ย้อนหลังกันให้ฟังอีกครั้งหนึ่งสำหรับ ซีดีเอ็มเอ (CDMA: Code Division Multiple Access) เทคโนโลยีไร้สายดิจิตอลที่ใช้เทคนิคการกระจายแถบความถี่ (spread spectrum) ส่งคลื่นวิทยุผ่านแถบความถี่ช่วงกว้าง ที่ดูจะคุ้นหูกันมานานในบ้านเรา หลังจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เริ่มวางเครือข่ายการสื่อสารระบบซีดีเอ็มเอตั้งแต่ปี 2540 และเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2546 โดยบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด หรือ ฮัทช์ ใน 25 จังหวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และภาคกลางของประเทศไทย หลังจากนั้น ในปี 2547 คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้เห็นชอบโครงการขยายบริการโทรศัพท์มือถือระบบซีดีเอ็มเอในส่วนภูมิภาค ของ กสท มูลค่าการลงทุน 13,000 ล้านบาท โดยมีบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-อ็อคชั่น ด้วยราคา 7,199 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2548 ภายใต้เงื่อนไขสัญญาที่ระบุให้บริษัท หัวเหว่ยดำเนินการก่อสร้างและแบ่งการส่งมอบอุปกรณ์สถานีฐานจำนวน 1,600 สถานีเป็น 2 ระยะ แต่ให้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 26 ม.ค. 2550 นายวิชัย ดีเจริญกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายซีดีเอ็มเอ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT Telecom ในฐานะผู้จัดการโครงการขยายโทรศัพท์มือถือระบบซีดีเอ็มเอส่วนภูมิภาค 51 จังหวัด ของ กสท ให้ความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของ “CAT CDMA” จำนวน 1,600 สถานีฐาน ว่า ขณะนี้การตรวจรับสถานีฐานในภาคเหนือได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และกำลังดำเนินการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนที่จะตรวจต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ เรื่อยไปจนถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอันดับสุดท้าย สำหรับความสามารถในการเชื่อมต่อในระบบการสื่อสารไร้สายของ CAT CDMA นั้น ผู้จัดการโครงการขยายโทรศัพท์มือถือระบบซีดีเอ็มเอ กสท อธิบายว่า สถานีฐานจำนวน 1,600 สถานีของ กสท นั้นเป็นระบบเครือข่าย CDMA2000 1X ที่ให้ประสิทธิภาพในการส่งทั้งเสียงและข้อมูลในการดาวน์โหลดได้ถึง 153.6 kbps และ CDMA2000 1xEV-DO (First Evolution Data Optimized) ที่ดาวน์โหลดในระดับ 2.4 Mbps ทั้งนี้ ถ้าหากมีการเข้าใช้งานพร้อมกัน ตามเงื่อนไขการประกวดราคา หรือ ทีโออาร์ ระบุว่ามสามารถรองรับในส่วนของเสียง (Voice) ได้ถึง 2.3-2.5 ล้านรายในเวลาเดียวกัน ด้านข้อมูล (data) ถ้าเป็น CDMA2000 1X จะรองรับได้ในหลักแสน แต่ CDMA2000 1xEV-DO จะรองรับได้ราว 3 แสนราย นายวิชัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ส่วนแนวโน้มการขยายเครือข่ายในเฟส 3 นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารและจัดทำข้อกำหนดต่างๆ โดยจะมีการเพิ่มอีกประมาณ 300 สถานีฐาน เสริมใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ แต่จะเน้นที่ 12 จังหวัดใหญ่ๆ ทั้งในภาคเหนือ ใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการใช้งานจำนวนมากก่อน คาดว่าคงเสร็จสมบูรณ์ราวปี 2551 เพราะหลังจากที่กระบวนการด้านเอกสารเรียบร้อยแล้ว ยังต้องให้เวลาผู้รับจ้างอย่างน้อย 6 เดือน ในการเตรียมการและดำเนินการด้วย นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส หน่วยธุรกิจซีดีเอ็มเอ กสท กล่าวว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจซีดีเอ็มเอ ของ กสท หรือ CAT CDMA นั้นมีแผนจะทำธุรกิจได้เต็มที่ในต้นเดือน เม.ย. พร้อมกันนี้ ทาง กสท ก็ได้มีการปรับโครงสร้างยกระดับซีดีเอ็มเอขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งสายงาน มุ่งพัฒนาคุณภาพและความครอบคลุมของโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีคุณภาพของเครือข่ายที่ดี ไม่ใช่เชื่อมต่อสัญญาณแล้วประสบปัญหาสายหลุด ทั้งนี้ ในการขยายพื้นที่ความครอบคลุมในลำดับแรกจะคำนึงถึงประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ โดยอาจเน้นที่ 9-12 จังหวัดก่อนในปีนี้ รวมถึงการเสริมจุดบอดในอาคารและบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครด้วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน กสท กล่าวเสริมว่า นอกจากเหนือจากการเพิ่มความพร้อมด้านโครงข่ายแล้วยังจะมีการสร้างความหลากหลายเกี่ยวกับอุปกรณ์ลูกข่ายที่รองรับซีดีเอ็มเอ โดยขณะนี้มีทั้งโมโตโรล่า ซัมซุง หัวเหว่ย รวมถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่น คอนเทนท์และมัลติมีเดียไร้สายร่วมกับพันธมิตรควบคู่กันไป ตลอดจนการมีระบบลูกค้าสัมพันธ์ Customer Relationship Management: CRM) ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพเทียบเท่าสากล โดยวางเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานระบบซีดีเอ็มเอให้ได้ถึง 150,000 เลขหมายในปี 2550 จากจำนวน 1.2 หมื่นราย ทำรายได้เฉพาะค่าแอร์ไทม์ ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ในขณะที่ยอดลูกค้าของบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด หรือ ฮัทช์ ผู้ทำการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบซีดีเอ็มเอในพื้นที่ 25 จังหวัด มีอยู่ประมาณ 730,000 ราย “การเจรจาฮัทช์ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะคงไม่ประสบความสำเร็จ หากมี 2 เครือข่ายแล้วแย่งกันทำตลาด จึงต้องสร้างความร่วมมือว่าจะทำอย่างไรให้สามารถให้บริการซีดีเอ็มเอได้ทั่วประเทศ โดย 51 จังหวัด จะเป็นลูกค้า CAT CDMA และอีก 25 จังหวัดที่เหลือยังคงเป็นลูกค้าของฮัทช์ แต่ก็ถือเป็นลูกค้าของ CAT ด้วย โดยต้องสร้างให้ผู้ใช้เข้าใจว่าทั้งหมดนี้คือระบบซีดีเอ็มเอที่ใช้ได้ทั่วประเทศและไม่มีความแตกต่างในการให้บริการ และแอพพลิเคชั่นและคอนเทนท์ที่เกิดขึ้นนั้น ทั้ง 51 จังหวัดจะสามารถใช้บริการของฮัทช์ได้ด้วย” นายจิรายุทธ กล่าว นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ปิดท้ายให้ความมั่นใจว่า ในปี 2550 นี้ จะเคลียร์ปัญหากับฮัทช์ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน พร้อมทั้งขยายสถานีฐานเพื่อให้บริการได้อย่างครอบคลุม และจะพยายามผลักดันให้ซีดีเอ็มเอ ก้าวขึ้นมาเป็นรายได้สำคัญอีกตัวหนึ่งของ กสท อย่างแน่นอน ในวันที่ 1 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ซีดีเอ็มเอ เทคโนโลยีไร้สายความไวสูง อีกหนึ่งทางเลือกของผู้คนในยุคข้อมูลข่าวสารกำลังจะเปิดให้ก้าวเดินอย่างเต็มระบบ โดยหวังว่าการลงทุนของ กสท ในครั้งนี้จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญและเป็นตัวอย่างที่ดีในการฉุดดึงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้หันกลับมาตระหนักถึงคุณภาพในการบริการ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ มากกว่าการแข่งขันกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาหรือพยายามก้าวเข้ามาผูกขาดตลาดจนก่อให้เกิดความรวนเรไปทุกภาคส่วนดังที่เป็นมา ปาจารีย์ พวงศรี itdigest@thairath.co.th
บทความจาก : ไทยรัฐ |