• ยิงหัวกระจุยหนุ่มวัยรุ่น |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 30 ส.ค. 50 เวลา 09:56:11 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ยิงหัวกระจุยหนุ่มวัยรุ่น .............ยิงหัวกระจุย..............
มือปืนทมิฬลั่นกระสุนยิงหัวหนุ่มวัยรุ่นสมองกระจายดับสยอง ขณะกำลังนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ คาดก่อนตายนัดเคลียร์ปัญหาแต่ตกลงกันไม่ได้ จึงสังหารทิ้ง ตรวจสอบประวัติผู้ตาย พบพัวพันกับยาเสพติดและแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายคดี เตรียมเรียกญาติมาสอบสวนปากคำ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายแล้ว เบื้องต้นมุ่งปมขัดธุรกิจมืด ทางด้าน อ.แม่แตง น้องชายสุดทนโดนพี่ชายขี้เมา รังแกทุบตี ทำร้ายร่างกายมาตลอด ทนไม่ไหวคว้าขวานจาม พี่ชายขี้เมาดับจมกองเลือด
เหตุอุกฉกรรจ์รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 28 ส.ค.นี้ พ.ต.ท.บุญช่วย มังคละ สารวัตรสอบสวน สภ.(ย่อย) ต.บ้านดู อ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงตาย ที่บริเวณถนนทางเข้าบ่อดิน บ้านสันต้นกอก ซอย 5 ม.2 ต.ท่าสุด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนจะร่วมกับ พ.ต.อ.จรัญ เริงธรรม ผกก. สภ.อ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน หน. สภ.(ย่อย) ต.บ้านดู่ พ.ต.ท.อนันต์เดช ยาวิชัย สว.สส. พ.ต.ต.สุรชาติ บุญเจริญ สวป. แพทย์นิติเวช ร.พ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเชียงราย เดินทางไปทำการสอบสวน และชันสูตรพลิกศพยังที่เกิดเหตุ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อยืดสีแดง ทับด้วยเสื้อกันหนาวสีแดง ทับด้วยเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินเขียว สวามกางเกงขาสั้นลายสก๊อตสีเขียว และสวมรองเท้าแตะ นอนตะแคงคร่องรถจักรยานยนต์ย่ามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-ขาว สภาพใหม่ ทะเบียนป้ายแดง ดมต. 22 ภ.จว.เชียงราย เสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน มีเลือดและมันสมองกระจาย ซึ่งจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบแผ่นหมอนรองกระสุนอาวุธปืนลูกซอง ตกอยู่บริเวณเหนือศีรษะ 1 อัน และจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ พบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง ถูกเข้าบริเวณขมับด้านซ้าย ใบหู และเหนือคิวซ้าย รวม 3 แผล
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบชื่อผู้ตายต่อมาว่า นายอัครพงศ์ คำแก้ว อายุ 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านพลูทอง ม.11 ต.ท่าสุด ซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องทั้งยาเสพติด และแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ เคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง สำหรับสาเหตุการถูกฆาตกรรมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายและผู้ตายคนจะรู้จักกันมาเป็นอย่างดี คงจะนัดหมายกันมาเจรจากันในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่มืดและเปลี่ยว เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจนอกกฎหมาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนที่คนร้ายจะชักเอาอาวุธปืนออกมาจ่อยิงเผาขน จนนายอัครพงศ์ คำแก้ว ล้มลงเสียชีวิตคาที่ ก่อนคนร้ายจะหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกวิทยาการเชียงราย ได้พบรอยล้อรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ที่จอดคู่กับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายในที่เกิดเหตุ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบศพไปเก็บรักษาไว้ที่แผนกนิติเวช ร.พ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์อีกครั้ง พร้อมทั้งเชิญตัวผู้ปกครองและญาติ ของนายอัครพงศ์ คำแก้ว มาทำการสอบสวนปากคำ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวคนร้ายรายนี้ ซึ่งได้มีการนัดหมายกันออกมาในที่เกิดเหตุ ก่อนจะมาพบจุดจบ เพื่อจะได้ทำการสืบสวน และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
อีกรายที่อำเภอแม่แตง เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 28 ส.ค.50 ร.ต.อ.ธงชัย ใจบุญ ร้อยเวร สภ.อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายเหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 114 หมู่ 2 ต.กึ้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และคนร้ายที่ก่อเหตุยังอยู่ในที่เกิดเหตุอยู่ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ธนสาร พลายโถ ผกก.สภ.อ.แม่แตง พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ธรรมเขตต์ รอง ผกก.(ป) และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ พันธุ์พิชญานนท์ สวป.นำกำลังตำรวจพร้อมทั้ง แพทย์เวร รพ.แม่แตง และนายอภิรักษ์ คุณราสินไผ่ตะกูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.กึ้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุโดยต้องใช้เวลาเดินทางร่วม 1 ชั่วโมง เข้าไปยังจุดเกิดเหตุเป็นหมู่บ้านบนดอยสูง เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านไม้ชั้นเดียว ที่หน้าบ้านทางตำรวจ ต้องผงะคอยระวังตัวเพราะพบนายสวัสดิ์ วงศ์ปัญญา อายุ 21 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุกำลังยืนถือขวานเปื้อนเลือดอยู่ในมือข้างขวา ตามเสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือด โดยที่ใกล้ที่นายสวัสดิ์ยืนอยู่พบร่างของนาย สว่าง จำปาทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเดียวกันมีศักดิ์เป็นพี่ชายคนละพ่อกันนอนจมกองเลือดแดงฉานไปทั่วส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปหมด ทาง พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ฯ และนายอภิรักษ์ ฯ ได้พูดเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธมอบตัว นายสวัสดิ์ ฯ จึงได้ยอมวางขวานและให้จับกุม โดยรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่านายสว่าง ฯ พี่ชายตายเอง ทางแพทย์และตำรวจได้เข้าไปทำการพลิกศพพบว่าที่ศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์จากคมขวานถึง 5 แผล ที่กลางหลังอีก 2 แผล ที่ แขนขวาอีก 2 แผล โดยบาดแผลที่ศีรษะทำให้ถึงแก่ความตาย ทาง ร.ต.อ.ธงชัย ฯ ได้ทำการสอบปากคำ นายสวัสดิ์ ฯ เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุที่ต้องก่อเหตุสยองในครั้งนี้ นายสวัสดิ์ ฯ ได้เปิดเผยว่า ตนกับนายสว่าง ฯ เป็นพี่น้องต่างบิดากัน ซึ่งตลอดที่อยู่กันมามักจะถูกนายสว่างรังแก มาตลอดตนทั้งเตะและทุบตี ตนไม่เคยคิดจะตอบโต้ เพราะสงสารนางเอ้ย วงค์ปัญญา ผู้เป็นแม่ จนกระทั่งในคืนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอน หลับอยู่ในห้องนอน นายสว่าง ได้นั่งดื่มสุราอยู่นอกบ้าน ได้มาตะโกนเรียกขอกุญแจรถจักรยานยนนต์จากตนในห้องนอน เพื่อจะเอาไปซื้อสุราแต่ตนหลับสนิทไม่ได้ยิน ทำให้นายสว่าง พังประตูเข้ามาในห้องนอนและด่าว่าตนอย่างรุนแรงและมิหนำซ้ำยังใช้มือตบศีรษะและเตะตนอีก ตนสุดจะทนระงับความโมโหไม่ไหวจึงคว้าขวานคมกริบ ออกมา แทนที่นายสว่าง ฯ จะกลัวกลับท้าทายและตรงเข้าทำร้ายตนโดยจับคอกระชากตีเขางัดวิชาแม่ไม้มวยไทยประเคนเข้าใส่ตน จนหมดความอดกลั้น แม้นางเอ้ย ผู้เป็นแม่จะเข้าห้ามก็ตาม พอตนตั้งหลักได้ก็ใช้ขวานฟันเข้ากลางศีรษะนายสว่าง ฯ พี่ชายจอมเกเร จนเลือดสาด จากนั้นตนได้กระหน่ำฟัน โดยเลือกเป้าหมายที่ศีรษะ นายสว่าง ฯ วิ่งหนีตายซมซามออก จึงวิ่งตามใช้ขวานไล่ฟัน จนนายสว่าง ฯ แน่นิ่ง แล้วจึงได้สติอีกครัง ตนจึงได้รอมอบตัวกับตำรวจ ทางด้านนางเอ้ย ได้ให้การกับตำรวจว่าทั้งนายสว่าง ผู้ตาย เป็นลูกที่เกิดกับสามีคนเก่า และนายสวัสดิ์ฯ เป็นลูกสามีคนใหม่ อยู่บ้านเดียวกันมาตลอดและนายสว่าง ฯ เวลาเมาสุรามามักจะหาเรื่องทำร้ายนายสวัสดิ์ ตนก็ได้พยายามห้ามปรามเพราะเป็นพี่น้องท้องเดียวกันแต่คนละพ่อเท่านั้น ในคืนวันเกิดเหตุเมื่อเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันก็จะเข้าไปห้ามแต่ไม่ทันการณ์เมื่อทั้งสองเข้าทำร้ายกันจนถึงลงมือฆ่ากันในครั้งนี้ ทางตำรวจจึงได้นำตัวนายสวัสดิ์ ฯ ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนศพของนายสว่าง ฯ ทางแพทย์ได้ทำการพิสูจน์แล้วก็มอบให้กับทางนางเอ้ย ผู้เป็นแม่นำไปทำบุญตามประเพณีต่อไปข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2007 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 30 ส.ค. 50
เวลา 09:56:11
|