| • ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ลงพื้นที่กำจัดวัชพืชในแม่น้ำปิง รับมือน้ำรอบใหม่ |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 03 ก.ค. 56 เวลา 16:06:23 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่3 ก.ค ที่บริเวณท่าเรือป่าแดด ต.ป่าแดด จ.เชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และนายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศบาลตำบลป่าแดด ลงพื้นที่ตรวจสอบผักตบชวา ที่ก่อตัวเพิ่มมากขึ้นในน้ำปิง และทำลายผักตบชวา เพื่อช่วยในการระบายน้ำ รองรับสถานการณ์อุทกภัย
นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้มีแผนในการขุดลอกลำน้ำปิง และสร้างประตูระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำของน้ำปิง โดยที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการ ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร จะทำให้ประสิทธิภาพในการไหลของน้ำปิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการป้องกันน้ำท่วม ส่วนปัญหาในเรื่องของการบุกรุกลำน้ำปิง ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว และทางจังหวัดสามารถขอคืนพื้นที่ได้ โดยจะมีการใช้ภาพถ่ายทางอากาศ เป็นข้อยืนยัน หากพื้นที่ใดมีการรุกล้ำก็จะมีการส่งคณะกรรมการเข้าไปเจราจา เบื้องต้นทางตำรวจภูธร ภาค 5 ยืนยันที่จะส่งคืนพื้นที่ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ แต่อยู่ระหว่างการจัดสรรหาพื้นที่ในการก่อสร้างตำรวจภูธรภาค 5 แห่งใหม่ และเชื่อว่าการรุกล้ำลำน้ำปิง จะสามารถแก้ไขได้
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการขอจัดสรรงบประมาณจากทางรัฐบาลเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาด้าน อุทกภัยของจังหวัด นั้นทางจังหวัดจะเสนอโครงการระยะยาวเดิม ที่มีการของบ คือโครงการผันน้ำจากแม่แตง เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ให้ไหลมายังเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์จะสามารถระบายน้ำจากต้นน้ำปิง ให้ไหลไปยังอีกเส้นหนึ่งได้ โดยไม่ต้องผ่านแม่น้ำปิง และเชื่อว่าจะทำให้เขื่อนทั้งสองแห่งมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ และน้ำปิงจะไม่ไหลเข้าท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ เบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลว่าทางกรมชลประทาน ได้มีการขอสนับสนุนในโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ2557 เป็นจำนวนเงินกว่า 7,500 ล้านบาท ในการผลักดันโครงการดังกล่าว
ส่วนกรณี ที่ชาวบ้านในหลายพื้นที่มีความกังวล ในเรื่องของการสร้างฝาย หรือประตูระบาย น้ำ จะส่งผลให้เป็นการปิดกั้นทางเดินน้ำ นั้น ทางจังหวัดขอชี้แจงว่า การจะสร้างฝาย หรือประตูระบายน้ำทุกครั้งทางจังหวัดได้มีการศึกษาและทำประชาพิจารณ์ ว่าการออกแบบเป็นฝายน้ำล้น อาจจะทำให้น้ำท่วมได้ แต่หากมีการทำในลักษณะประตูระบายน้ำน้ำจะลอดบานประตู และไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และมีการควบคุมการทำงานของประตูระบายน้ำ ตั้งแต่ระดับน้ำ 1.50 - 8 เมตร และสามารถระบายน้ำได้ถึง 1,200 ลบ.ม. / วินาที (เนื้อหาข่าวจาก http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=687508&lang=T&cat=)
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปีจังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่เศรษฐกิจ และตัวเมือง จะไม่ประสบปัญหาอุทกภัย อย่างแน่นอน เนื่องจากทางจังหวัดได้มีการวางมาตรการป้องกันไว้ในทุกด้าน ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในพื้นที่ บริเวณต.หนองหอย แต่ทั้งนี้มีแบริเออร์ และกระสอบทราย ในการป้องกันไว้ อาจทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขัง ได้ เชื่อว่า 90%สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ขอบคุณภาพจาก Kamol Kuernin
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1121 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 03 ก.ค. 56
เวลา 16:06:23
|
