กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
(คตส.) ได้สรุปผลสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน
ชินวัตร ภริยา ว่ากระทำทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่
ในการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก
พร้อมส่งให้อัยการสูงสุดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น
ศาลนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ส.ค.
ที่ห้องพิจารณาคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายทองหล่อ โฉมงาม รองประธานศาลฎีกาคนที่ 3
ในฐานะเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะรวม 9 คน
ออกนั่งบัลลังก์นัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลย
ในคดีที่นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด ลงนามเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา
เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน เจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันเป็นคู่สัญญา
หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ
ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น
ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล
ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
และเป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด
เข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น
เนื่องด้วยกิจการนั้น
เป็นเจ้าพนักงานและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122
ประกอบ ป. อาญา มาตรา 33, 83, 86, 91, 152 และ 157
กรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772
ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูกิจการและสถาบันการเงิน
อันเป็นการซื้อขายที่ดินต่ำกว่าราคาประเมิน 4,200 ล้านบาท “ทักษิณ” ส่งทนายขอเลื่อนการพิจารณา
สำหรับนัดนี้ ทั้ง
พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานไม่ได้เดินทางมาศาลแต่อย่างใด มีเพียงนายพิชิฏ
ชื่นบาน และนายอภิศักดิ์ อาภัสสมภพ ทนายความของ
พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า
ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องรวม 3 ฉบับต่อองค์คณะผู้พิพากษา
โดยคำร้องฉบับแรกอ้างว่า จำเลยทั้ง 2 มีที่อยู่จริงที่ประเทศอังกฤษ
ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งศาลที่ว่า ภูมิลำเนาของจำเลยทั้ง 2
ในคำฟ้องเป็นที่อยู่จริง
และคำให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกกระบวนการพิจารณาคดีรอออกไป ส่วนคำร้องอีก 2
ฉบับ ได้ขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป
โดยจำเลยพร้อมจะเดินทางกลับมาต่อสู้คดีภายใน 30 วัน หลังมีการ
จัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว
ในขณะที่ฝ่ายอัยการโจทก์ที่มี นายเศกสรร บางสมบุญ
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ พร้อมคณะทำงาน ได้แถลงต่อศาลว่า
โจทก์ขอยืนยันว่า ภูมิลำเนาตามคำฟ้องของจำเลยทั้ง 2 เป็นที่อยู่จริง
โดยศาลได้มีคำสั่งในกระบวนการพิจารณาลงวันที่ 10 ก.ค.2550 แล้ว
ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนั้น
โจทก์เห็นว่าข้ออ้างเรื่องความไม่ปลอดภัยของจำเลยทั้ง 2 และพยานนั้น
เป็นเรื่องที่จำเลยทั้ง 2 คิดคำนึงเอาเอง โดยนำเหตุการณ์ในหนังสือพิมพ์
ซึ่งไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามนั้นมาเป็นข้ออ้าง การที่จำเลยทั้ง
2 อ้างว่า เหตุที่ไม่เข้ามาประเทศไทย เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาตินั้น
เป็นเพียงความคาดเดาของจำเลยเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อจำเลยไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้ว
จึงขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยทั้ง 2 มาดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป อ้างไม่ปลอดภัย-กระทบสมานฉันท์
นายพิชิฏได้แถลงต่อศาลว่า
จำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาจะหลีกเลี่ยงไม่มาศาล
แต่ขณะนี้ไม่สามารถเข้ามาต่อสู้คดีได้ เนื่องจากมีปัญหาหลายเรื่อง
ไม่ใช่เฉพาะปัญหาเกี่ยวกับคดีนี้เท่านั้น
จึงขอความกรุณาให้เวลาจำเลยทั้งสองสักระยะตามแต่ศาลจะเห็นสมควร
โดยจำเลยทั้งสองเห็นว่า
หลังจากที่มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
ในขณะนี้หากจำเลยกลับมาเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย
และกระทบต่อความสมานฉันท์ของบุคคลในชาติ จากนั้นศาลโดยนายทองหล่อ โฉมงาม รองประธานศาลฎีกาคนที่สาม
ได้ขอพักการพิจารณาคดีชั่วคราว เพื่อปรึกษาหารือกับองค์คณะนานชั่วโมงครึ่ง
จากนั้นนายทองหล่อ โฉมงาม รองประธานศาลฎีกาคนที่สาม
ได้อ่านกระบวนการพิจารณาใจความว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า
เมื่อศาลมีคำสั่งให้โจทก์แถลงที่อยู่จริงของจำเลยทั้งสอง
โจทก์ยื่นคำร้องยืนยันว่าจำเลยทั้งสองยังคงมีที่อยู่จริงตามภูมิลำเนาในคำฟ้อง
โดยจำเลยทั้งสองยังคงใช้ที่อยู่จริงตามคำฟ้องในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
และในการฟ้องหรือการดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลตลอดมา
ซึ่งจำเลยทั้งมิได้โต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่น ศาลเชื่อรัฐบาลดูแลความปลอดภัยได้
ดังนั้น
จึงต้องถือว่าภูมิลำเนาในคำฟ้องเป็นที่อยู่จริงของจำเลยทั้งสอง
ที่ศาลมีคำสั่งให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองตามที่อยู่ในคำฟ้อง
จึงเป็นคำสั่งและกระบวนการพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งปรากฏว่า
จำเลยทั้งสองได้ทราบเรื่องที่ถูกฟ้อง และแต่งตั้งทนายความให้มาศาลในวันนี้
จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งเดิม
ส่วนที่จำเลยทั้งสองขอให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปโดยอ้างว่า
จำเลยทั้งสองไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดได้ เพราะจะไม่ได้รับความปลอดภัย
และไม่สามารถต่อสู้คดีได้เต็มที่ เพราะพยานไม่กล้าเปิดเผยตัวนั้น
เห็นว่าประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
แม้ขณะนี้อยู่ในช่วงหลังการยึดอำนาจการปกครอง
แต่ก็มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 ใช้บังคับ
รัฐบาลยังมีหน้าที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเหมือนเช่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
การกระทำความผิดต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใด
ยังคงเป็นความผิดทางอาญา และมีบทกำหนดโทษไว้ บุคคลใดๆ
ไม่มีอำนาจที่จะละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนคนไทย จำเลยเจตนาหลบหนีให้ออกหมายจับ
การที่มีบุคคลฝ่ายต่างๆแสดงความคิดเห็นว่า
หากจำเลยทั้งสองเข้ามาประเทศไทยในช่วงนี้จะไม่ ปลอดภัย
และอาจก่อให้เกิดความแตกแยกอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน
เป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นมีลักษณะเป็นการคาดเดาของแต่ละบุคคล
ทั้งการที่จำเลยทั้งสองเข้ามาในประเทศไทย
จำเลยทั้งสองย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนั้น
ข้ออ้างดังกล่าวของจำเลยทั้งสองจึงเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักรับฟังได้น้อย
ประกอบกับเมื่อคดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล
ศาลมีอำนาจในการไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่
ศาลย่อมให้ความเป็นธรรมแก่จำเลยโดยให้โอกาสจำเลยทั้งสองในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่
ข้ออ้างของจำเลยทั้งสองไม่อาจรับฟังได้
จึงไม่มีเหตุที่เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป จึงยกคำร้องของจำเลยทั้ง 3 ฉบับ
สำหรับคำขอ ของโจทก์ที่ขอให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองนั้น
เห็นว่าจำเลยทั้งสองทราบเรื่องที่ถูกฟ้อง
และได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาล
พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองหลบหนี
จึงให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง
ให้โจทก์ดำเนินการเพื่อให้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลตามหมายจับ
และนัดพิจารณาครั้งแรกใหม่ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ชี้ “ทักษิณ” ไม่กลับแม้โดนหมายจับ
นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความตระกูลชินวัตร
กล่าวถึงกรณีที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า
วันนี้ทีมทนายความรวมทั้งตนได้เข้าไปรับฟังคำสั่งศาล
โดยเบื้องต้นต้องน้อมรับคำสั่งศาลที่ออกหมายจับ เนื่องจาก
พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ไม่ได้เดินทางมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล
และได้ขอเลื่อนคดีไปแล้ว โดยจะแจ้งไปยัง
พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศอังกฤษทราบว่าทีมทนายจะดำเนินการแทน
พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร เพราะถึงวันนี้
พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มีกำหนดกลับประเทศไทยอย่างแน่นอน ดังนั้น จะรีบแจ้งให้
พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานทราบอย่างเร่งด่วนว่าศาลมีคำสั่งออกหมายจับ
โดยคณะทำงานฝ่ายกฎหมายจะเร่งประชุมสรุปแนวทาง
เพื่อเสนอแนวทางที่ดีที่สุดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน
เพื่อให้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของทั้งสองนั้น
ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะกลับเมื่อไร
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งสองท่านเอง ทั้งนี้ เตรียมจะเดินทางไปพบกับ
พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา เพื่อร่วมหารือในเรื่องดังกล่าวที่ประเทศอังกฤษ อัยการเร่งประสานตำรวจขอตัวกลับ
นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ในวันที่ 15
ส.ค.นี้จะเดินทางไปขอรับหมายจับจากศาล จากนั้นจะนำไปส่งให้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.
เพื่อดำเนินการติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองต่อไป คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานงานมาในภายหลังว่าผลจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ พนักงานอัยการจะต้องประสานกับทาง คตส.ด้วยว่า
จากนั้นจะดำเนินการอย่างไร กระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลานานเท่าใดนั้น
ไม่สามารถตอบได้ แต่คาดว่าภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดในวันที่ 25 ก.ย. นี้
น่าจะเพียงพอในการนำตัวจำเลยทั้งสองไปศาล ต่อข้อถามว่า
การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศอังกฤษและประเทศไทยนั้นสามารถทำได้หรือไม่
นายเศกสรรตอบว่า
เป็นขั้นตอนที่ต้องให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ
ยังไม่สามารถกระทำได้ในตอนนี้ คงต้องรอให้ได้รับหมายจับจากศาลฎีกาฯ
เสียก่อน ว่าศาลจะออกหมายมาว่าอย่างไร “สนธิ” ให้ ตร.หารือรัฐบาล
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
(คมช.) กล่าวว่า เรื่องการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
พูดไปเกรงว่าจะผิด
เมื่อถามว่าจะมีการประสานงานไปยังประเทศอังกฤษเพื่อขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ
เพื่อกลับเข้ามาให้การในคดีดังกล่าว ในสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องนี้ คมช.ไม่ทำแน่นอน แต่ในกรอบคงจะต้องไปถามตำรวจ
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลและ คมช.
จะมีการหารือถึงแนวทางในการดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
เนื่องจากเป็นคดีแรกที่จะต้องเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณมาให้ปากคำในชั้นศาล
พล.อ.สนธิตอบว่า ทางตำรวจคงจะหารือมาที่รัฐบาลมากกว่า
ทางทหารจะดูผลตรงนั้น หากช่วยอะไรได้ก็จะช่วย เชื่อคนเข้าใจเหตุศาลอนุมัติหมายจับ
เมื่อถามว่า
เกรงหรือไม่ว่าประชาชนจะมองการกระทำดังกล่าวจะเป็นสร้างความกดดัน
หรือสร้างความอึดอัดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.สนธิตอบว่า “ไม่หรอกครับ
ผมถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนของ คตส. และศาล อยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นความถูกต้อง
ทั้งนี้ คิดว่าประชาชนคงจะเข้าใจ เพราะทุกคนรอคอยเวลานี้อยู่” เมื่อถามว่า
คมช.จะให้การดูแลความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานอย่างไร เพราะ
พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยหากเดินทางกลับเข้าประเทศ
พล.อ.สนธิตอบว่า ทาง คมช.จะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
และรัฐบาลก็คงจะต้องสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้ว
ทหารจะเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ขอให้เดินทางกลับมา เมื่อถามว่า
การออกหมายจับถือเป็นความสำเร็จหนึ่งในสี่ข้อที่ คมช.
อ้างในการปฏิรูปฯหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า
ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
(คตส.) ถือเป็นความสำเร็จของ คตส. ประการหนึ่ง ลูกพรรคเชื่ออังกฤษไม่ส่งตัวกลับ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า
เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการของศาล แต่กรณีนี้เป็นกรณีพิเศษในทางการเมือง
หากจะขอส่งตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
ก็ต้องดูว่าประเทศอังกฤษจะตีความว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ร้ายหรือไม่
แต่เชื่อว่าประเทศอังกฤษคงไม่ตีความตามนั้น และส่วนตัวเชื่อว่าช่วงนี้
พ.ต.ท.ทักษิณคงยังไม่เดินทางกลับมา
เพราะเคยพูดว่าหากยังไม่ได้รับความยุติธรรมในการสู้คดี
ก็จะยังไม่เดินทางกลับยังไทย คตส.พร้อมเป็นพยานคดีทุจริต
นายสัก กอแสงเรือง
โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
กล่าวว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานเดินทางเข้าประเทศ
หรือมีใครพบตัวที่ไหนในประเทศ ก็สามารถจับได้เลยเนื่องจากศาลมีหมายจับแล้ว
แต่ถ้าอยู่นอกประเทศก็เป็นหน้าที่ของอัยการที่จะต้องประสานกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
และติดตามหาตัวจำเลยทั้งสองในประเทศที่พำนักอยู่
โดยจะต้องพิจารณาว่าประเทศที่อยู่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่
คตส.ไม่เกี่ยวข้องในขั้นตอนดังกล่าว
แต่พร้อมเป็นพยานในกรณีที่ถูกเรียกไปสอบ สื่อต่างชาติประโคมข่าวหมายจับ
ทางด้านสำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
ได้รายงานเกี่ยวกับกรณีที่ศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา
ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ หลังจากทั้ง 2
คนไม่ได้มาขึ้นศาลตามกำหนด และนัดฟังผลการดำเนินการตามหมายจับ
และนัดพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งในวันที่ 25 ก.ย.
และจะพิจารณาดำเนินการขอส่งตัวอดีตนายกฯ ทักษิณจากอังกฤษ
หากไม่มาขึ้นศาลอีกตามเส้นตายครั้งที่สอง ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ได้ประโคม
ข่าวว่าศาลสูงของไทย มีคำสั่งออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน
ชินวัตร ในข้อหาคอรัปชันออกไปทั่วโลกแล้ว ทั้งนี้
หากอดีตนายกฯทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง
ก็อาจจะกระทบกระเทือนต่อการเป็นเจ้าของสโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์
ซิตี้ ทีมในพรีเมียร์ลีก เนื่องจากผิดกฎของฟุตบอลลีกอังกฤษ บัวแก้วพร้อมดำเนินการตามขั้นตอน
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ
ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า
ขณะนี้ขึ้นกับทางอัยการสูงสุดว่าจะพิจารณา ขอส่งตัวให้ส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ
และคุณหญิงพจมานกลับประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่
หากอัยการพิจารณาเห็นควรดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศก็พร้อมที่จะให้ ความร่วมมือและดำเนินการตามคำขอต่อไป
ในฐานะที่เป็นช่องทางการยื่นเรื่องตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน
เมื่อถามว่า ขั้นตอนดำเนินการใช้เวลานานเพียงไร นายธฤตตอบว่า
ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินงาน
แต่ในหลักการคือเราจะรอดูว่าหากระยะเวลาผ่านไปตามสมควรหลังมีการส่งเรื่องไปแล้วก็จะมีการทวงถาม
ทั้งนี้ การพิจารณาว่าจะมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่
ก็ขึ้นกับทางการอังกฤษจะพิจารณาว่าฐานความผิดที่เราระบุไป
ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอังกฤษด้วยหรือไม่ ดังนั้น
จึงขึ้นกับการตีความของทางอังกฤษเอง เราคงไม่สามารถพูดแทนได้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|