3 พยัคฆ์สยบบัลลังค์มังกร สน,เป,สร
|
|
VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
|
|
• 3 พยัคฆ์สยบบัลลังค์มังกร สน,เป,สร |
โพสต์โดย thaky , วันที่ 24 ก.ค. 50 เวลา 11:01:40 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
> >===โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับรู้ข่าวสารทุกประเภท=== > > > >ใครเล่าจะตอบได้...(อยากรู้..อ่านแล้วคิดเอง) > > > >คำถามมีอยู่ว่า.....หาก > >คณะปฎิรูปไม่จัดวางกำลังพลติดอาวุธและรถถังไว้ทุกทิศทางในรัศมี 1 กม. > >โดยรอบพระราชฐานแล้ว พระองค์จะยังทรงลงพระปรมาภิไธยให้ อยู่หรือไม่....... > > > >ไม่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินหัวหน้าคณะรัฐประหารจริง > > > >-ปี พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นปีมหามงคลที่ในหลวงของเราได้ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ > >ปีอันเป็นที่ชื่นชมของปวงชนชาวไทยรวมทั้งได้มีพระราชอคันตุกะจากต่างประเทศ > >ได้มาร่วมถวายพระพรและเสด็จเข้าร่วมงานพระราชพิธีแล้ว > >จนเป็นที่ปลิ้มปิติแก่ในหลวงและประชาชนชาวไทย. > > > >- > >ในวันที่คณะรัฐประหารได้ก่อการกบฏยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู > >่หัวของเรา เมื่อคืนวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ นั้น > >พระองค์ท่านก็อยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการประชวร > > > >-คณะ รัฐประหารได้บีบบังคับ > >พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ตอนหัวค่ำของวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ > >ซึ่งพระองค์ท่านไม่โปรดเกล้าให้เข้าเฝ้าจวบจนเวลาเที่ยงคืนคณะรัฐประหารจึง > >ได้เข้าเฝ้า คณะรัฐประหารประกอบด้วย องค์มนตรีเปรม ติณสูลานนท์ > >เป็นผู้นำรวมทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, ผู้บัญซาการทหารเรือ > >และผู้บัญชาการทหารอากาศ (โดยในตอนหัวค่ำผู้บัญชาการทหารเรือ > >และผู้บัญชาการทหารอากาศ > >รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่างไม่เห็นด้วยกับการก่อการรัฐประหาร) > >โดยการเข้าเฝ้าไม่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด > >และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ในกลุ่มที่เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จ > >พระเจ้าอยู่หัวชึ่งกำลังทรงประชวรอยู่มิได้เห็นชอบกับคณะก่อการและ > >ทรงตรัสตำหนิคณะรัฐประหารเพียงอย่างเดียว > >รวมทั้งไม่ได้มีการลงพระปรมาภืไธยในพระบรมราชโองการใดๆ ทั้งสิ้น > >การเข้าเฝ้าเกิดขึ้นทั้งหมดถึง 3 ครั้ง > >จึงมีประกาศพระบรมราชโองการโดยคณะรัฐประหาร โดยใช้รูปถ่ายการเข้าเฝ้าครั้งแรก > >มายืนยันเท่านั้น การเข้าเฝ้าทั้ง ๓ ครั้งมีวีดิโอบันทึกภาพทุกครั้ง > >จะเห็นได้ว่าคณะรัฐประหาร ไม่ยินยอม ให้ประชาชนเห็นภาพเคลื่อนไหว > >หรือได้ยินพระราชดำรัสของในหลวงเลย > >แม้แต่ภาพที่ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธยก็ไม่มี(ซึ่งจรงๆก็ไม่มี) > >เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนล่วงรู้สถานะการณ์และความต้องการของในหลวง > >อันจะทำให้คณะรัฐประหารไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ > > > >-ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๔๙(ล่วงเลยมา ๒ วัน) > >คณะรัฐประหารทำพิธีแต่งเครื่องแบบปกติขาว > >รับสนองพระบรมราชโองการ(ปลอม)ที่กองทัพบก และเป็นที่น่าสังเกตุว่าปกติ > >ในพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ(ที่เป็นของจริง)จะต้องทำพิธีทันทีทันใดหรือ > >ในวันเดียวกับที่ได้รับการโปรดเกล้า เพราะเป็นพิธีอันเป็นมงคล > > > >-พล. อ.เปรม ติณสูลานนท์,พล.อ.สุรยุทธ จุลนานนท์,นายพลากร สุวรรณรัตน์ ทั้ง ๓ > >คน ในหลวงทรงไม่พอพระราชหฤทัยที่ออกมาแทรกแทรงการเมือง > >โดยใช้ตำแหน่งองค์มนตรีมาสร้างความชอบธรรม > >ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ในหลวงต้องหนักพระราชหฤทัยเป็นอย่างมาก > >พระองค์ท่านจึงไม่ทรงโปรดให้ทั้ง ๓ คนเข้าเฝ้ารายงานใดๆ > >แก่พระองค์ท่านเป็นเวลาร่วม ๑ เดือน จนกระทั้งเกิดการก่อรัฐประหาร > >และบีบบังคับพระองค์ท่านในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ > > > >ถ้าประชาชนต้อง การทราบว่าเรื่องนี้เป็นเท็จหรือจริงอย่างไร > >ท่านสามารถทำได้โดยเรียกร้องให้คณะรัฐประหาร เปิดเผยเทปพระราชดำรัสในวันที่ ๑๙ > >กันยายน ๒๕๔๙ > >ผู้เล่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไการเพียงให้คณะรัฐประหารหยุดแอบอ้างพระบรมราช โองการ > >และดึงฟ้าต่ำเพื่อสร้างความชอบธรรมโดยใช้ในหลวงเป็นเครื่องมือ > > > >คณะ > >รัฐประหาร จะกระทำการใดๆ > >ไม่มีใครว่าและคิดว่าประชาชนก็ยินดีที่ปัญหาของประเทศจะถูกแก้ไข > >ตามสัญญาของคณะรัฐประหาร แต่โปรดอย่าดึงฟ้าต่ำ > > > >จากผู้ยืนดูอยู่ในเหตุการณ์ > >๒๕ กันยายน ๒๕๔๙ > > > >สงสัยว่าเป็นการแอบอ้างพระราชโองการฯ เนื่องจาก > > > >1. แอบถ่ายรูปโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต เพราะว่า ขณะถ่าย พระราชินี > >ทรงไม่ทันตั้งองค์เลยเงยพระพักตร์ขึ้นมาดู พอดีในจังหวะที่มีการถ่ายรูป > >อันนี้สังเกตุเห็นได้ชัดเจน > > > >2. คณะผู้เข้าเฝ้า หน้าตาเคร่งเครียดกับพระราชดำรัสของพ่อหลวง > >ซึ่งถ้าพ่อหลวงเห็นดีด้วยพวกเขาจะไม่ฟังด้วยหน้าตาเคร่งเครียดเช่นนี้เป็นแน่นอนที่ส > >ุด เพราะหน้าตาแบบนี้ เหมือนถูกตำหนิ > > > >3. แม้แต่คณะครูอาจารย์ หรือใครก็ตามที่เคลื่อนไหวถวายฎีกาของนายก ม.7 > >พ่อหลวงยังไม่เห็นด้วยเลยทรงกล่าวว่า "ไม่เป็นประชาธิปไตย" > >นับประสาอะไรกับการยึดอำนาจรัฐเล่า???? > > > >4. พ่อหลวงได้ให้วันเลือกตั้งพระราชทานมาแล้ว โดยกำชับแก่ประธาน กกต. เดิม และ > >นายกไว้ด้วยอันนี้ซึ่งแสดงเป็นนัยไว้แล้วว่า ให้คณะ > >กกต. และ นายก จัดการดูแลเลือกตั้งให้เร็ว > > > >วันที่ 25 เมษายน 2549 > >พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้พิพากษาของศาลฎีกาโดยมีความตอน > > > >หนึ่งว่า > > > >“ข้าพเจ้า มีความเดือดร้อนมาก ที่เอะอะอะไรก็ขอพระราชทานนายกฯ พระราชทาน > >ซึ่งไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย ถ้าไปอ้างมาตรา ๗ ของรัฐธรรมนูญ > >เป็นการอ้างที่ผิด มันอ้างไม่ได้ มาตรา ๗ มี ๒ บรรทัดว่า > >อะไรที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ปฏิบัติตามประเพณี หรือตามที่เคยทำมา ไม่มี > >เขาอยากจะได้นายกฯ พระราชทาน เป็นต้น จะขอนายกฯ พระราชทาน > >ไม่ใช่เป็นเรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นการปกครองแบบ ขอโทษ พูดแบบมั่ว > >แบบ ไม่มีเหตุมีผล”..... > > > >และอีกตอนหนึ่งว่า > > > >“แล้ว ก็ขอยืนยันว่า ไม่เคยสั่งการอะไร > >ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ของบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย พระราชบัญญัติต่างๆ > >ทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง อย่างที่เขาขอ บอกว่า ขอให้มี > >ให้พระราชทานนายกฯ พระราชทาน ไม่เคย ไม่เคยมีข้อนี้ มีนายกฯ > >แบบมีการรับสนองพระบรมราชโองการ อย่างที่ถูกต้องทุกครั้ง > >มีคนเขาก็อาจจะมา มาบอกว่า พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ เนี่ยทำตามใจชอบ > >ไม่เคยทำอะไรตามใจชอบ” > > > >.... > >พระราชดำรัสนี้ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าพระองค์ท่านให้ความสำคัญต่อรัฐธรรมนูญและจะ > > > >ไม่สั่งการใดๆที่ไม่มีกฎเกณฑ์ > > > >คำถามมีอยู่ว่า....เหตุ ใด คปค.จึงปล่อยข่าว > >และสร้างเหตุการณ์แวดล้อมประหนึ่งว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นด้วย > >กับการใช้กองกำลังอาวุธปล้นอำนาจอธิปไตยของประชาชนและฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง > >ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าการใช้มาตรา 7 มากมายนัก > > > >การกระทำของคณะปฎิรูปฯ > >จึงถือเป็นการบิดเบือนพระราชประสงค์และทำให้พระเกียรติต้องมัวหมอง > > > >วันที่ 20 กรกฎาคม 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย > >ในพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2549 > >ก่อนทรงเข้ารับการถวายการผ่าตัดจากคณะแพทย์ที่โรงพยาบลาศิริราช...ซึ่งชี้ > >ชัดว่า... > > > >พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้มีการเลือกตั้ง... > > > >คำถามมีอยู่ว่า....เหลือเวลาอีก 2 เดือน > >เหตุใดจึงรอให้ประชาชนใช้อำนาจของเขาไม่ได้ > > > > > >คำถามมีอยู่ว่า....เหตุใดไม่ให้พระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง > >ให้พล.อ.สนธิ เป็นหัวหน้าคณะปฎิรูปฯ ก่อนยกเอากองกำลังติดอาวุธ ทั่วกรุงเทพ > > > >คำถามมีอยู่ว่า.....หาก > >คณะปฎิรูปไม่จัดวางกำลังพลติดอาวุธและรถถังไว้ทุกทิศทางในรัศมี 1 กม. > >โดยรอบพระราชฐานแล้ว พระองค์จะยังทรงลงพระปรมาภิไธยให้ อยู่หรือไม่....... > > > >การกระทำของคณะปฎิรูปฯ ไม่เพียงบิดเบือนพระราชประสงค์เท่านั้น แต่ยัง ข่มขู่ > >คุกคามพระราชอำนาจอีกด้วย > > > >ยิ่ง ไปกว่านั้น การปล่อยข่าวและสร้างเหตุการณ์แวดล้อมให้ดูประหนึ่งว่า > >พระเจ้าอยู่หัวสนับสนุนการยึดอำนาจนั้น ได้แพร่สะพัดไปทั่วโลก > >และถูกนำเสนอในบทความ บทบรรณาธิการ ของสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่อย่างกว้างขวาง > >ยิ่งทำให้พระเกียรติที่ได้รับความเชื่อถือในรอบ 60 > >ปีแห่งการครองศิริราชสมบัติต้องมัวหมอง > >อย่างยากที่จะกอบกู้ได้....จนพวกคณะปฎิรูปต้องตัดถ้อยคำ > >“อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ภาคภาษาอังกฤษออกจากคำเรียกขาน > >คณะของตนเอง...ซึ่งไม่สามารถแก้ไขความเข้าใจให้แก่นาน นา ชาติได้ > >กลับทำให้ตอกย้ำความเชื่อให้ดูมีน้ำหนักมากกว่าเดิม > > > > > >เราไม่อาจ ยอมรับ ให้ คปค.อยู่ในอำนาจแม้แต่นาทีเดียว และขอปฎิเสธทุกคำสั่ง > >ทุกคำประกาศ > >และทุกคนที่พวกเขาใช้อำนาจปืนแต่งตั้งขึ้นมา.....เขาคือโจรปล้นอำนาจ > >อธิปไตยของประชาชน...เขาไม่ใช่ผู้ปกครองที่เราจะยอมรับได้อีกต่อไป...
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3526 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย thaky
IP: Hide ip
, วันที่ 24 ก.ค. 50
เวลา 11:01:40
|
|
|
|
|
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180
|
|
กรุณาอ่าน |
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป |
|
|
|