สัมภาษณ์โดย : ฟ้ารุ่ง ศรีขาว
ภาพ : ชัชวาลย์ นิจงาม, กิตยางกูร ผดุงกาญจน์, ณัตติพร ช่วยหนู
ภาพ/ลำดับภาพ : นัฐพงษ์ โห้เฉื่อย
*สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2557
"ลี น่า จังจรรจา" ผู้หญิงที่สร้างสีสันทางการเมือง ซึ่งมีทั้งคนชอบและคนชัง เธอเปิดเผยว่าวันนี้ต้องทำงานคนเดียวในสตูดิโอที่ลงทุนเอง พร้อมสาทิตให้ดูขั้นตอนการทำงานแบบฉายเดี่ยวเพราะลูกน้องมาทำงานบ้างไม่มาทำ งานบ้าง
-ที่มาของชื่อ "ลีน่าจัง"
คุณ พ่อแซ่จัง ชื่อลีน่าจัง มาจากสื่อมวลชนตั้งให้ เพราะเมื่อปี 2540 เคยออกมาเคลื่อนไหวไล่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หน้าธนาคารกรุงเทพ สีลม กับที่หน้าทำเนียบรัฐบาล แล้วตั้งแต่นั้นมา สื่อมวลชนก็เลยเรียก "ลีน่าจัง"
คุณพ่อแซ่จัง ต่อมาเมื่อปี 2547 ไปสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ก็เลยเปลี่ยนนามสกุลเป็น จังจรรจา
คุณ พ่อคุณแม่ เป็นคนจีนมาจากซัวเถา ไม่ได้เรียนหนังสือ บรรพบุรุษมาอยู่ประเทศไทยเป็นร้อยปีแล้ว คุณพ่อคุณแม่ตายไปแล้ว คุณแม่คลอดลูกเองที่บ้าน ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เพราะยากจนมีลูกตั้ง 12 คน คุณพ่อก็ไปแจ้งที่อำเภอ ว่า ช่วยตั้งชื่อให้หน่อย ตอนนั้นมีภาพยนต์อินเดียดังๆ นางเอกชื่อลีน่า เจ้าหน้าที่ที่อำเภอเลยตั้งชื่อลีน่าคะ (หัวเราะ)
-ในรายการพูดเนื้อหาหนักๆ แต่ท้ายรายการขายผลิตภัณฑ์ "อกฟู รูฟิต" มันเกี่ยวกันอย่างไร
มัน จำเป็นคะ เราต้องหารายได้ เพราะเราไม่เคยรับเงินจากนักการเมือง มีแต่รับเงินบริจาคจากประชาชน เพราะฉะนั้น เราไม่เคยมีใครมาสนับสนุนเรา เราก็ต้องหารายได้ เอาสินค้ามาขาย เพื่อจะได้มีรายได้ เพราะปกติสถานีดาวเทียม ต้องจ่ายค่าเช่าสัญญาณกับค่าลูกน้องเดือนละ 1 ล้านบาท ฉะนั้น เราก็ต้องขายสินค้า เป็นความจำเป็นคะ
-แฟนๆ ติดตามทางไหน
ตอน นี้คนที่มีมือถือไอโฟน ไอแพด มีอินเตอร์เน็ต บางคนเขาดูอาจารย์แล้วเขาติดมาก เขาก็หาช่องทางดูจนได้ เขาก็ไปดูในไอแพดไอโฟน บางคนไปซื้อไอโฟนแล้วให้ลูกสอนใช้ บางคนใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็นก็ให้ลูกเปิดให้ก็มี เขาอยากดูว่าอาจารย์จะวิเคราะห์อย่างไร
-ลีน่าจัง เสื้อสีไหน
ไม่ มีสี เป็นคนของประชาชน เพราะเราเป็นนักกฎหมาย อาจารย์เป็นประธานมูลนิธิลีน่าจัง ช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย และจดทะเบียนประกาศในราชกิจจานุเบกษามาเนี่ย 13 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2544 ไม่มีสีคะ ยืนอยู่ข้างประชาชน ยืนอยู่ข้างความถูกต้อง
-มีความสุขดีอยู่ไหม
ไม่มีเพราะคนที่ให้เช่าสัญญาณ มาเก็บเงินฉันนะ ขู่จะตัดสัญญาณ ฉันบอกว่าให้ตัดไปเลย
ดิฉัน ว่า ดิฉันคงไม่กล้าไปเทียบเท่าท่านผู้หญิงพูนศุขหรอกคะ แต่ดิฉันคือลีน่าจังนะคะ ดิฉันถูกกระทำในฐานะผู้เสียหาย ดิฉันไม่กล้าไปเปรียบเทียบท่านผู้หญิง ดิฉันเป็นลีน่าจัง ที่รู้แต่ว่า ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อ
- ฟีดแบคในโลกออนไลน์
ฉันภูมิใจมาก ฉันมีความรู้สึกว่าฉันเป็นวีรสตรี