ตัวแทนภาคปชช.ติงรัฐมองไม่รอบด้าน แนะคำนึงถึงผู้ได้รับผลกระทบและสังคมควบคู่ความเจริญ หนุนส่งเสริมความรู้ไอที สร้างประโยชน์ยั่งยืน-เกิดอาชีพ...

กลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจและจับตามอง เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันและแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า ต้องการยกเลิกโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ หรือ หวยออนไลน์ ทั้งที่บริษัทคู่สัญญาอย่าง ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี ดำเนินการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์เสร็จสิ้นมากกว่า 5,000 เครื่องแล้วก็ตาม

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในส่วนที่คัดค้านและสนับสนุน ถึงประโยชน์และผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนแรงสะเทือนที่กระทบมาถึงแวดวงไอที เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมีเอี่ยว และถูกลากเข้าไปเป็นตัวแปรสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ล่าสุด นายตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ในเครือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า หากรัฐบาลต้องการล้มเลิกโครงการสลากออนไลน์ บริษัทฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ประชาชน และประเทศ แม้จะมีผู้เสียหายหลายส่วนที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ตัวแทนและคนเดินโพยทั่วประเทศ และบริษัท จีเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้ถือหุ้น โดยหากมีความจำเป็น บริษัทฯ จะเจรจาชดเชยค่าเสียหายตามสัญญาอย่างถูกต้องและชอบธรรม

แม้ก่อนหน้านี้ นายตรีจักร จะออกมาแถลงว่า ล็อกซเล่ย์ จีเทค จะถือมติจากคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2552 ที่กำหนดให้ออกสลากการกุศลภายใน 90 วัน โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไปได้ภายในเดือน มี.ค. 2553 ซึ่งบริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายรายการละ 75 สตางค์ไม่รวม VAT คิดเป็นรายได้เฉลี่ยกว่า 1,800 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใน บมจ.จีเทค คอร์ปอเรชั่น ยังเตรียมฟ้องร้องรัฐบาลหรือสำนักงานสลากฯ เพื่อพิทักษ์ค่าขาดผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากการจัดหาการลงทุน ค่าอุปกรณ์และระบบ ที่บริษัทฯ ลงทุนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท

ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการเครือข่ายพลเมืองเน็ต แสดงความเห็นว่า โดยส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการจำหน่ายสลากออนไลน์ เนื่องจากไม่มีความชัดเจนต่อผลกระทบและผู้เสียประโยชน์จากการเปิดจำหน่าย รวมถึงผู้ขายและผู้พิการที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วประเทศกว่า 30,000 คน หากรัฐบาลดำเนินโครงการดังกล่าวจริง ก็จำเป็นต้องมีกฎหมายและมาตรการรองรับคนเหล่านั้น จึงถือเป็นการคิดแบบองค์รวมและมองอย่างรอบด้าน ไม่ใช่มองเพียงประเด็นทางเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญคือ การพัฒนาโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนแก่ประชาชน ไม่ใช่เน้นที่การเสี่ยงโชค

“สลากออนไลน์อาจตอบโจทย์ด้านการเสี่ยงโชคได้ตรงเป้าหมาย แต่ถือเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้โดยไม่เกิดการพัฒนา เทคโนโลยีและไอทีสามารถยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่างๆ ได้อีกเป็นจำนวนมาก กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันคิด และต่อยอดประโยชน์ดังกล่าวสู่การพัฒนาที่ดีในด้านอื่นๆ ควบคู่กันไป ไม่ใช่เลือกใช้เพื่อประโยชน์สำหรับการเสี่ยงโชคเท่านั้น”

น.ส.สุภิญญา ให้ข้อมูลต่อว่า รัฐบาลควรเน้นให้ประชาชนเข้าใจและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง ศักยภาพทางความคิด และก่อให้เกิดการสร้างอาชีพ เนื่องจากในอนาคตยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามาทดแทนแรงงานคนและช่วยอำนวยความสะดวกแก่มนุษย์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยยังมีผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึงเศรษฐกิจเชิงข้อมูล (Information Economy) และเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่พร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ รัฐบาลควรพิจารณาถึงผลกระทบในภาคส่วนเหล่านี้เป็นอันดับแรก เพื่อตอบโจทย์ด้านสังคมควบคู่กับเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยวิธีดังกล่าวถือเป็นการปลูกฝังรากฐานทางความรู้ ทั้งยังช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคตได้เป็นอย่างดี

“สลากออนไลน์ไม่ใช่เรื่องแรกในสังคม ที่เทคโนโลยีขยับเข้ามาแทนที่มนุษย์ ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่สังคมควรเน้นและให้ความสำคัญ คือ ผลจากการพัฒนาเทคโนโลยี ไม่ใช่คำนึงถึงเพียงประโยชน์”

จากมุมมองของตัวแทนภาคประชาชน ท่ามกลางความขัดแย้งต่อประเด็นเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้น ในฐานะผู้มีอำนาจเด็ดขาด รัฐบาลควรตัดสินใจและดำเนินการโดยคำนึงถึงประโยชน์และผลกระทบ ทั้งปัญหาการพนัน เยาวชน และสังคม ควบคู่กับประเด็นทางเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังรอบด้าน แม้จะอาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นช่องทาง แต่การใช้ความสะดวกดังกล่าวสำหรับประเทศไทย ผู้เกี่ยวข้องควรพิจารณาความพร้อมกันอีกรอบ ว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้ตอบสนองความต้องการนี้ สมควรมีมาตรการรองรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะตามมาได้อย่างไร เพื่อทำให้สังคมไทยเจริญรุดหน้าและเติบโตไปพร้อมกันทุกด้าน ไม่ใช่เลือกปฎิบัติหรือเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง.

ปิยุบล ตั้งธนธานิช
itdigest@thairath.co.th