สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของ iOS 8
Interactive Notification สามารถตอบกลับข้อความหรือกดไลค์โพสต์ตอบเฟซบุ๊กผ่าน Notification ได้
Quick access เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อสำคัญในหน้า Multitasking สามารถกดโทรหา, ส่งข้อความ, วิดีโอคอล และ FaceTime ได้
ปรับปรุง Spotlight ค้นหาข้อมูลได้หลากหลายกว่าเดิม เช่น ค้นหาแอพฯ จาก App Store
ฟีเจอร์ QuickType ระบบเดาคำระหว่างพิมพ์ข้อความ รองรับ 14 ภาษา รวมถึงภาษาไทย
คีย์บอร์ดรองรับการพูดภาษาไทย (Dictation) สั่งให้ iPhone พิมพ์ตามได้แล้ว
สามารถติดตั้งแอพฯ คีย์บอร์ดแยกจากภายนอกได้แล้ว (third-party keyboard)
iMessage ปรับปรุงใหม่สามารถส่งภาพ, คลิปวิดีโอ, ข้อความเสียง และสถานที่ รวมถึงรองรับการแชทเป็นกลุ่ม
เพิ่มฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในองค์กร
ปรับปรุงแอพฯ Photo สามารถแต่งภาพได้หลากหลายขึ้น เช่น เพิ่มแสง, สี และความคมชัดของภาพ
แอพฯ กล้องถ่ายภาพปรับปรุงใหม่ ตั้งเวลาถ่ายรูปได้แล้ว และถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse
Family Sharing แชร์ข้อมูลกับคนในครอบครัวอัตโนมัติผ่านอุปกรณ์ เชื่อมโยงกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแอพฯ, ภาพถ่ายฯ ปฏิทินฯ และแจ้งเตือน รวมถึงกรณีที่ลูก ๆ ต้องการซื้อแอพฯ ต้องได้รับอนุญาตจากพ่อเเม่ก่อน สามารถใช้ได้สูงสุด 6 คนต่อครอบครัว
iCloud Drive สามารถแชร์ข้อมูลร่วมกันได้ทุกอุปกรณ์
ปรับ ปรุง Siri เปิดใช้งานด้วยคำสั่ง "Hey, Siri" และสามารถใช้ Siri ซื้อคอนเทนต์จาก iTunes ได้, จดจำเพลงได้ และรองรับการพิมพ์ด้วยเสียงเพิ่มอีก 22 ภาษา
Widget สามารถเพิ่ม Widget ต่าง ๆ ในส่วน Notification Center ได้แล้ว
Health แอพฯ ด้านสุขภาพเก็บทุกข้อมูลและซิงก์กับอุปกรณ์ด้านสุขภาพ
Continuity ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS เข้ากับ Mac ส่งผลให้การแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ระหว่าง iOS กับ Mac ทำได้ง่ายขึ้น
สำหรับ
iOS 8 เวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับเวอร์ชั่นเต็มคงต้องรอช่วงปลายปี
ส่วน อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 8 ได้แก่ iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPod touch 5, iPad 2, iPad with Retina display, iPad Air, iPad mini และ iPad mini with Retina display ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Apple.com