ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ "สุเทพ" หลั่งน้ำตาอาลัยเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ลั่นไม่ทอดทิ้งทหาร พร้อมตั้งข้อสังเกต รัฐตั้งธงเอาผิดตนเอง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทั้งน้ำตา ถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การสลายชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 บนเวทีผ่าความจริงชายชุดดำว่า จะยืนหยัดเคียงข้างทหารที่ตกเป็นจำเลยทุกคน ไม่มีวันที่จะทอดทิ้ง พร้อมจ้างทนายสู้คดีจนถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทหารที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้าน เมือง ยืนยันอีกว่าตนเองเป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุมตามอำนาจ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงโดยมีกฎหมายรองรับ วันนี้จึงขอรำลึกถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิต โดยปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้ภายใต้การทำงานของ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ที่พยายามตั้งข้อหานั้นมีธงจะเอาผิดอยู่แล้ว
ด้าน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีผ่าความจริงชายชุดดำว่า เหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 นั้น สมัยเป็นรัฐบาลได้พยายามใช้วิธีการแก้ไขปัญหาที่ปฏิบัติตามกฎหมายจนถึงที่ สุดแล้ว แต่การชุมนุมนั้นได้ละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรีสั่งการอยู่เบื้องหลังจนเกิดความรุนแรง เนื่องจากการชุมนุมมีการซ่องสุมอาวุธ ชายชุดดำถึงขั้นที่รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น วันนี้ต้องค้นหาความจริง เรื่องชายชุดดำและการจัดเวทีของพรรคนั้น มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้รับทราบ ไม่ได้ทำเพื่อให้เกิดความแตกแยก หากบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อเราได้เรียนรู้ทุกเหตุการณ์ในอดีตบนพื้นฐานของความเป็นจริง
ผบ.ทบ.ยัน มีชายชุดดำใจร้ายหลังแนวม็อบแดง”ยิงใส่ทหาร ไม่รู้เป็นใคร – สีไหน เผยลูกน้องพิการ-ท้องทะลุไม่เคยบ่นโทษใคร รอกระบวนการ ยุติธรรมชี้ขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดแรลลี่ตามรอยชายชุดดำ ว่า ข้อมูลชายชุดดำเรามีอยู่ เป็นเรื่องของกฎหมายทางกระบวนการยุติธรรม ต้องสอบสวนกันไป แต่ชายชุดดำจะมีหรือไม่ตนไม่รู้ แต่รู้ว่ามีผู้บาดเจ็บทั้ง สองฝ่ายทั้งประชาชน ทหาร ตำรวจ ต่างฝ่ายก็อ้างกัน
อีกฝ่ายบอกว่า ทหาร ยิง ฝ่ายทหารก็บอกถูกคนแต่งกายที่ไม่รู้ว่าจะสีแดง สีดำหรือเหลือง แต่มัน ยิง ขว้างระเบิดใส่ทหารมันก็ต้องพิสูจน์หาให้เจอ
ทั้งนี้ คำว่าชายชุดดำไม่ใช่ว่าต้องใส่ชุดดำ พอไม่ใส่ชุดดำแล้วบอกว่าไม่ใช่ มันก็ คงไม่ใช่นะ จะชุดอะไรก็ได้ แต่วันนั้นพูดกันว่าชุดดำ เพราะแต่งชุดดำวันนั้น วันที่เกิดเรื่องวันแรก (10 เม.ย.) หลังจากนั้น มันก็ไม่ได้แต่ง แต่จะถามว่า แล้วมีรูปที่มันยิงหรือไม่ ใครจะไปถ่ายรูปมันได้ ก็ต้องรอรูปจากสื่อมวลชน ทหารออกไปในตอนนั้นไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายแบบนี้ออกมาเท่านั้นเอง
และเมื่อเขาใจร้ายใส่เรา เราก็ยังไม่ได้ตอบโต้ ผมถามว่าลูกน้องที่นอนเจ็บอยู่ที่ โรงพยาบาลว่าเห็นคนยิงเขาหรือไม่ คนที่ท้องทะลุ ที่เป็นผู้บังคับกองพัน นายสิบ และยังมีพิการอีกหลายคน ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เห็น แต่พวกนั้นอยู่ข้าง หลังประชาชน ซึ่งผมก็ไม่ได้โทษว่าเป็นพวกใคร ผมก็ถามว่าทำไมไม่ยิงสู้ ยิงไม่ได้เหรอ เขาก็บอกว่ายิงไม่ได้ เพราะถ้ายิงก็จะโดนประชาชนที่ขวาง หน้าอยู่ ผมก็ถามว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าเป็นใคร เขาก็บอกว่าเป็นประชาชนที่มา ประท้วง มาเดินขบวนทั้งหมด เขาก็เปนคนไทยเหมือนกันซึ่งทำร้ายเขาไม่ได้ ผมฟังแล้วผมก็สะอึก นั่นคือลูกน้องผม และยังมีที่เจ็บและตาย ก็ว่ากันไป