กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันที่ 1 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเอาช็อคไปทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสาร และลูกเรือที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยว่า บุคคลสามารถนำของใช้ส่วนตัว (Personal Effect) เข้าประเทศได้ไม่เกินครั้งละ10,000 บาท โดยต้องไม่มีลักษณะทางการค้า เสบียง อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี, บุหรี่/ยาสูบ/สุรา/ไวน์ นำเข้าได้ในจำนวนจำกัด ของฝากญาติ ของบริจาค ของสะสม ของมือสอง ของฝากเจ้านาย ไม่ถือว่าเป็นของใช้ส่วนตัว กระเป๋า-นาฬิกาแบรนด์เนมราคาเกิน 10,000 บาท ต้องชำระภาษี
ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นการป้องกันและปราบปรามกลุ่มแม่ค้า พ่อค้าพรีออร์เดอร์ทั้งหลายที่ทำธุรกิจหิ้วสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายโดยวิธีการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งความผิดทางศุลกากรกำหนดไว้ชัดเจนตามประกาศกรมศุลกากรว่า “ห้ามบุคคลนำของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีอากรหรือของที่ควบคุมการนำเข้า หรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในประเทศไทยโดยของที่ลักลอบหนีศุลกากร อาจเป็นของที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ต้องเสียภาษีก็ได้ หรืออาจเป็นของต้องห้ามหรือของต้องกำกัดหรือไม่ก็ได้ หากไม่นำมาผ่านพิธีการศุลกากร ก็มีความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร ทั้งนี้ กฎหมายศุลกากรได้กำหนดโทษผู้กระทำผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรสำหรับความผิดครั้งหนึ่ง ๆ ไว้สูงสุดคือ ให้ริบของที่ลักลอบหนีศุลกากรและปรับเป็นเงิน 4 เท่าของของราคารวมค่าภาษีอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำและปรับ”
ทั้งนี้มาตรการที่เกิดขึ้นทำเอาพ่อค้า แม่ค้า นักช็อป นักเที่ยวคงจะแห้งเหี่ยว เพราะนอกจากตัวเองจะช็อปไม่กระจายกระเป๋าไม่ฉีกสมใจ แล้วยังหิ้วของเข้ามาหารายได้เพิ่มไม่ได้ด้วย.
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|