หลังจากตำรวจเมืองนครปฐมผุดไอเดียเจ๋ง จัดโครงการ “จับ ปรับ แจก” โดย พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม และ พ.ต.ท.พงศกร อุปพงษ์ รองผู้กำกับฯ รณรงค์การสวมหมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่เทศบาลนครนครปฐม โดยมุ่งเป้าให้ประชาชนทุกคนสวมใส่หมวกนิรภัย หรือ
หมวกกันน็อก ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ออกตั้งด่านตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยที่ใช้รถจักรยานยนต์บนถนน แล้วให้ผู้ถูกจับตัดสินใจเลือกเอาว่า จะยอมเสียค่าปรับในการกระทำความผิดกฎหมายจราจรในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งมีอัตราโทษปรับตั้งแต่ 200-500 บาท หรือจะตัดสินใจที่จะไม่ต้องถูกปรับโดยซื้อหมวกนิรภัย ที่ทางโรงพักจัดไว้ให้มาสวมใส่ในราคา 100 บาท
แน่นอนว่าทุกคนที่กระทำความผิดย่อมไม่อยากถูกปรับ และยังประหยัดเงินได้หมวกนิรภัยใบเก๋ไปสวมใส่ในราคาถูกอีก 1 ใบ !!
เพียงแค่วันแรกในการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยหรือ
หมวกกันน็อกในโครงการ “จับ ปรับ แจก” บริเวณสามแยกหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ปรากฏว่า ผู้ที่ถูกจับกุมในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย มีความพอใจกับการซื้อหมวกนิรภัยที่ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมตั้งโต๊ะจำหน่ายไปสวมใส่ เหตุเพราะหมวกนิรภัยที่ซื้อไปเป็นหมวกที่มีคุณภาพดี มีความแข็งแรง ทนทาน สวยงาม มีลวดลายที่เข้ากับตัวรถจักรยานยนต์หลายๆ รุ่น และมีให้เลือกทุกสีตามความชอบใจ และที่สำคัญราคาถูกที่สุดเพียง 100 บาท อีกทั้งด้านหลังของหมวกยังตีตราโล่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมดูเท่ไปอีกแบบ ยิ่งทำให้หมวกนิรภัยขายดีเกินคาด
แทนที่ชาวบ้านจะกลัวถูกตำรวจจราจรจับ แต่กลับหมุนเวียนกันขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวม
หมวกกันน็อกออกมาให้ตำรวจจับ เพราะอยากได้
หมวกกันน็อกเพิ่มอีกใบ แถมบางรายหัวใสพาญาติพี่น้องตลอดจนเพื่อนข้างบ้านขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวม
หมวกกันน็อกตามกันมาเป็นพรวนที่จุดตรวจจับ ขณะที่บางรายมาติดต่อขอซื้อเป็นสิบใบ เอาไปแจกให้ลูกหลานได้ใส่กัน เพียงแป๊บเดียว
หมวกกันน็อก 500 ใบหมดเกลี้ยง ทำให้สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ต้องสั่งทำหมวกนิรภัยเพิ่มใหม่แทบไม่ทัน สร้างความมึนงงให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูเหมือนว่าคนนครปฐมตอนนี้ให้ความสนใจอยากใส่
หมวกกันน็อกกันทั้งเมือง
พล.ต.ต.พศิน บอกว่า โครงการ จับ ปรับ แจก ที่จัดขึ้นมาก็เพื่อแก้ปัญหาการไม่สวมหมวกนิรภัยของประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม เพราะจากสถิติที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตและการสูญเสียทรัพย์สินจากอุบัติเหตุจราจร อันเนื่องมาจากการใช้รถใช้ถนนมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ในเขต อ.เมืองนครปฐม มีโรงเรียน สถานศึกษา และสถานที่ราชการต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก บรรดานักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ มักจะใช้จักรยานยนต์ในการเดินทาง เพราะที่มีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความฝืดเคืองทางด้านการเงิน ประชาชนจึงไม่ค่อยมีการจับจ่ายใช้สอยเนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จึงไม่ต้องการที่จะเสียเงินซื้อหมวกนิรภัยเพิ่มเติมในราคาแพงให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
"อยากให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางมี
หมวกกันน็อกสวมใส่เพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องถูกจับปรับอีก จึงทำโครงการ “จับ ปรับ แจก" โดยมีสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ดูแลเรื่องการสั่งทำ
หมวกกันน็อกจากโรงงานที่ได้มาตรฐานและนำมาจำหน่ายให้ประชาชนแทนการเสียค่าปรับในราคาต้นทุน ก็หวังว่าชาวนครปฐมจะได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกคน 100 เปอร์เซ็นต์" พล.ต.ต.พศิน กล่าว
พ.ต.อ.วัฒนา เสริมว่า ทางโรงพักเมืองนครปฐมมีความห่วงใยประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนทุกคน อยากให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมักมีความสูญเสียถึงชีวิตถ้าไม่มีการสวมหมวกนิรภัย และเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย และตำรวจเองก็มิได้มุ่งหมายที่จะทำการเปรียบเทียบปรับผู้ที่ถูกจับกุม หากแต่ว่ามีความเป็นห่วงผู้ที่ถูกจับซึ่งหากมีหมวกนิรภัยสวมใส่ก็จะได้รับความปลอดภัยจากกรณีเกิดอุบัติเหตุ
"เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อหมวกนิรภัยที่มีราคาแพง ทำให้ประชาชนปฏิบัติตนถูกต้องตามกฎหมาย ทางโรงพักหวังว่าตลอดโครงการ 6 เดือนนี้ จะเห็นประชาชนทุกคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนสวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้นั่งซ้อนท้ายทุกคน เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ที่สำคัญ ประชาชนได้ปฏิบัติตนตามกฎหมายและไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก" พ.ต.อ.วัฒนา กล่าว
- อริย์ธัช พรอัศวโยธิน -