• ประมวลภาพ บูชาผางปะทีป ณ วัดพันเตา เชียงใหม่ (9 พ.ย.57) |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 09 พ.ย. 57 เวลา 22:45:41 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ขอบคุณภาพจาก Tum Suphakaln และ Paintingcollection Cnx
ผางประทีปเป็นภาชนะดินเผาวงกลมเล็ก ๆ คล้ายอ่าง รูปลักษณะแตกต่างกันตามฝีมือช่างแต่ละยุค
สมัย ใช้ส่าหรับใส่ขี้ผึ้งหรือน้ำมัน มีไส้เทียงวางไว้ตรงกลาง สามารถจุดไฟได้คล้ายตะเกียง เพื่อวางประดับ
ตามวัดวาอารามหรือศาสนสถานในวันส่าคัญทางพุทธศาสนาหรือในวันเทศกาลส่าคัญ ๆ ของท้องถิ่น
ส่าหรับภาคเหนือของประเทศไทยนั้นผางประทีปเป็นภาชนะที่ส่าคัญ โดยเฉพาะในประเพณีวัน
ลอยกระทงหรือประเพณีเดือนยี่เป็ง ซึ่งจะเริ่มมีขึ้นในวันที่ 14 ค่ำ เดือนยี่ มีการแสดงถึงความเชื่อที่เกี่ยวข้อง
กับผางประทีปโดยมีการเทศน์ธรรมของพระสงฆ์ในกัณฑ์ “อานิสงส์ผางประทีป” ในช่วงพลบค่า ซึ่งเป็น
การเทศน์ที่กล่าวถึงผลแห่งกุศลที่ได้จากการจุดประทีปบูชา หลังจากนั้นจะมีการจุดผางประทีปโคมไฟสว่าง
ไสว
โดยเฉพาะจุดหน้าพระประธานตามจ่านวนคาถาของกัณฑ์เทศน์ เช่น ทานกัณฑ์ ต้องจุดถึง 209 ดวง
เพราะมี 209 คาถา และกัณฑ์กุมารต้องจุดถึง 101 ดวง เพราะมี 101 คาถา เป็นต้น และในคืน 15 ค่ำ ชาวบ้าน
จะมีกาบกล้วยตัดเป็นท่อนส่าหรับวางผางประทีปแล้วจุดประทีปให้ลอยไปตามน้ำ โดยมีความเชื่อว่าการจุด
ประทีปโคมไฟเดือนยี่เป็งเป็นการบูชาพระรัตนตรัย ซึ่งก่อให้เกิดอานิสงส์และท่าให้ผิวพรรณสวยสดงดงาม
รวมทั้งเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด นอกจากนั้นยังเชื่อว่าเป็นพุทธบูชาอีกด้วย
ผางประทีปมีการผลิตกระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัดที่มีวัฒนธรรมประเพณีเดือนยี่เป็งหรือลอยกระทง
เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดล่าพูน จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงราย และจังหวัดสุโขทัย
ในเทศกาลยี่เป็งก็มีเรื่องเล่าตามคัมภีร์อานิสงส์ผางประทีปกล่าวถึงที่มาของผางประทีปว่าในอดีต
กาลมีแม่กาเผือกกำลังกกไข่อยู่บนต้นไม้ใกล้ฝั่งน้ำ ทันใดนั้นก็มีพายุใหญ่พัดมา รังกาก็กระจัดกระจาย ไข่กา
ทั้ง 5 ฟองก็ตกลงแม่น้ำแล้วไหลไปตามน้ำเชี่ยว แม่กาเผือกนั้นเมื่อเห็นลูกๆ พลัดพรายกันไปคนละทิศละ
ทางก็ออกตามหา แต่ก็ไม่พบ แม่กาเสียใจมากจึงตรอมใจตาย ได้ไปเกิดเป็นพกาพรหมอยู่บนสวรรค์
ส่วนไข่กาทั้ง 5 ฟองนั้น เมื่อไหลไปตามล่าน้ำก็มีแม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โค แลหญิงซักผ้าเก็บไป
เลี้ยง ไข่กาทั้ง 5 ฟอง เมื่อแตกออกก็กลายเป็นเด็กน้อย เมื่อทั้ง 5 เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มก็ได้ออกบวชไปอยู่ป่า
และได้มาเจอกันโดยบังเอิญ ก็ได้ไถ่ถามความเป็นมาของกันและกัน จึงรู้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นพี่น้องกัน ทั้ง 5
คนอยากจะท่าบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ให้ก่าเนิดตน แต่ด้วยความที่ไม่รู้จักแม่ของตน กุศลนั้นจึงไปไม่ถึง
ร้อนถึงท้าวพกาพรหมต้องลงมาพบ และเอาฝ้ายมันติดกันเป็นเกลียวแล้วดึงออก มีลักษณะเหมือนตีนกาแล้ว
บอกให้ลูกๆ ทั้ง 5 คนนั้น เอาไปใส่ผางน้ำมันแล้วจุดประทีปบูชา กุศลนั้นก็จะส่งถึง
ฝ่ายหนุ่มน้อยผู้เป็นลูกทั้ง 5 คนนั้นก็ได้บ่าเพ็ญบารมีจนได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ อัน
ได้แก่ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ พระโคตมะ และพระอริยเมตไตรย ตามชื่อแม่สัตว์ที่นำมาเลี้ยง
ที่มา http://lib.payap.ac.th/webin/ntic/web_NTIC_article_2554/content/content/pangpratip.pdf
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2477 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 09 พ.ย. 57
เวลา 22:45:41
|