กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สปสช. เผยกลุ่มวัยรุ่นเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยง และใช้ยาเสพติด ขณะที่ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านคน สปสช.ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท จับมือกรมประชาสัมพันธ์ รณรงค์ป้องกันด่วนนพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงมีการระบาดของเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนนี้มีกว่าครึ่งได้เสียชีวิตแล้ว อีกกว่า 500,000 คน ยังมีชีวิตอยู่ โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นผู้ป่วย และยังมีอาการหรืออยู่ในระหว่างได้รับยาต้านไวรัสมีจำนวน 100,000 คน ที่เหลืออีก 400,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการ แต่ก็รอเวลารับยาต้านไวรัสในอนาคต คาดว่าในแต่ละปี จะมีผู้ป่วยเอดส์ที่มีความจำเป็นต้องได้รับยาเพิ่มขึ้นปีละกว่า 20,000 ราย
“ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยสามารถชะลอการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ได้ดี จนได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก และสามารถจัดระบบบริการดูแลรักษาพยาบาล ทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสได้มากขึ้น แต่ขณะนี้เรายังคงมีความเสี่ยงของการมีอัตราเชื้อเอชไอวีรายใหม่เพิ่มขึ้น ในปี 2548 ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีถึง 17,000 คน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และการใช้ยาเสพติด” นพ.ประทีป กล่าว และว่าการให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร สร้างความตระหนัก และความเข้าใจในสังคมไทย จะช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อรายใหม่ได้ โดย สปสช. ได้ลงนามร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ ในโครงการเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันเอดส์ โดยดำเนินการให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ สร้างความตระหนัก และแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเอดส์ การป้องกัน รวมทั้งลดการแบ่งแยก และการรังเกียจผู้ติดเชื้อและครอบครัว และการสร้างเสริมทักษะและคุณภาพชีวิตเยาวชนเพื่อสุขภาวะทางเพศ และป้องกันโรคเอดส์ การใช้เครือข่ายวิทยุกระจายเสียงเป็นช่องทางรับฟังการตอบสนองต่อสื่อของกลุ่มเป้าหมายและประชาชนทั่วไป
นพ.ประทีป กล่าวอีกว่า หน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินงานบริหารจัดการภายใต้การกำกับของคณะอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการโรคเอดส์ ในงบประมาณ 30 ล้านบาท โครงการนี้จะช่วยลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลงครึ่งหนึ่งได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลได้เสนอต่อที่ประชุมสหประชาชาติ เมื่อเดือนกันยายน 2548 และหากดำเนินการบรรลุตามเป้าหมายดังกล่าวได้สำเร็จ ก็จะประหยัดงบประมาณที่จะต้องใช้สำหรับรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ 1,200 ล้านบาทต่อปีข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|