| • มาร์คบอกไปมัลดีฟส์ ไม่ได้ไปเที่ยว |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 27 ต.ค. 54 เวลา 11:22:39 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พบกันจริง- พรรคประชาธิปัตย์นำภาพถ่ายคู่กันระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายโมฮัมเหม็ด นาชีด ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ มามอบให้กับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เพื่อยืนยันว่าทั้ง 2 คนได้พบกันจริงที่มัลดีฟส์ ซึ่งอ้างว่าเป็นการหารือกันเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม
|
สื่อ เทศตั้งข้อสังเกตมาร์คไปมัลดีฟส์ถกแก้น้ำท่วม ระบุ จากการตรวจสอบจากหมายและเว็บไซต์ภารกิจประธานา ธิบดีตลอดจนข่าวสารต่างๆ ไม่พบว่าได้พบกัน อีกทั้งไม่ได้มีการแถลงข่าวทั้งก่อนไปและหลังกลับ ด้านรองโฆษกรัฐบาลอัดโฆษกปชป.แถไม่แคร์สื่อ มั่วนิ่มอภิสิทธิ์ไปหารือปัญหาน้ำท่วม วอลล์เปเปอร์งัดรูปโชว์ยันพบกันจริง ณัฐวุฒิยันเสื้อแดงที่ไปช่วยงานศปภ.ไม่มีอภิสิทธิ์ รวมทั้งไม่ได้กั๊กของบริจาคช่วยเฉพาะ กลุ่มเดียวกันเอง ลูกสาวทักษิณเผยพ่อห่วงใยคนไทยที่ประสบอุทกภัย ระบุบ้านจันทร์ส่องหล้าใกล้ท่วมแล้ว
พท.อัดลิ่วล้อมาร์คแถไม่แคร์สื่อ
เมื่อ วันที่ 26 ต.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงภารกิจของนายอภิ สิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ที่เกาะมัลดีฟส์ ว่า ความจริงนายอภิสิทธิ์จะไปไหนก็เป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ แต่ไม่ควรให้ข่าวเช่นนี้
"หางเครื่องไม่ควรออกมาแห่หรือแถแบบไม่ แคร์สื่อแบบนี้ จะโกหกคนไม่กี่คนได้ แต่ไม่สามารถโกหกคนทั้งประเทศในคราวเดียวกันได้ นายอภิสิทธิ์จะไปเที่ยวกับครอบครัวเป็นสิทธิ์ เหนื่อยมาเยอะ เจ็บมาเยอะ แต่จำเป็นอะไรต้องโกหก ทั้งที่ผู้นำประเทศอื่นไปพบประธานาธิบดีมัลดีฟส์ก็มีข่าวกันหมด แต่ทำไมเวลานายอภิสิทธิ์ไปพบกลับไม่มีข่าว หรือเป็นการเจรจาลับตามถนัด หรือแอบมีชื่ออื่น สัญชาติอื่นอีก"รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุไปหารือน้ำท่วมกับประธานาธิบดีมัลดีฟส์และเชิญไว้ นานแล้วนั้น แสดงว่านายอภิสิทธิ์รู้ล่วงหน้านานแล้วว่าน้ำจะท่วมใช่หรือไม่ เรื่องนี้ทำใจเชื่อได้ยาก จะไปปรึกษาเขาก็แปลกเพราะประเทศเขา มีพื้นดินรวมกันเพียง 300 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 349,106 คน ไปปรึกษาน้ำท่วมกันอย่างไรตั้ง 3 วัน
"แต่ที่รับไม่ได้ มันเรื่องอะไรที่จะให้นายกฯลาออก หากินกันง่ายๆ อย่างนี้เลย สังคมต้องตั้งสติดีๆ กลุ่มคนที่ทำการเมืองแบบนี้ ถึงขั้นบอกว่าปลุกนายกฯ 12 ชั่วโมง กว่าจะตื่นมาตี 4 แสดงว่าคิดว่านายกฯนอนตั้งแต่ 4 โมงเย็น ซึ่งนายกฯจริงคงไม่ว่างจัด ไปเที่ยวทะเลหรือรีบนอนเร็วในสถานการณ์คับขันแบบนี้ เหมือน นายกฯเงา"นายอนุสรณ์กล่าว
กังขามาร์คพบปธน.มัลดีฟส์
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. เว็บ ไซต์ข่าวเอเชียน คอร์เรสปอนเดนต์ โดยนาย แอนดรูว์ สปูนเนอร์ รายงานว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนเขียนบล็อกรายงานข่าวเอาไว้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ หนีไปเที่ยวอย่างหรูหราที่เกาะมัลดีฟส์ ในขณะที่กรุงเทพฯ กำลังเผชิญปัญหาน้ำท่วม ในช่วงแรกๆ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะปฏิเสธข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดประชาธิปัตย์ก็ยอมรับว่า มาร์ค หรือ นายอภิสิทธิ์ไปมัลดีฟส์จริง แต่ไม่ได้ชี้แจงตรงความเป็นจริง โดยอ้างว่านายอภิสิทธิ์ไปมัลดีฟส์ตามคำเชิญประธา นาธิบดีมัลดีฟส์และทั้งสองฝ่ายหารือกันถึงสถานการณ์น้ำท่วมด้วย
นาย สปูนเนอร์ ตั้งคำถามว่า ถ้านายอภิสิทธิ์จะไปมัลดีฟส์จริง เหตุใดถึงไม่แถลงข่าวการไปมัลดีฟส์ก่อนออกเดินทาง ทำไมต้องทำให้หมายนี้เป็นความลับเมื่อตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ ไม่พบข่าวสารอ้างถึงการเดินทางเยือนของนายอภิสิทธิ์แต่อย่างใด นอก จากนั้น ถ้านายอภิสิทธิ์ไปหารือถึงแผนรับมือน้ำท่วมจริง เหตุใดเมื่อกลับมาประเทศไทย จึงไม่แถลงข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการหารือกับผู้นำมัลดีฟส์
นายสปูน เนอร์ ระบุด้วยว่า ท้ายที่สุดประชา ชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่าคิด อย่างไรต่อกรณีนายอภิสิทธิ์ไปท่องเที่ยวหรูหรา ที่มัลดีฟส์ในช่วงที่ไทยกำลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
"วอลล์"อ้อมแอ้มหารือแก้น้ำท่วม
วัน เดียวกัน นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า การที่นายอภิสิทธิ์เดินทางไปประเทศมัลดีฟส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากเป็นการ นัดกันไว้ก่อนเป็นเดือนแล้ว เพราะประธานา ธิบดีมัลดีฟส์คงไม่ให้ใครเข้าพบง่ายๆ และรูปถ่ายก็ยืนยันแล้วว่าเป็นการพบกันจริง การพบกันก็มีการพูดคุยเรื่องน้ำ เนื่องจากมัลดีฟส์มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้ว เขาได้จัดตั้งกองทุน มาก่อนซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากโลกร้อนและสามารถขอเงินช่วยเหลือจากยูเอ็นได้ ของเราก็น่าจะมีแนวทางที่จะขอเงินช่วยเหลือจากยูเอ็นได้เหมือนกัน
ลูกสาวเผยทักษิณห่วงใยคนไทย
เวลา 13.45 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ดอนเมือง น.ส.พิน ทองทา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังนำของมาบริจาคว่า พ.ต.ท.ทักษิณแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในไทย โดยติดตามข่าวและสอบถามอยู่ตลอดว่าปริมาณน้ำมีมากเพียงใดและจะท่วมนานแค่ไหน ซึ่งช่วงที่จ.พระนครศรีอยุธยาท่วมหนัก พ่อก็แสดงความเป็นห่วงมาก เพราะห่วงพี่น้องคนไทยเสมอ
น.ส.แพทองธารกล่าวด้วยว่า บ้านพักส่วนตัวที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 น้ำเริ่มเอ่อเข้ามาในซอยแล้ว จึงเตรียมข้าวของออกมาบ้างแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะได้กลับไปนอนที่บ้านหรือไม่ ที่บ้านได้นำกระสอบทรายมากั้นสูงราว 1 เมตร
"อยากฝากกำลังใจให้พี่ น้องที่ประสบปัญหา เคยได้ยินว่าถ้าเกิดภัยธรรมชาติใหญ่ๆ จะทำให้คนในประเทศชาติรักกันมากขึ้น อยากให้เป็นไปอย่างนั้น อยากเห็นคนไทยรักกัน ช่วยกันให้กำลังใจกัน"น.ส.แพทองธารกล่าว
ด้าน น.ส.พินทองทากล่าวว่า ขอให้กำลังใจคนที่กำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงผู้ประสบภัยทุกคน เชื่อว่าทุกคนอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น วันนี้เท่าที่ตนเห็นคือทุกคนเกิดความเครียดกับน้ำท่วม โดยเฉพาะเพื่อนๆ และคนรอบตัว ซึ่งบอกไปว่าอย่าเครียดมาก เพราะคนที่เครียดส่วนใหญ่คือคนที่บ้านน้ำยังไม่ท่วม แต่เกิดความเครียดไปก่อนแล้วทำให้สุขภาพจิตเสีย เอาเวลาไปให้กำลังใจหรือเป็นอาสาสมัครแทนการนั่งเครียดอยู่ที่บ้าน และหาวิธีผ่อนคลายน่าจะดีกว่า
ยงยุทธเผยศปภ.-กทม.ต้องคุยกัน
ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงปัญหาการทำงานร่วมกันระหว่างศปภ.กับกทม.ว่า ต้องหันหน้าคุยกัน เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ มีผู้เสนออยากเห็นนายกฯกับผู้ว่าฯกทม.นั่งคุยกันสองคน ไม่ต้องมีคนอื่น ต่างฝ่ายเอาข้อมูลมานั่งคุยกัน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าปัญหาที่บานปลายมาจากกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าทุกส่วนก็มีส่วนที่จะถูกวิจารณ์ได้ แม้กระทั่งตน ที่สำคัญคือหากเกิดน้ำท่วมอีกจะต้องไม่เป็นเช่นเดิม ถ้ายังเป็นอีก ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบกัน ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ใช้คณะกรรมการ บูรณาการจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่มและภัยแล้ง เหมือนเป็นกระทรวงน้ำ แต่ไม่ต้องไปตั้งกระทรวงน้ำ ซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างถาวรจริงๆ และต้องมีระบบเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เมื่อถามว่าถึงเวลาที่พรรค เพื่อไทยต้องดึงกระทรวงเกษตรฯมาคุมเอง โดยแลกกระทรวงกันหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ให้ทำงานไปสักพักหนึ่ง ค่อยมาว่ากัน เอาเรื่องนี้ให้จบก่อน ส่วนการปรับย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย หลังจากย้ายผู้ว่าฯปทุมธานีไปแล้วนั้น เมื่อเรื่องน้ำดีขึ้น จะพิจารณาเป็นวาระปกติ กรณีผู้ว่าฯปทุมธานีเป็นวาระพิเศษ เพราะคนที่ต้องมาดูแลประสานระหว่างศปภ.กับกระทรวงและผู้ตรวจราชการกระทรวงจะ หายไป 2 คน จึงต้องเอามาเสริมแค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยว ข้อง เพราะผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารทุกคนเหนื่อยกันหมด ทำงานกันเต็มที่
แจงให้แกนนำแดงช่วยแจกของ
นายยงยุทธ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วนไม่พอใจศปภ.ที่มอบสิ่งของบริจาคให้แกนนำคน เสื้อแดงเป็นคนจัดการจนการแจกจ่ายไม่ทั่วถึงว่า ได้ทำ ความเข้าใจกันแล้ว อาจเป็นความเห็นของ ส.ส. คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ความเห็นของส.ส. ทั้งหมด อาจเป็นปัญหาจากการมาขอสิ่งของบริจาคแล้วไม่ได้เท่าที่ต้องการก็อาจรู้สึก ฉุนเฉียว เพราะเป็นห่วงประชาชน จึงต้องแก้ปัญหาเป็นจุดๆ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องจะมากลั่นแกล้งหรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่มีแน่ มีแต่เจตนาจะช่วยเหลือประชาชนจริงๆ เข้าใจทุกฝ่ายและพยายามแก้ไข และไม่ตำหนิใคร เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงด้วย ทั้งนี้คนเสื้อแดงอยากช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเหมือนกัน
ณัฐวุฒิแจงเสื้อแดงไม่มีอภิสิทธิ์
เวลา 14.00 น. ที่ศปภ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า คนเสื้อแดงเต็มใจเข้ามาช่วย และเป็นอาสาสมัครตั้งแต่เริ่มต้น ทำงานด้วยจิตอาสา ไม่มีอภิสิทธิ์หรือสิทธิพิเศษใดๆ ดังนั้น จึงไม่เป็นความจริงกรณีกล่าวหาคนเสื้อแดงเบิกของบริจาคได้มากและมอบ ของบริจาคให้เฉพาะคนเสื้อแดง ซึ่งการบริจาคมีทั้งการบริจาคกันเองแล้วไปมอบให้เอง ซึ่งทำมาตั้งแต่เกิดอุทกภัย อีกส่วนหนึ่งคือประสานผ่าน ศปภ. แต่บางครั้งมีข้อจำกัดเรื่องยานพาหนะขนส่ง จึงประสานผู้ประกอบการรถบรรทุกให้จัดหารถโดยจ่ายค่า น้ำมันรถเอง ยืนยันว่าไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีใครคิดเบียดบังหรือสร้างอิทธิพลบารมีบนความทุกข์ของประชาชน ขอให้สบายใจได้ ดังนั้น อย่าหวั่นไหวต่อการโจมตี ถ้าตั้งใจจะเป็นอาสาสมัครช่วยผู้ประสบภัยก็ให้เดินหน้าต่อ เชื่อว่าไม่มีใครทำอะไรนอกลู่นอกทาง
วอนดูข้อเท็จจริงก่อนวิจารณ์
ส่วน ที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ระบุถึงปัญหาการกระจายของบริจาคของศปภ.ที่เน้นมอบให้ส.ส.เสื้อแดงนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายฉลอง มาลงส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยหลังเหตุการณ์ต่อสู้ต่างๆ ผ่านพ้นไปแล้ว อาจทำให้นายฉลองไม่เข้าใจจิตวิญญาณของคนเสื้อแดง เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่มีการใช้สิทธิพิเศษใดๆ ในการรับของบริจาคจากศปภ. ถ้าพูดตามความเป็นจริงคนเสื้อแดงจำนวนมากนำของมาบริจาคทั้งสิ่งของและเงิน จำนวนมหาศาล รวมถึงลงแรงช่วยในรูปอาสาสมัคร โดยวันที่ 29 ต.ค. คนเสื้อแดงจัดงานใหญ่เพื่อระดมเงินบริจาคอีกครั้ง
"สิ่งที่พูดไม่ ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไปดูว่าเวลาเขาเบิกของไปบริจาคให้ผู้ประสบภัยทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาไปให้เฉพาะคนเสื้อแดง ส่วนเรื่องรถขนของบริจาคนั้นเป็นรถบรรทุกของพรรคพวกที่เคยร่วมต่อสู้ด้วยกัน มา พวกผมเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน จะมีรถบรรทุกจอดอยู่ที่ศปภ. 1-2 คันเพื่ออำนวยความสะดวกเวลานำของไปแจกจ่าย เราเข้าใจว่าศปภ.มีข้อจำกัดเรื่องยานพาหนะ เราจึงไปหามาเอง เรื่องอย่างนี้ควรดูข้อเท็จจริงก่อนออกมาพูดแล้วเกิดความเสียหายถ้าไม่ รู้จักคนเสื้อแดง อย่าพูดเลยดีกว่า แต่คนเสื้อแดงไม่หวั่นไหว ถ้าใครสงสัยหรือเข้าใจผิดหรือ เจตนาเข้าใจผิด ให้มาถาม อย่าทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจให้คนที่ทำงาน" นายณัฐวุฒิกล่าว
เผยที่มาการแปะชื่อของบริจาค
เมื่อ ถามว่าเรื่องดังกล่าวจะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่เข้าใจและรู้จักเสื้อแดงดี ดังนั้น ท่าทีของนายฉลองจึงเป็นท่าทีเฉพาะตัว อย่าว่าแต่ของบริจาคเลยแม้แต่ชีวิตคนเสื้อแดงก็มอบให้ประเทศนี้ได้ เรื่องนี้ตนพูดทีเดียวนายฉลองก็ควรจะรู้ แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องพูดกันอีก ไม่มีปัญหา
ส่วนที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทย ติดชื่อตัวเองที่ของบริจาคเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องยกตัวอย่างเป็นรายกรณี เช่น แปะชื่อนายวรชัย เหมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีภาพปรากฏในเว็บไซต์นั้น เมื่อตรวจสอบพบว่าระหว่างรอขนน้ำขึ้นรถไปแจกประชาชนต้องเขียนชื่อแปะไว้ให้ เข้าใจว่าเตรียมขนส่ง เพราะมีคนจำนวนมากต้องการ นำสิ่งของไปแจกเหมือนกัน ส่วนที่เขียนชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นของที่รับบริจาคจากคนเสื้อแดงที่ต้องการบริจาคผ่านแกนนำนปช. ไปถึงศปภ. ซึ่งไม่มีเหตุผลที่เราจะเอาของไปเพื่อหาเสียง ใครคิดว่าจะเบียดบังทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ใช้ไม่ได้ และต้องประณาม แต่ถ้าเป็นจิตอาสา ต้องเป็นกำลังใจไม่ว่าเสื้อแดงหรือเสื้อสีอะไรก็ตาม ถ้าไม่มีใครมาอธิบายหรือปกป้องความบริสุทธิ์ใจของคนที่เข้าไปช่วยเหลือ ประชาชน สุดท้ายจะท้อแท้ในการทำงาน
ไม่รู้จะกร่างทำไม-จมกันทั้งนั้น
เมื่อ ถามว่าแสดงว่าไม่มีการแปะชื่อส.ส.บนของบริจาคใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการแปะชื่อแล้วให้ประชาชนรับทราบเพื่อเป็นหนี้บุญคุณ ถ้าพบว่ามีการแอบอ้างชื่อโดยเฉพาะแกนนำเสื้อแดง ก็ต้องดำเนินการกันภายใน แต่เราไม่พบเพราะทุกคนอยู่ในพื้นที่ แต่ถ้าพบก็ไม่ไว้หน้า เรากลัวประชาชนจะน้อยใจ ก็ต้องชี้แจง
ส่วนที่วิจารณ์บทบาทของนายยศ วริศ ชูกล่อม เลขานุการรมช.มหาดไทย แสดงท่าทีไม่เหมาะสมในการนำของบริจาคไปใช้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายยศวริศไปช่วยประชาชนอยู่ที่อ.บาง ใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และในวันเกิดเหตุที่ศปภ. ต้องหาเรือไปช่วยอพยพ สอบถามเรื่องนี้แล้ว ทราบว่านายยศวริศไม่มีเจตนามากร่างหรือเบ่งอะไร และในภาวะเครียดอาจไม่เข้าใจกัน ไม่รู้จะเบ่งหรือกร่างเพื่ออะไร เพราะจมน้ำกันทั้งนั้น จึงบอกไปว่าไม่ต้องสนใจให้เดินหน้าทำงานต่อ ไม่มีใครขวัญอ่อน แค่เห็นอะไรบรรทัดสองบรรทัดก็เก็บไปคิด วันนี้ทุกคนต้องเข้มแข็งและหนักแน่น ใครที่ไม่เข้าใจว่าเป็นรายกรณี อย่าไปบั่นทอนคนที่เสียสละ
เมื่อถามว่าการใช้คำพูดของนายยศวริศ ถือว่าไม่เหมาะสมที่ระบุว่าใหญ่กว่าอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าข้าราชการประจำคงไม่ขวัญอ่อนขนาดนั้น และเข้าใจว่าการพูดอาจหยิบยกประเด็นใดประเด็นหนึ่งขึ้นมาขยายความต่อ
ปชป.เชิญนักวิชาการติวเรื่องน้ำ
เวลา 09.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เชิญนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาฯ นายเสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ และนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. มาให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วม
นายเสรี ให้สัมภาษณ์หลังให้ข้อมูลว่า มารายงานว่าทำอย่างไรจะแก้ไขสถานการณ์ให้เบาบางลง จึงมาคุยกับนายอภิสิทธิ์ ถึงแนวทางการระบายน้ำ รวมถึงอุปสรรคปัญหา
ต่อมาเวลา 10.30 น. มีการประชุม ครม.เงา หารือข้อเสนอการแก้ปัญหาสถานการณ์อุทกภัยต่อรัฐบาล มีนายอภิสิทธิ์เป็นประธาน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง
มาร์คอ้างระบายน้ำไม่สอดคล้อง
จาก นั้น นายอภิสิทธิ์แถลงว่า พรรคเสนอต่อรัฐบาล คือ 1.แนวทางระบายน้ำ มีประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิชาและหลักปฏิบัติสำหรับ 5-7 วันข้างหน้า ที่จะมีมวลน้ำขนาดใหญ่มาจากทางเหนือและน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะการระบายออกทางตะวันออกผ่านแม่น้ำบางปะกง การเปิดปั๊มและประตูน้ำแทบไม่ได้ใช้ก่อนหน้านี้ เพิ่งเริ่มทำเมื่อ 1-2 วัน และยังทำไม่เต็มที่ ภาระการระบายน้ำจึงมากองอยู่ที่แม่น้ำเจ้า พระยา ระดับน้ำสูงเป็นประวัติการณ์
กรณีกรมชลประทานชี้แจงว่าไม่สามารถ ระบายน้ำลงทะเลทางตะวันออก เพราะระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกงสูงกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่คิดอย่างนั้น อย่างที่คลอง 2 หลังจากเปิดการระบายน้ำในคลอง ทำให้ระดับน้ำลดลงค่อนข้างเร็ว หากการระบายน้ำยังไม่สมดุล นอกจากจะท่วมขังส่วนกลางเป็นเวลานานแล้ว จะเกิดปัญหาการเป็นอัมพาตของกระบวนการบริหาร จัดการทั้งหมด
นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ประสงค์จะระบายน้ำไปทางตะวันออก ควรอธิบายให้ประชาชนทราบอย่างโปร่งใสว่าเป็นนโยบายรัฐ บาล โดยมีเหตุผลรองรับว่าต้องการรักษาพื้นที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่ ตอนนี้มีเวลาไม่มากแล้ว ใน 5-7 วันนี้จะวิกฤตมาก รัฐบาลต้องให้ความจริงกับประชาชนเพื่อเตรียมการรับมือ เข้าใจว่าคนที่เข้าไปทำงานในศปภ. เสนอการระบายน้ำไปทางตะวันออกมาพักหนึ่งแล้ว แต่ที่ไม่ดำเนินการเป็นเหตุผลทางปฏิบัติทางเทคนิค หรือเหตุผลทางการเมือง วันนี้นายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 31 พ.ร.บ.ป้องกันสาธารณภัยฯได้เต็มที่ จึงควรลงไปดูในพื้นที่ตะวันออกว่าเป็นเพราะเหตุผลใดกันแน่ แต่ถ้าจะไม่ระบายก็ต้องมีคำอธิบายว่าทำไม สิ่งที่เราไม่ต้องการเห็นคือการเมือง การทำให้เกิดความแตกแยกว่า คนกทม.กับคนต่างจังหวัด คนกทม.กับคนฉะเชิง เทรา เป็นต้น
เสี้ยมส.ส.เพื่อไทย-แกนเสื้อแดง
หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า 2.การดูแลปัญหาผลสืบเนื่องจากน้ำท่วม ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดภาวะขาดแคลนสินค้า ทำให้สินค้าราคาแพง ส่วนสินค้าที่ผลิตเพียงพอ แต่ไม่สามารถกระจายสินค้าได้ รัฐบาลต้องเข้าไปจัดการ 3.ด้านสังคม มีปัญหาอาชญากรรรมเพิ่มขึ้นมาก ตำรวจต้องวางระบบรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น และ 4.รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมโครงการฟื้นฟูและมาตรการช่วยเหลือต่างๆ
นาย อภิสิทธิ์กล่าวถึงข้อครหาเรื่องของบริจาคของศปภ.ดอนเมือง ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายเสื้อแดงไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยโดยอ้างว่า เป็นของตัวเอง ว่า ถ้ารัฐบาลถอดเรื่องการเมืองออกให้หมด เรื่องจะง่ายขึ้น วันนี้ไม่เฉพาะคนนอก แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็บ่น กลาย เป็นว่ากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งสามารถยึดครองอำนาจตรงนี้ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดี ประชาชนอยากบริจาคอยู่แล้ว แต่ถ้ามีปัญหาจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ หากนายกฯอ่านหนังสือพิมพ์ก็คงทราบดี
"จุติ"งัดตอนปราบเสื้อแดงข่ม"ปู"
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมว.คลังเงา กล่าวหลังประชุมครม.เงา ว่า ภาคธุรกิจกำลังสับสนอย่างหนักกับการตัดสินใจและคำพูดของนายกฯที่ประกาศแน่ ชัดว่าน้ำจะท่วมทั้งกรุงเทพฯ ถึงกับให้ครม.มีมติให้วันที่ 27-31 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ ทั้งที่น้ำท่วมต่างจังหวัดมาเป็นเดือน ไม่ประกาศหยุด พร้อมส่งลิ่วล้อออกมาพูด เรื่องน้ำจะไม่ไหล ไฟฟ้าจะดับทั้งเมือง การส่งสัญญาณแรงอย่างนี้เท่ากับกำลังประกาศว่าจะไม่สามารถทำงานได้เลย ขอถามว่าแล้วจะให้ภาคธุรกิจเชื่อใคร สุดสัปดาห์นี้ไม่ว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วมกรุงเทพฯ สาธารณูปโภคจะถูกตัดหรือไม่ ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้วกับภาคธุรกิจและการเงิน
นายจุติ กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจที่สำนัก ข่าวต่างประเทศจะนำเรื่องน้ำท่วมปีนี้มาเทียบกับเหตุการณ์เสื้อแดงสมัย รัฐบาลประชาธิปัตย์ แทน ที่จะเทียบกับผลกระทบน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ปัจจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจก็น่าจะไปทางเดียวกัน แต่เพราะทุกคนเขามองออกว่ารัฐบาลนี้เล่นการเมืองกับเรื่องน้ำท่วม จนสุดท้ายจีดีพีจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 3 จากเดิมวางไว้ร้อยละ 4 ขณะที่เมื่อครั้งเหตุการณ์เสื้อแดงรัฐบาลขณะนั้นสามารถประคองความเชื่อมั่น จนจีดีพีอยู่ที่ 7.8 ได้ เพราะนักลงทุนยังเชื่อมั่นผู้นำว่าจีดีพีจะแตะ 7%
"โกวิท"สั่งระดมป้องทำเนียบฯ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่กองรักษาการณ์ตำรวจทำเนียบรัฐบาล(ตร.ส.3) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยประสานกำลังพลวางแนวคันกั้นกระสอบทราย กระทั่งเวลา 17.00 น. จึงวางกระสอบรอบบริเวณทำเนียบฯ เสร็จ สูง 1 เมตร หนา 3 ชั้น นอกจากนี้ยังเตรียมไว้สำหรับการประชุมครม. ในสัปดาห์หน้า วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งจะกลับมาจัดการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลตามเดิม โดยย้ายจากสนามบินดอนเมืองที่ขณะนี้เกิดปัญหาน้ำท่วม
เมียไวพจน์ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์
นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ผู้แทนราษฎร ออกประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นเป็นส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง ระบุว่าตามประกาศกกต. เรื่อง ผลการเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 12 ก.ค. 2554 ประกาศให้ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ผู้มีชื่อในบัญชีผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 18 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.นั้น นายวิรุฬ มีหนังสือขอลาออกจากส.ส.ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายวิรุฬ สิ้นสุดลง ตามมาตรา 106 (3) ของรัฐธรรมนูญ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 109 (2) ของรัฐธรรม นูญ แก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2554 ประกาศให้ นางอุดมรัตน์ อาภรณ์รัตน์ ผู้มีชื่อในลำดับถัดไป หมายเลข 66 ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน
สำหรับนางอุดมรัตน์ เป็นภรรยาของพ.ต.ท. ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชาชน
ศาลเขมรเลื่อนคดี"วีระ-ราตรี"
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ต.ค. โดยอ้างหนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ ของกัมพูชาว่า ศาลอุทธรณ์กัมพูชามีความเห็นให้เลื่อนการพิจารณาคดีนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองผู้ต้องหาคดี สายลับชาวไทย ออกไปเป็นวันที่ 28 พ.ย. ซึ่งศาลอุทธรณ์กัมพูชาให้เหตุผลว่า ทั้งนายวีระ และ น.ส.ราตรี ยังไม่สามารถจัดหาทนายความฝ่ายจำเลยมาแก้ต่างให้ และยังไม่มีล่ามแปลภาษา ไทย ทำให้คณะผู้พิพากษาจำเป็นต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป
ทั้งนี้ นายวีระ และน.ส.ราตรี ถูกศาลชั้นต้นของกัมพูชาพิพากษาให้ต้องรับโทษจำคุก 8 ปี และ 6 ปีตามลำดับ โดยถูกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของกัมพูชาควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2553 หลังถูกกล่าหาว่าเดินทางพร้อมนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และคนไทยรวม 5 คนเข้าไปยังเขตแดนของกัมพูชา บริเวณหมู่บ้านโอเบยเจียน ในจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา โดยไม่ได้รับอนุญาต
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdPREkzTVRBMU5BPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNQzB5Tnc9PQ==
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3583 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 27 ต.ค. 54
เวลา 11:22:39
|
