ก็ถึงกับตกใจเมื่อพบว่ามีเงินสดก้อนใหญ่อัดอยู่เต็มท่อ ก่อนที่จะนำเรื่องไปแจ้งกับผู้บริหาร รพ.ลำปาง เพื่อดำเนินการต่อไป
นายอธิษฐาน วงค์ใหญ่ รอง ผอ.รพ.ลำปาง เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า มีคนไข้รายหนึ่งที่มีอาการทางจิต เป็นผู้หญิงชาวอำเภอวังเหนือคนหนึ่ง เข้ามารักษาการผ่าตัดนิ่ว เมื่อ 3 ธ.ค. วันที่ผ่านมาและได้พูดทีเล่นที่จริงว่า ตนเพิ่งแต่งงานใหม่และมีเงินสดจำนวนมาก กลัวว่าจะหายและจะเอาไปซ่อนไว้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จากนั้นคนไข้คนดังกล่าวก็ได้หนีกลับบ้านไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลที่ดูแลแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นของคนไข้รายนี้ก็ได้ และจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบตามที่อยู่ของคนไข้รายนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง โดยทาง รพ.ได้แจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพื่อติดตามหาเจ้าของเงินมารับต่อไป.
ข่าวจาก ไทยรัฐ