• เตือนออรัลเซ็กซ์ เสี่ยงมะเร็งลำคอ |
โพสต์โดย mails , วันที่ 17 พ.ค. 50 เวลา 12:35:36 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สำนักข่าวบีบีซีออนไลน์รายงานว่า
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ศึกษาพบว่าเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ทางการทำออรัลเซ็กซ์นั้น
เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในลำคอบางชนิด
ย้ำเสี่ยงสูงกว่ากินเหล้าหรือสูบบุหรี่
สำหรับเชื้อไวรัสต้นตอของปัญหาดังกล่าวนี้คือเชื้อเอชพีวี ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า
เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในรูคอสูงกว่าปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
อันได้แก่ การสูบบุหรี่ หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำไป โดยผลการศึกษาของทีมมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์
ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารด้านการแพทย์นิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ
เมดิซีน ระบุว่า
คนที่มีประวัติว่าทำออรัลเซ็กซ์ให้กับคู่นอนมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในลำคอสูงกว่าคนที่ไม่มีประวัติถึง
9 เท่าตัว
อย่างไรก็ดี
ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า
การวิจัยครั้งนี้ควรต้องมีการทำการศึกษาต่อเนื่องในกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
เพื่อให้ได้ผลที่สามารถยืนยันผลการวิจัยที่ได้ในครั้งนี้ได้
สำหรับการติดเชื้อเอชพีวีนั้น พบว่าเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของโรคมะเร็งปากมดลูก และพบด้วยว่า
80
เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่มีความตื่นตัวในการมีเพศสัมพันธ์หรือมีเพศสัมพันธ์บ่อย
จะมีการติดเชื้อเอชพีวีนี้อยู่ระดับหนึ่งไม่น้อยก็มากครั้งในช่วงชีวิตของพวกเธอ
ส่วนในการวิจัยของทีมจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์นั้น นักวิจัยได้นำเอาตัวอย่างเลือดและน้ำลายของผู้ชายและผู้หญิงจำนวนรวม
100 คน ซึ่งเพิ่งถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งลำคอใหม่ๆ
มาตรวจวิเคราะห์ ทั้งนี้มะเร็งลำคอนั้นเป็นโรคที่มีผลกระทบอย่างมากต่อลำคอ
ทอนซิล และด้านหลังของลิ้น
นอกจากการตรวจเลือดและน้ำลายแล้ว
นักวิจัยยังได้ถามคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์และปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำคอปัจจัยอื่นๆ
ด้วย เป็นต้นว่าประวัติการป่วยเป็นโรคมะเร็งลำคอในครอบครัว
ผลที่ได้พบว่าคนที่เคยมีการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีในช่องปากมาก่อน
มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในลำคอสูงกว่าคนที่ไม่เคยมีประวัติการติดเชื้อถึง
32 เท่าตัวทีเดียว
ทั้งนี้นักวิจัยได้ตรวจพบเชื้อเอชพีวี 16
ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาไวรัสสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในเนื้องอกที่ตรวจเจอถึง
72 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ทั้งหมดที่เป็นมะเร็งในลำคอในการศึกษานี้
ในขณะที่ความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำคอในผู้ป่วยทั้งการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างที่พบในคนไข้ที่มีประวัติการติดเชื้อเอชพีวีในลำคอแต่อย่างใด นั่นแสดงให้เห็นว่าเชื้อไวรัสเอชพีวีนี้เป็นสาเหตุในการทำให้คนติดเชื้อมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำคอที่สูงขึ้น
การทำออรัลเซ็กซ์นั้นคาดว่าน่าจะเป็นช่องทางหลักๆ
ที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อเอชพีวี อย่างไรก็ดี
นักวิจัยก็กล่าวด้วยว่าการติดเชื้อผ่านการสัมผัสแบบปากต่อปากเป็นต้นว่า
การจูบกันก็ไม่อาจจะตัดทิ้งได้เสียทีเดียว
นักวิจัยกล่าวด้วยว่า
อันที่จริงแล้วกรณีส่วนใหญ่การติดเชื้อเอชพีวีจะสามารถหายไปได้เองโดยมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
และมีเพียงจำนวนเปอร์เซ็นต์ไม่มากที่เมื่อได้รับเชื้อและเป็นเชื้อชนิดที่มีความเสี่ยงสูงแล้วก็ก่อตัวกลายไปเป็นโรคมะเร็งภายหลัง
ดร.ไกไซแอมเบอร์
ดีโซซา ผู้เขียนผลการวิจัยของทีมมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ กล่าวว่า
นับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ
ที่จะต้องทราบว่าคนที่ไม่มีความเสี่ยงอย่างที่เคยเข้าใจกันมาแต่ก่อนๆ
ว่าเป็นต้นเหตุของมะเร็ง เช่น
การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอลล์ก็สามารถเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำคอได้เช่นกัน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 5370 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย mails
IP: Hide ip
, วันที่ 17 พ.ค. 50
เวลา 12:35:36
|