ตามที่พวกคุณได้ทำการบล็อกเว็บไซด์ต่างๆ เพื่อปิดกั้นข้อมูลข่าวสารต่างๆ นั้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และคิดผิดอย่างมหันต์ เพราะ มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความมีสิทธิเสรีภาพทางความคิด และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน แต่มนุษย์(คิดว่า)เป็นสัตว์สังคมที่ประเสริฐ จึงจัดระบบสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และจำเป็นต้องมีระบอบการปกครองที่เอื้อต่อความมีสิทธิเสรีภาพและเป็นที่ยอม รับของประชาชนและสอดคล้องกับความเจริญก้าวหน้าของสังคมโลก แต่การเข้ามา “แย่ง” อำนาจของกลุ่มพวกคุณไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการ “ล้ม” รัฐบาลที่มาจากการ “เลือก” ของประชาชน และยังใช้อำนาจด้วย “ความบ้าคลั่ง” และ “ป่าเถื่อน” ทุกรูปแบบในการทำลายล้างประชาชน ฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในความเห็นนี้จะขอพูดถึงเฉพาะประเด็น “การปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร” เท่านั้น เพราะการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารและขณะเดียวกันก็ยัดเยียดข้อมูลข่าวสารของ กลุ่มของคุณเพียงด้านเดียว ถือเป็นที่การกดขี่ข่มเหงสิทธิเสรีภาพทางความคิด อันเป็นวิธีการที่ “โง่เขลา” ของกลุ่มคุณที่เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการครอบครองอำนาจไม่ต่างจาก “มาเฟียถ่อย” ซึ่งเป็นการปกครองไม่แตกต่างจากการปกครองในสมัยโบราณเท่านั้น และไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน ตลอดจนไม่เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ จึงอยากจะให้ข้อคิดแก่พวกคุณ ดังนี้
1. การยอมรับเป็น “สมุน” ของ “มาเฟียถ่อย” ในการเข้ามาครอบครองอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง ทั้งที่พวกคุณดำรงชีพด้วยการ “รับ” เงินเดือนซึ่งมาจากภาษีของประชาชน กล่าวได้ว่าพวกคุณเป็นคนที่ “ไร้สำนึก” ของความรู้สึกรับผิดชอบต่อประชาชนผู้มีพระคุณ สามัญสำนึกของพวกคุณไม่หลุดจากความเป็นสัตว์ “เดรัฐฉาน” เพราะไม่รู้จักบุญคุณของประชาชนที่ให้ข้าวแดงแกงร้อนในการเลี้ยงปากท้องของพวกคุณ
2. โลกของสังคมสื่อสารได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การแข่งขันทุกประเภท จำเป็นต้องอาศัยการติดต่อสื่อสารที่ฉับไว และเช่นกันการปกป้องรักษาอำนาจของกลุ่มของตนเองเพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของกลุ่มด้วยการปิดกั้นข้อมูลจึงเป็นวิธีการของ “โจรถ่อย” เท่านั้น ทั้งที่พวกคุณก็น่ารู้ว่าฝ่ายประชาชนก็มีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเหล่า นั้น การกระทำแบบนี้จึงเป็นเรื่องของคน “เขลาเบาปัญญา” ที่เติมความเกลียดชังให้กับประชาชน เพราะประชาชนก็มีวิจารณญาณในการคิดวิเคราะห์ข้อมูลใดเป็นจริง ข้อมูลใดเป็นเพียงภาพลวงตา
3. การเสนอข้อมูลข่าวสารของพวกคุณให้ประชาชนรับรู้เพียงด้านเดียวจากสื่อที่พร้อมเป็น “สมุนถ่อย” ไร้สำนึกของความเป็น “คน” ซึ่งไม่ยอม “หลุด” จากความ “สัตว์เดรัฐฉาน” รับใช้พวกคุณ เป็นการกระทำที่ยัดเยียดข้อมูลเพียงด้านเดียว คิดหรือว่า ประชาชนจะหลงเชื่อและยอมรับการกดขี่ทางความคิด การกระทำแบบนี้ยิ่งเป็นการสร้างความโกรธแค้นพวกคุณมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่แปรเปลี่ยนความโกรธแค้นมาเป็นพลังพร้อมที่จะรบกับกลุ่มผล ประโยชน์ทุกรูปแบบ
4. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในความดีของพวกคุณนั้น ธรรมชาติของ “คนดี” เขาไม่ทำกัน เพราะ คนที่สังคมจะยอมรับว่าเป็น “คนดี” หรือ “คนเลว” มันจะปรากฏด้วย “พฤติกรรม” ของคนๆ นั้น ดังนั้น การโหมโฆษณาในยุคสังคมโลกาภิวัตน์ จึงไม่สามารถช่วยบดบังภาพ “ความเลว” ของ “คนเลว” ได้อีกต่อไป
5. พฤติกรรมการ “ข่มขู่” หรือ “กดขี่” ทางความคิดของพวกคุณในยุคสังคมโลกาภิวัตน์ ไม่แตกต่างจากความเป็น “สัตว์เดรัฐฉาน” หากพวกคุณมั่นใจว่า “มาเฟียถ่อย” ของพวกคุณเป็น “คนดี” จริง ก็ไม่จำเป็นต้องปิดกั้น เพราะประชาชนมีวิจารณญาณในการคิดวิเคราะห์ที่ดีเพียงพอ ดังนั้น อย่าดูถูก ความคิดของประชาชน เพราะหลายปีที่ผ่านมาเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ประชาชน “ไม่โง่”

ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงข้อสะท้อนเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่พวกคุณจะได้รับรู้ว่าประชาชนที่เป็น “ชาวบ้าน” ไม่ได้โง่อย่างที่พวก “มาเฟียถ่อย” คิด ทุกวันนี้พวกคุณได้รับแต่เสียงสาปแช่งก่นด่า ได้รับความเกลียด และมันก็สะสมกลายเป็นความแค้น สักวันเมื่อประชาชนทนไม่ไหว พวก “มาเฟียถ่อย” และ “สมุนรับใช้” ก็จะไม่มีที่ยืนในประเทศนี้อีกต่อไป
จงรับรู้ไว้ว่า เมื่อความ “อดทน” สิ้นสุด จะเกิดอะไรขึ้น เพราะ ณ เวลานั้น อาจมีคนคิดว่า ในเมื่อแผ่นดินนี้พวกคุณอยากครอบครองนัก พวกเราก็พร้อมที่จะสู้ให้ฉิบหายไปข้างหนึ่งเช่นกัน เพื่อ “ชำระล้าง” คราบความป่าเถื่อนให้หมดไป และพร้อมที่จะ “สร้าง” สังคมใหม่ที่ทุกคนเคารพสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน
และจงรับรู้ไว้อีกว่า ไม่มี “พลัง” ใด จะยิ่งใหญ่เท่า “พลังของมหาประชาชน” ใครก็ตามที่บังอาจแสดงตัวเป็นเจ้าของ มันจะได้รับแต่ความฉิบหายทั้งโคตรเหง้าเหล่าสถุน