• ไม่สกัด "เว็บ" "แอ้ด" ปล่อย "แม้ว" แจง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 ก.ค. 50 เวลา 13:17:49 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ไม่สกัด "เว็บ" "แอ้ด" ปล่อย "แม้ว" แจง
นายกฯสวน"ทักษิณ" ย้ำไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ยันไม่บล็อคเว็บที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา แต่อยากให้กลับมาสู้คดีด้วยตัวเอง รับประกันจะดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ทนาย"แม้ว"ขู่ฟ้องอาญา คตส. พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งหลายหมื่นล้าน ระบุไม่แยกแยะทรัพย์สินที่อายัด อ้าง"ทักษิณ"รวยก่อนเป็นนายกฯ@ "สุรยุทธ์"ยันไม่มีแทรกแซง"ยุติธรรม"พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะไม่กลับเข้าประเทศเพื่อต่อสู้คดีความต่างๆ เพราะไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
แต่จะเปิดเว็บไซต์ชี้แจงข้อกล่าวหาแทนว่า สิ่งที่เราต้องแสดงให้เห็นคือกระบวนยุติธรรมของไทยมีความเป็นธรรม ไม่ได้มีการแทรกแซง ตนก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนต่างๆ เป็นขั้นตอนที่กระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการต่อไป ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเข้าประเทศมาสู้คดีหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องตัดสินใจเอาเองผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างเหตุไม่เดินทางกลับเข้าประเทศเพราะเกรงไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ได้เรียนย้ำหลายครั้งแล้วว่าในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร เป็นหน้าที่ของตนโดยตรงที่จะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย ก็ขอให้คำมั่นว่าจะดูแลอย่างเต็มที่@ ยันไม่บล็อคเว็บ"ทักษิณ"แจงสู้คดีพล.อ.สุรยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเปิดเว็บไซต์สู้นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่คิดว่าสิ่งที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดคือเข้ามาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม จะได้ดูกันทั้ง 2 ด้านทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา มีการตรวจสอบ เราจำเป็นต้องยืนอยู่บนหลักของความเป็นธรรม"แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่สั่งบล็อค หรือปิดกั้นเว็บไซต์ และขณะนี้รัฐบาลได้ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 5 ซึ่งให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในการปิดเว็บไซต์ไปแล้ว นั่นก็เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดความโปร่งใส"ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเว็บไซต์ดังกล่าวมีเนื้อหาที่ทำให้ประชาชนสับสนและอาจเกิดความวุ่นวาย จะพิจารณาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า คิดว่าประชาชนคงเข้าใจ@ "บุญรอด"ชี้เปิดเว็บป่วน"ไอซีที"สั่งปิดได้ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะเปิดเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับคดีต่างๆ ว่า ถ้าหากว่าไม่กระทบอะไรก็คิดว่าเป็นสิทธิที่จะทำได้
แต่หากเปิดออกมาแล้วเป็นการกระทำที่มีผลกระทบ เช่น ถ้าโจมตีในเรื่องการพิพากษาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำก็เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงไอซีทีก็จะสั่งปิดได้ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมกลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า เคยบอกแล้วว่าควรจะกลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าหากมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ และมีโอกาสที่จะกลับมาทำงานทางการเมืองในภายภาคหน้าได้ แต่ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณกลัวที่จะกลับมามากกว่า ดังนั้น จึงต่อสู้อยู่ข้างนอกพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า คงไปห้ามไม่ได้ ประชาชนจะพิจารณาเองว่าจะเชื่อถือหรือไม่ คมช.คงไม่ไปบังคับไอซีที ก็คงเสนอนายกฯให้ไปพูดคุยกับรัฐมนตรีไอซีที@ วอร์รูมซัด"แม้ว"ตัวพังระบบยุติธรรมนายประสาร มฤคพิทักษ์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ในประเทศ (ศปชท.) หรือวอร์รูมแถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเปิดเว็บไซต์ว่า การจัดทำเว็บไซต์ลักษณะนี้ต้องมีกองบรรณาธิการจัดทำข้อมูลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งค่าจัดทำและจดทะเบียน ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับอภิมหาเศรษฐีแสนล้านอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณนายประสารกล่าวว่า ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำลายระบบยุติธรรมของประเทศ สร้างภาพให้ต่างชาติเห็นว่าตนถูกทำร้าย โดยไม่รู้สึกละอายว่าสื่อมวลชนรู้เท่าทันว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังถูกข้อหาโกงภาษี ถูกอายัดทรัพย์สินในข้อหาทุจริตประพฤติมิชอบและร่ำรวยผิดปกติ"หาก พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ควรจะกลับมาสู้คดีดีกว่าเดินสายไปประเทศนั้นประเทศนี้ แล้วกล่าวร้ายให้ประเทศไทย" นายประสารกล่าว@ เผยใช้ทีมอดีตบิ๊กทรท.ทำเว็บ"ทักษิณ"รายงานข่าวจากกลุ่มไทยรักไทย แจ้งว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณส่งสัญญาณผ่านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว ว่าจะเปิดตัวเว็บไซต์เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารถึงพี่น้องประชาชนนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่าคณะที่จัดทำเว็บดังกล่าวมาจากทีมงานของอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่เคยก่อตั้งเว็บไซต์รีพอร์ทเตอร์ Reporter เป็นผู้ดูแล โดยรูปแบบนั้นจะเน้นไปที่การให้ข้อมูลเรื่องประวัติส่วนตัว ความเป็นมา แต่ในข้อมูลด้านอื่น อาทิ การให้ข้อมูลที่ถูกฟ้องร้องนั้น อาจจะไม่นำมาลง เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อรูปคดี@ ทนาย"แม้ว"ขู่ฟ้องแพ่งคตส.นับหมื่นล.ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยืนยันไม่เพิกถอนคำสั่งการอายัดทรัพย์ตามหนังสือแจ้งเตือนของทนายความที่ให้เลิกอายัดทรัพย์ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ว่า
ในสัปดาห์น้าทีมทนายความจะไปยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาคำร้องพิสูจน์ทรัพย์สินเพื่อขอให้เพิกถอนการอายัดทรัพย์ทั้งหมด และจะยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อมีคำสั่งให้ คตส. เพิกถอนคำสั่งอายัดและเรียกค่าเสียหายด้วย"สำหรับตัวเลขความเสียหายที่จะฟ้องร้องทางแพ่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างคำนวณตัวเลขอยู่ ซึ่งมี 2 ส่วน คือ 1.ความเสียหายจากการที่ไม่สามารถทำธุรกรรมกับเงินที่ถูกอายัดไว้ได้ 2.ความเสียหายจากชื่อเสียง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งค่าเสียหายจะมีจำนวนหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนี้จะยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ดำเนินคดีกับกรรมการ คตส.ทุกคน ที่ออกคำสั่งโดยมิชอบนี้ด้วย" นายนพดลกล่าว@ ยกประเด็น"ทักษิณ"รวยมาก่อนสู้คดีผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ศาลสั่งยกฟ้องคดีที่บริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด ยื่นฟ้องกรรมการ คตส.ทุกคน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการออกคำสั่งให้มีการอายัดบัญชี ของบริษัท เวิร์ธฯ จะมีผลต่อการยื่นฟ้องในคดีอื่นๆ หรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า คงไม่มีผลอะไร เพราะเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตามจะนำกรณีการฟ้องร้องของบริษัท เวิร์ธฯ มา ทบทวน เพื่อแก้ไขปรับปรุงให้มีความรัดกุมมากขึ้น"แต่ประเด็นที่จะฟ้องครั้งใหม่จะเน้นไปที่การออกคำสั่งให้มีการอายัดทรัพย์ของ คตส. ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีการแยกแยะทรัพย์สินให้ชัดเจน เพราะทุกคนทราบกันดีว่าก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯครอบครัวนี้เขาร่ำรวยมาก่อนแล้ว" นายนพดลกล่าว และว่า ในวันที่ 7 กรกฎาคม จะมีการแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล ขอให้ทุกคนอดใจรอฟังให้ดีนายประเกียรติ นาสิมมา โฆษกคณะทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คาดว่าจะมียื่นฟ้องในวันที่ 11-12 กรกฎาคม โดยในวันดังกล่าวอาจแถลงเปิดตัวทีมทนายความด้วย@ ทยอยเรียก49คนรับข้อกล่าวหาคดีหวยวันเดียวกัน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ ว่า ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีนี้ ทั้ง 49 คน จะทยอยมารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้
สำหรับการฟ้องคดีทางแพ่งที่ทำให้รัฐเสียหาย 3.7 หมื่นล้านบาทนั้น คงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย คือกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย แต่คาดว่าจะดำเนินการภายหลังจากศาลตัดสินคดีว่าคดีนี้มีผู้กระทำความผิดจริงรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 49 ราย แบ่งเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ร่วมประชุมและมีมติโครงการหวย 3 ตัว 2 ตัว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 รวม 32 คน อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อีก 17 คน เป็นคณะกรรมการสลากกินแบ่ง ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ อาทิ นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตประธานกรรมการสลากฯ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กรรมการสลากฯ@ อัยการพร้อมแถลงที่อยู่"แม้ว-อ้อ"ต่อศาลวันเดียวกัน นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการได้รับหนังสือแจ้งถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้วว่าปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีที่พักประจำอยู่ในประเทศอังกฤษ
และประเทศจีน ซึ่งมีรายละเอียดที่อยู่ของทั้งสองคนชัดเจนว่าอยู่บ้านเลขที่ ถนน และเมืองใด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และจะนำไปแถลงและบรรยายข้อเท็จจริงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 9 กรกฎาคมด้านนายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวว่า หากคำแถลงของอัยการไม่ได้เป็นการขอเลื่อนเวลา แต่เป็นการแถลงถิ่นที่อยู่ของจำเลยเพิ่มเติม องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ก็จะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งเกี่ยวกับคดีให้ทราบในวันที่ 10 กรกฎาคม@ อนุป.ป.ช.เบิกความคดี"พี่อ้อ"เลี่ยงภาษีที่ห้องพิจารณาคดี 916 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลสืบพยานโจทก์คดีที่นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่บุญธรรมคุณหญิงพจมาน ชินวัตร, คุณหญิงพจมาน
และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมานเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด มูลค่า 738 ล้านบาท และภาษีที่หลีกเลี่ยงจำนวน 546 ล้านบาททั้งนี้ อัยการนำเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการไต่สวนความผิดกรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรมีความเห็นว่าการรับโอนหุ้นของนายบรรณพจน์จากคุณหญิงพจมานไม่ต้องนำมาประเมินชำระเพื่อภาษีเงินได้ เบิกความว่า
การไต่สวนของอนุกรรมการเห็นว่า การรับโอนหุ้นนายบรรณพจน์ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร ทาง ป.ป.ช.จึงมีมติส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังเอาผิดทางวินัยและให้สำนักงานอัยการสูงสุดความผิดอาญากับ นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรอีก 4 คน
ที่มาจาก ข่าวจาก เอมไทยดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1313 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ก.ค. 50
เวลา 13:17:49
|