• แอร์บัสฯ ทำเสียว!ชนโรงซ่อมปีกพัง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 02 ก.ย. 50 เวลา 23:54:20 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แอร์บัสฯ ทำเสียว!ชนโรงซ่อมปีกพัง ..........ถึงไทยแล้ว...........
เครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก "แอร์บัส เอ380" เดินทางถึงประเทศไทยแล้วในฐานะจุดหมายการบินเยือนในประเทศทวีปเอเชีย เผยก่อนบินถึงเชียงใหม่ เกิดเหตุระทึกปีกเฉี่ยวชนผนังโรงซ่อมเครื่องบินที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนเดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานเชียงใหม่โดยปลอดภัย
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม 2550 ผู้บริหาร การบินไทย และบริษัท แอร์บัส ชี้แจงเหตุการณ์ปลายปีกแอร์บัส เอ 380 เฉี่ยวชนผนังโรงซ่อมเครื่องบินที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนบินทดสอบเที่ยวบินไปเชียงใหม่ ซึ่งระบุเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารทางภาคพื้น และเตรียมทบทวนเพื่อหาทางแก้ไขรับโรงซ่อมหลังไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่
เรืออากาศโท อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวในฐานะที่เคยเป็นนักบินมาก่อน ให้ความมั่นใจว่า เที่ยวบินทดสอบนี้จะเดินทางด้วยความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะชิ้นส่วนที่ถูกถอดออกไม่มีผลกระทบต่อศักยภาพการบินและความปลอดภัย ซึ่งในทางปฏิบัติทางการบิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นไมเนอร์ อินซิเดนท์ หรืออุบัติการณ์ที่ไม่มีความรุนแรง และเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลังจากให้ช่างทำการตรวจสอบโครงสร้างต่าง ๆ ก็ไม่พบว่ามีส่วนอื่น ๆ ของเครื่องบินได้รับผลกระทบ ทำให้สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากการให้ข้อมูลของนักบิน ทำให้การบินไทยต้องกำชับเรื่องความระมัดระวังในการทำหน้าที่ของพนักงานภาคพื้น โดยเฉพาะการลากจูงเครื่องบินให้มากขึ้น พร้อมทั้งยอมรับว่า โรงซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ได้มีการออกแบบไว้เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีฐานล้อกว้างกว่าปกติอย่างแอร์บัส เอ 380 อาจมีส่วนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ดังนั้น การบินไทยจะต้องกลับไปทบทวนว่า ปัญหาดังกล่าวจะแก้ไขอย่างไร และอาจต้องมีการปรับปรุงโรงซ่อมอากาศยานไว้ เพื่อให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่อย่างแอร์บัส เอ 380 ได้ในอนาคต เพราะการบินไทยได้มีการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้มาถึง 6 ลำ ซึ่งจะสามารถรับมอบลำแรกได้ประมาณปี 2553
ในเที่ยวบินดังกล่าว เหตุที่ปลายปีกเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ที่นำคณะผู้บริหารการบินไทย และสื่อมวลชน จำนวน 150 คน บินทดสอบความพร้อมจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังสนามบินเชียงใหม่ เกิดเฉี่ยวชนผนังโรงซ่อมอากาศยาน จนเป็นเหตุให้ปลายปีกเครื่องบิน (Wing let) ด้านซ้าย เกิดความเสียหาย และเที่ยวบินทดสอบต้องล่าช้ากว่ากำหนดเกือบ 2 ชั่วโมงว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะรถลากเครื่องบินกำลังดันเครื่องบินเข้าสู่ทางขับ (แท็กซี่เวย์) และปัญหาน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสารทางภาคพื้น แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ให้บริการภาคพื้นหรือไม่ โดยระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่มีผลต่อความปลอดภัยและศักยภาพทางการบิน เนื่องจากปลายปีกเครื่องบินส่วนที่เสียหาย ซึ่งถูกถอดออกก่อนที่จะทำการเดินทางต่อนั้น เป็นชิ้นส่วนสำหรับลดแรงต้านทานของเครื่องบิน ซึ่งจะช่วยในการประหยัดน้ำมันเท่านั้น ไม่มีผลต่อระบบ arrow dynamic และความปลอดภัยในการเดินทาง และการถอด wing let ออกจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันเฉพาะเส้นทางบินระยะไกล ทำให้ใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากกว่าปกติเพียงร้อยละ 1 แต่สำหรับเที่ยวบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ครั้งนี้จะไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น
เครื่องบิน AIRBUS A380 ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจุผู้โดยสารกว่า 500 ที่นั่ง บินมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่แล้วโดยสวัสดิภาพ หลังจากเกิดเหตุ เกิดอุบัติเหตุบริเวณปลายปีกด้านซ้าย ที่เฉี่ยวกับผนังโรงซ่อมเครื่องบินก่อนบินขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ต้องเลื่อนเวลาบินมาถึงเชียงใหม่จากช่วง 12.00 น.เป็นเวลาประมาณ 14.30 น. ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวรอชมการมาถึงของเครื่องบินดังกล่าวโดยแอร์บัส เอ 380 สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มเที่ยวบิน โดยมีชั้นโดยสารแบ่งเป็นสามระดับ รวม 525 ที่นั่ง ซึ่งมากกว่าเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบันกว่าร้อยละ 40 อีกทั้งมอบความสะดวกสยานในการเดินทางให้แกผู้โดยสารในทุกระดับชั่นโดยสารอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากพื้นที่ โดยสารตลอดตัวเครื่องที่มีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก นับได้ว่า เอ 380 คือทางเลือกใหม่ที่ดีที่สุดในการเดินทางโดยอากาศยาน สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่มีผลต่อความปลอดภัยและศักยภาพทางการบิน เนื่องจากปลายปีกเครื่องบินส่วนที่เสียหาย ซึ่งถูกถอดออกก่อนที่จะทำการเดินทางต่อนั้น เป็นชิ้นส่วนสำหรับลดแรงต้านทานของเครื่องบิน ซึ่งจะช่วยในการประหยัดน้ำมันเท่านั้น โดยไม่มีผลกระทบต่อการบินครั้งต่อไปแต่อย่างใด และเดินทางถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่อย่างปลอดภัยข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1778 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 02 ก.ย. 50
เวลา 23:54:20
|