| • จับสาวขนยาบ้าซุกในช่องคลอด |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 01 ก.ย. 50 เวลา 10:34:35 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จับสาวขนยาบ้าซุกในช่องคลอด
........ยาบ้าซุกช่องคลอด......
รวบ 2 ผัวเมียสุดแสบ หลังใช้ถุงยางอนามัยยัดยาบ้าไว้ที่จิ๋ม ตรวจนับได้ร่วม 1390 เม็ด ขณะที่กองเมืองเชียงใหม่บุกรวบ 2 นักศึกษาริรวยทางลัด ส่งยาบ้าให้กับนักศึกษาตามสถาบันเมืองเชียงใหม่ เตรียมขยายผลเพื่อนร่วมก๊วน
ขณะที่ ปปส.ยังคงเฝ้าจับตามองพื้นที่ภาคเหนือหวั่นยาระบาดหนัก
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2550 พ.ต.อ.นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร ผกก.สภ.อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยกับพวกร่วมกันจับกุม นางเหรียญทอง วิลัยกูล อายุ 49 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว เชียงใหม่ และนายนิคม วิลัยกูล อายุ 47 ปี สามีนางเหรียญทอง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าชนิดสีส้มบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกจำนวน 790 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ ยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทา
หมายเลขทะเบียน บท - 1877 แพร่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนางเหรียญทองเดินคล้ายกับคนผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ตำรวจหญิงทำการตรวจสอบที่บริเวณอวัยวะเพศ ปรากฎว่านางเหรียญทองได้ใช้ถุงยางอนามัยบรรจุยาบ้าแล้วซุกไว้ในช่องคลอด จากการตรวจนับพบมีจำนวน 600 เม็ด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เดินทางขึ้นไปซื้อยาที่บริเวณชายแดนด้าน อ.เชียงดาว เชียงใหม่และเตรียมจะนำส่งเอเย่นต์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะมารับอีกทอดหนึ่ง หลังจากสอบสวนเสร็จจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งให้ พ.ต.ท.วันรัตน์ บรรเรียนกิจ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เชียงดาว เชียงใหม่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกราย โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนะวุฒิ วิบูลย์เกียรติ์ สว.สส. ร.ต.อ.โอภาส วงษ์หงษ์ รอง สว.สส. สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ และชุดสืบสวน จำนวนหนึ่งร่วมกันจับกุมตัว นาย นุ๊ก นามสมมุติ อายุ 16 ปี นักศึกษา กศน.ชั้น ม.3 และนายเปี๊ยก นามสมมุติ อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.2 สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจับกุมได้บริเวณ ซอยข้างโรงพยาบาลลานนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พร้อมกับของกลางยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกจำนวน 20 เม็ด รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ หมายเลขทะเบียน คกล - 805 เชียงใหม่ เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมด ตนได้รับมาจาก ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ทราบชื่อและที่อยู่ที่ อ.พร้าว เชียงใหม่ โดย หญิงคนดังกล่าวบอกว่าของดังกล่าวให้นำไปส่งให้ชายคนหนึ่งที่รอรับอยู่ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยไม่ทราบว่าเป็นยาบ้าโดยได้ค่าจ้างคนละไม่กี่บาท จากนั้นเมื่อได้ยาบ้าก็เตรียมจะส่งมอบให้ชายคนดังกล่าวที่ ซอยข้างโรงพยาบาลลานนา อ.เมืองเชียงใหม่ แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ยังสืบทราบอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อ้างตัวว่าไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับยาเสพติด แต่สายลับรายงานว่า ทั้ง 2 คน มักจะไม่ไปเรียนหนังสือโดยมักจะนำยาบ้าไปขจำหน่ายให้กับนักเรียนนักศึกษาด้วยกันตามสถาบันต่าง ๆ จนกระทั่งสืบทราบได้ว่าทั้ง 2 คน เพิ่งไปรับยาบ้ามาจาก อ.พร้าว จึงดักจับกุม และขณะที่จับกุมได้ตรวจค้นในตัวพบยาบ้าและโทรศัพท์มือถือ โดยที่โทรศัพท์มือถือยังมีการบันทึกการรับซื้อขายยาบ้ากันอีกด้วย จึงเป็นหลักฐานเป็นอย่างดีที่จะขยายผลจับกุมตัวขบวนการค้ายาบ้ามาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายจรรยา สระมัจฉา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กล่าวว่า กลุ่มนักค้ายาเสพติดที่เป็นเครือข่ายรายใหญ่ในภาคเหนือยังไม่มีการเคลื่อนไหวจึงไม่สามารถจับกุมได้ แต่กลุ่มนี้จะไม่หยุดพฤติกรรม หันมาใช้วิธีตัดตอนนำคนที่ไม่เคยมีประวัติถูกจับกุมมาลำเลียง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวเพราะกลุ่มนี้ต้องตกเป็นเหยื่อมีตัวเลขสูงถึงร้อยละ 70 สาเหตุที่ต้องยอมเข้าสู่วงการค้ายาเสพติด ส่วนใหญ่มาจากปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ความยากจน
ต้องเสี่ยงรับจ้างลำเลียงยาบ้าจากนายทุนรายใหญ่ ปัญหานี้รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ผู้มีอิทธิพล เรื่องความยากจน การก่ออาชญากรรมพื้นที่ที่ ปปส.ภาค 5 เฝ้าจับตามมองเป็นพิเศษ ยังคงเป็นชายแดนด้านจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง และชุมชนทุกแห่งที่มีลักษณะคล้ายอำเภอเมือง เช่น อำเภอปายซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่รอยต่อ พื้นที่ปลูกฝิ่น ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ซ้ำซากที่เคยเป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติดมาก่อน ทั้งนี้เพื่อให้ลดการแพร่ระบาดให้ได้ร้อยละ 70 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกันทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันจับกุม นายนิยม ยศแดง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.4 ต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2,400 เม็ด และรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สภาพใหม่เอี่ยม หมายเลขทะเบียน บพ-8295 เชียงราย 1 คัน เงินสด กว่า 1 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำ 2 เส้น และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่า กว่า 1 ล้านบาท มาสอบสวนและดำเนินคดี ภายหลัง เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสืบทราบว่า นายนิยมเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ใน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
ที่จะนำยาบ้าจากชายแดนไปส่งขายให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯมานาน จึงได้นำหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 74 ม.4 ต.เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย จึงพบของกลางยาบ้าดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการขยายผลเพื่อร่วมแก๊งมาดำเนินคดีกฎหมายต่อไป.ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1869 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ก.ย. 50
เวลา 10:34:35
|
