|
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ รับบท จ๊อก : ไอ้คนนี้แหละครับชื่อ “ จ๊อก” ชื่อจริงชื่อ “ มานะ” เป็น “ นักสืบบ้านเล็ก”… ที่จัดว่าหล่อเหลาเอาการ รับบทโดย คุณพี่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (เจ้าเก่าของแท้และดั้งเดิมพี่เอสเค้า)
จ๊อก เป็นนักสืบมือสมัครเล่นที่มีจุดขายอยู่ที่สิ่งประดิษฐ์สุดเพี้ยน ชอบประดิษฐ์โน่นนี่ และต้องทำออกมาให้ดูเว่อร์เข้าไว้ เป็นคนที่คิดอะไรชั้นเดียว แต่ถ้าคิดว่าสิ่งไหนเจ๋งแล้ว ก็จะลงมือทำทันทีเพราะจ็อกเป็นคนที่มั่นใจมาก มากซะจนไม่ว่าทำอะไรถึงแม้จะพลาดแค่ไหนก็สามารถถูไถไปต่อของมันได้ (เอากับมันสิ)
ซึ่งจะค่อนข้างต่างจากตัวตนจริงๆนิดหน่อย เพราะจริงๆเป็นคนไม่มั่นใจแรงเท่า “ จ๊อก” แต่จะว่าไปก็มั่นใจมาก กว่า “ ไข่ย้อย” นะ (พวกคุณรู้จักเค้ามะ) แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหาในการแสดง เพราะพี่เอสเค้าจะมีทิศทางว่าต้องการให้เป็น “ จ๊อก” ประมาณเบอร์ไหน แล้วซันนี่ถึงจะค่อยมาคิดคาแร็คเตอร์ต่อเอง ทุกซีนก็ต้องเน้นความเป็นจ๊อกตลอดเวลา ต้องมานั่งคิดว่าเล่นอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าเคยเล่นไว้ว่าจ๊อกเวลาคิดชอบเกาคาง ซีนต่อๆมาถ้าจ๊อกต้องคิดอีก ก็ต้องให้มีคาแร็คเตอร์เกาคางนี้ออกมาด้วย เพื่อให้เชื่อว่าเป็นคนๆเดียวกันจริงๆ
ก็คุณเอสนี่หล่ะที่เป็นผู้บงการ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เป็นผู้ที่อยากให้ซันนี่ผันตัวมาเป็นนักสืบเหลือเกิน แรกเริ่มเดิมทีซันนี่ก็บอกกับพี่เอสให้แคสคนอื่นๆก่อน เหมือนกับที่บอกกับคนอื่นๆ แต่คุณพี่เอสบอกว่าไม่อยากแคสแล้ว ซันนี่เลยตกลงปลงใจ เพราะคิดว่าถ้าเคยได้ร่วมงานกับใครแล้ว เค้ายังมั่นใจให้เราไปร่วมงานอีก เป็นการให้เกียรติมาก ก็เลยต้องให้เกียรติเค้ากลับ เลยใจง่ายตอบตกลงไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูบทเสียด้วยซ้ำ ทำนองว่า “ ถ้าพี่เชื่อ ผมก็เชื่อ” แมนทั้งคู่!
แต่แล้วความกลัว ความวิตกจริตก็มาปรากฏในหัวสมองของนายซันนี่คนนี้ ทันทีที่รู้ว่าต้องมีฉากถอดเสื้อ เหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว (เรียกว่ากลัวจนขี้ขึ้นสมองเลยทีเดียว) ลำพังท่อนล่างเหลือน้อยชิ้นยังไงก็สู้ แต่ท่อนบนนี่สิลำบาก บ่นอุบว่าไม่อยากให้ใครเห็นความทุเรศ เพราะไม่เคยถอดเสื้อให้ใครเห็น แต่นี่ต้องมาถอดเสื้อออกจอโรงใหญ่ขนาดนี้ ยัง ไงก็ใจไม่สู้ ก็คุยต่อรองกับพี่เอสอยู่นานพอควร สุดท้ายเลยต้องตัดใจ ไหนๆก็รับเล่นไปแล้วเลยต้องไปฟิตหุ่น พัฒนาตัวเองโดยการไปออกกำ ลังกาย ยกน้ำหนัก อาทิตย์ละ 3 วัน นานประมาณ 1 เดือน คือให้ดูน้ำหนักลด พุงลง ผลที่ออกมาก็ดีขึ้น(นิดหน่อย)
ฉากที่ต้องถอดเสื้อเล่นจึงเป็นฉากที่หนักสุดแล้วสำหรับซันนี่ ให้เล่นฉากดราม่า หรือ คอมมาดี้แค่ไหนก็ไม่หวั่นเท่าฉากนี้ ช่วงแรกๆที่ถอดอายมาก แต่พอต้องถอดทั้งวันชักเริ่มชิน จนบางทีเผลอคิดว่าใส่เสื้ออยู่ด้วยก็มี แต่ก็ย้ำพร้อมส่ายหน้าเพื่อคอนเฟิร์มสิ่งที่ตัวเองพูดไปด้วยว่า “ ยังไงก็ไม่เอาอีกแล้ว ไม่เอาเด็ดขาด ใส่เสื้อเล่นดีกว่าเป็นไหนๆ” (แววตามุ่งมั่นมาก ประหนึ่งชีวิตนี้จะไม่ยอมถอดเสื้อให้ใครเห็นอีกแล้วจริงๆ)
ส่วนฉากที่ต้องหลุดขำบ่อย ก็หนีไม่พ้นฉากที่มีแจ็คอยู่ด้วย เพราะทุกครั้งที่แจ็คเล่นจะชอบทำหน้าตาขำ ชอบทำหน้าเล่นใหญ่ แอ็คติ้งออกมาแล้วมันฮา เป็นคนอินกับเรื่องราวได้เก่ง ทำให้คนเชื่อ และชอบปล่อยมุขสดตลอด เช่นกำลังถ่ายๆอยู่ก็แกล้งเรอออกมาซะงั้น คิดดูสิ ? (อันนี้ขำจริง)
หรือฉากที่ต้องกุ๊กกิ๊กกับนางเอก คิดว่าพระเอกของเราจะเขินกับเค้ามั้ยครับ ? คำตอบคือมันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งซะอีก จะเหลือเหรอครับ ระดับซันนี่ซะอย่าง มันก็ต้องเขินแน่อยู่แล้วล่ะครับ 55 อย่างเวลาที่ต้องมองตากันนานๆ อะไรประมาณนี้ เป็นอันเสร็จซันนี่ เอ้ยซันนี่สิต้องเสร็จทุกที แต่ก็ต้องทำให้ได้ พระเอกเราเลยใช้เทคนิคคิดไปเลยว่าชอบเค้าจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้ามันจะเขินเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหา ปล่อยอารมณ์ออกไปตามนั้นได้เลยเพราะในเรื่องเราต้องชอบกันจริงๆอยู่แล้ว (ว้าว… ได้ฟิลจริงๆ)
แต่จะมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ซันนี่ชอบที่จะเข้าฉากด้วยกันมากเป็นพิเศษ ก็คือ “ โอปอล์” นั่นเอง เพราะอะไรนะเหรอครับ ก็เพราะเวลาเข้าฉากด้วยกันซันนี่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย โอปอล์จะเล่นอยู่คนเดียว คือไม่สามารถพูดโต้ตอบกันได้เพราะจะทับไลน์กัน และก็จะเทคเปล่าๆ ก็เธอเล่นพูดไม่เหมือนเดิมซักครั้งเดียว ทางออกของซันนี่คือนั่งยิ้มอย่างเดียว หรือถ้าหรูหน่อยก็แค่พูดอ๋อ เหรอ จ๊ะ ท้ายคำที่หล่อนพูดจบแค่นั้น
เอาเป็นว่าหลังจากเป็นนักสืบ จ๊อก มานาน 3 – 4 เดือน ถึงแม้ในเรื่องจะเป็นคอมมาดี้ขำๆ แต่ซันนี่ก็รู้ซึ้งถึงอาชีพนักสืบว่าเสี่ยงตายจริงๆ โดยเฉพะนักสืบบ้านเล็กเนี่ย ถ้าถูกจับได้อาจถูกยิงตายเลยก็ได้ คนที่ทำอาชีพนี้ได้ต้องเก่งจริงๆ คนอาจจะมองอาชีพนี้ไม่ดี แต่มันก็คืองานๆหนึ่ง เหมือนอีกหลายๆงาน ที่มีคนมาจ้าง เป็นเหมือนงานบริการคนอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ถ้าจำเป็นต้องตามสืบเรื่องแฟนหรือใครจริงๆคงเลือกที่จะตามเองดีกว่า เพราะอยากรู้ อยากเห็นด้วยตัวเองมากกว่า (คอนเฟิร์มว่าประโยคสุดท้ายนี้ น้ำเสียงหนักแน่นและเอาจริงเอาจังที่สุดเท่าที่ได้ยินมา ?! )
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์
เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม 2524 พี่น้อง 3 คน (มีพี่ชาย 1 คน พี่สาว 1 คน)
การศึกษา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา
น้ำหนัก 65 กิโลกรัม ส่วนสูง 179 เซนติเมตร
เริ่มเข้าวงการ ตุลาคม 2548
ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง “ เพื่อนสนิท”
มิวสิควีดีโอ Big Ass เพลง “ คนไม่เอาถ่าน” และ “ คนหลงทาง” Jetset’er เพลง “ จูบ” ลูกปัด เพลง “ ใจนักเลง”
ภาพยนตร์โฆษณา ฮานามิ, TCB ทูน่า Spread , เบียร์สิงห์, KTC I –CASH , AIS Mobile Life
งานอดิเรก เล่นดนตรี ร้านแจ่มบาร์
<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>>>
ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ รับบท น้ำปั่น : “ พีค” สวยต้องใจ “ เอส” ผู้กำกับ
เธอคนนี้แหละครับ “ น้ำปั่น” ใช่ครับนี่ล่ะชื่อของเธอ แค่ฟังชื่อก็เสียวฟัน จนจี๊ดขึ้นสมองแล้วใช่มะ ! ไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นที่จี๊ด แต่หน้าตาของเธอยังโดนใจทั้งป๋า และบรรดาเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่อีกเพียบ
ถูกต้องแล้วคร้าบ … เธอคือ “ บ้านเล็ก” นั่นเอง รับบทโดย พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ
กรี๊ด … กรี๊ด… กรี๊ด… เสียงกรี๊ดสูงและแหลมมาก (ย้ำว่าแหลมมาก) ดังอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ทันทีที่ทีมงานโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวว่าพีคแคสผ่านได้เล่นหนังสายลับจับบ้านเล็ก จะว่าไปเสียงกรี๊ดก็ดังอยู่นานพอควร แบบไม่ห่วงสุขภาพหูของปลายสายเลยว่า ประสาทหูจะถูกกระทบกระเทือนเพียงใด ขณะนั้นพีคนั่งอยู่บนรถซึ่งติดไฟแดง คิดสภาพว่ารถข้างๆจะตกใจเพียงใดที่เห็นสาวร่างเล็กร้องกรี๊ดๆๆอยู่ในรถ นี่ถ้าลดกระจกลงได้ เสียงคงดังไปถึงไฟแดงหน้าแน่ !
เพราะความฝันของสาวคนนี้ตั้งแต่เด็กคือการได้เป็นนักแสดง พอมีโอกาสได้ทำมันก็เหมือนทำความฝันสำเร็จแล้ว มันเป็นเรื่องที่วิเศษมากสำหรับเธอคนนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการคุยโทรศัพท์ในวันนั้น เธอบอกว่า “ จากชีวิตพีคที่เคยสดใสมาอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่ามันพุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีก มันพีคสมชื่อจริงๆ”
“ อาทิตย์นึงรู้ผล” เสียงทีมงานบอกกับเธอหลังจากที่เธอแคสรอบสุดท้ายเสร็จ แล้วเวลาก็ผ่านล่วงเลยมานานประ มาณเกือบเดือนก็ยังไร้วี่แวว เธอเลยคิดว่าคงไม่ได้แล้ว แต่เธอก็ไม่เสียใจเพราะวันนั้นเธอตั้งใจทำเต็มที่แล้วจริงๆ คิดซะว่าเป็นดวง แต่แค่เสียดายที่ไม่ได้ร่วมงานกับพี่เอสเพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ก็รู้สึกความต้องการในร่างกายมันพุ่งปรี๊ดอยากร่วม งานกับพี่เอสทันที และรู้สึกถูกใจกับบทน้ำปั่น รู้สึกชอบตั้งแต่ชื่อแล้ว รู้สึกว่าน้ำปั่นมีอะไรให้เล่นได้เยอะ
แต่แล้วโชคชะตาก็นำเธอมาให้เล่นเป็นน้ำปั่น บทที่เธอบอกว่าถ้าได้เล่นแล้วคงมีความสุขมาก น้ำปั่นเป็นสาวเซ็กซี่ที่น่าค้นหา น่าชวนมอง มีจุดมุ่งหมาย มีความมุ่งมั่นในบางสิ่งมากจนไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ถูก จะว่าไปพีคและน้ำปั่นค่อนข้างต่างกันมากเหมือนกัน เพราะน้ำปั่นเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ในแววตาและใบหน้าเหมือนคิดอะ ไรอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวตนจริงๆของสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เปิดเผยและสดใสมาก รวมทั้งต้องเล่นสาวขึ้นกว่าตัวจริงอีก 5-6 ปี การพูดการจา บุคลิกเลยต้องค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ขึ้น โทนเสียงต้องต่ำลงเพราะพีคเป็นคนเสียงสูงมาก เลยต้องปรับทั้งบุคลิกและแอ็คติ้งทุกอย่าง พูดง่ายๆ ต้องลดความเป็นพีคลง20 % ถึงจะได้น้ำปั่นมา
ทั้งๆที่พีคและน้ำปั่นค่อนข้างแตกต่างกัน แต่พีคกลับบอกว่า ไม่รู้สึกขัดอะไรตอนเล่นเลย แต่กลับรู้สึกว่าตอนเล่นพีคคือน้ำปั่น และน้ำปั่นคือพีค ไม่ต้องตามหาว่าน้ำปั่นเป็นยังไง แต่เวลาเล่นความเป็นน้ำปั่นมันจะออกมาเองถ้าเราเข้าใจในตัวน้ำปั่นอย่างถ่องแท้
อีก 1 เดือนเต็มที่เธอจะต้องเวิร์คช็อพก่อนถ่ายทำจริง เหมือนเริ่มจากศูนย์ ต้องเวิร์คช็อพทั้งเรื่องของการแสดง เรื่องของเสียง การหัดขับรถ การร้องเพลง และการเต้น หลายอย่างมากที่เธอต้องฝึก อย่างเรื่องของเสียงเธอต้องฝึกการออกเสียงให้ออกมาจากข้างใน ฝึกการโปรเจคเสียง ต้องฝึกพูดโทนเสียงให้ทุ้มลงเพราะเสียงจริงของพีคแหลมและสูงมาก มาถึงการฝึกขับรถ ที่ถึงวันนี้เธอก็ยังขับไม่เป็น เธอถูกส่งไปเรียนแต่ไม่ทันจบคอร์สดี เพราะต้องการแค่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน และวิธีการขับเป็นอย่างไรพอให้แอ็คติ้งได้เท่านั้น
ส่วนเรื่องของการร้องเพลงและการเต้นนั้นเป็นสองสิ่งที่ไม่ถูกโฉลกกับสาวพีคเอาเสียเลย เพราะเธอทั้งร้องเพี้ยน และเต้นไม่เข้าจังหวะอีกต่างหาก นี่ถ้าไปประกวดเวที AF คงได้คะแนนโหวตจากความตั้งใจและเต็มร้อย แต่คงถูกคอมเม้นเตเตอร์วิจารณ์จนน่วมแน่ เลยต้องจับมาสอน จัดท่าจัดทางให้ถูกสเต็ป เป็นบ้านเล็กทั้งที ต้องเต้นให้ดูสวย จะเต้นตามใจฉัน หรือเต้นง้องแง้งคงไม่ได้แน่
และทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากถ่ายทำกันมานาน ตามประสาผู้หญิงคงมีเรื่องให้เม้าท์ถึงนักแสดงคนอื่นๆเพียบเป็นแน่ (ถามเป็นการหยั่งเชิง)แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ สาวน้อยคนนี้พรั่งพรูออกมาชนิดคิดตามไม่ทันเลยที เดียว เริ่มตั้งแต่คุณพี่ซันนี่ ที่ตอนแรกๆจะดูมีฟอร์ม ดูติสท์ๆหน่อย แต่พอรู้จักกันไปก็กลับกลายเป็นคนช่างพูด แต่ที่สำคัญหนุ่มติสท์คนนี้นี่แหละที่ช่วยส่งบท ส่งอารมณ์ และให้กำลังใจเธอจนหายเครียดได้ และที่สำคัญที่พีคได้เรียนรู้จากผู้ชายคนนี้ก็คือ ความเป็นธรรมชาติในการแสดงของเค้านั่นเอง
รวมถึงพี่เอสที่เคยได้พูดชมสาวพีค จนเธอเก็บเอาคำชมนั้นมาเป็นกำลังใจสำคัญ คำพูดนั้นคือ “ ต่อไปพีคจะเป็นนักแสดงที่ดีได้” เธอบอกว่าดีใจมากเพราะสิ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่เธอต้องการ “ การเป็นนักแสดงที่ดี”
ส่วนแจ็ค เธอบอกว่าเป็นคนที่ฮาทั้งนอกกอง และในกอง เรียกว่าฮามาจากสายเลือด เวลาเข้าฉากด้วยกันจะยากมากเพราะจะหลุดขำตลอด แต่ก็ทำให้กองสนุกมาก มาถึงสาวโอปอล์ที่เธอชมไม่ขาดปากว่า เป็นคนที่แสดงได้ชัดมาก คือความเป็นคอมมาดี้เหมือนเป็นทางของพี่เค้าเลย ทุกครั้งที่ดูพี่โอปอล์แสดงแล้วดูมันเหมือนง่ายมากทุกครั้ง
ใครจะรู้บ้างว่าตลอดการถ่ายทำในบทบาทการเป็นบ้านเล็กของเธอ เธอจะแอบอยากเป็นนักสืบกับเค้าบ้างเหมือนกัน แต่หารู้ไม่ว่าในชีวิตจริงเธอเคยผ่านการเป็นนักสืบตัวน้อย ในการหาหัวขโมยในโรงเรียน ทั้งสังเกตพฤติกรรม สอบถามข้อมูล จนหาตัวคนร้ายเจอแล้วซะด้วย และในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าหมายของใครบางคน มาแล้วนานถึง 5 เดือนด้วยกัน ถึงขนาดตามมาหาถึงที่บ้าน ดักคอยที่เรียนพิเศษ เพื่อให้ได้เจอแบบประชิดตัวเลยก็มี แต่เธอก็ผ่านพ้นมันมาได้ จนตอนนี้ก็ลงท้ายด้วยความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรียกว่าจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง กู้ดฟิลลิ่งกันถ้วนหน้า
พีค- ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ
เกิดวันที่ 18 ตุ.ค. 2531 พี่น้อง 2 คน (มีพี่ชาย)
การศึกษา ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
น้ำหนัก 42 กิโลกรัม ส่วนสูง 162 เซนติเมตร
เริ่มเข้าวงการ เดือนมิถุนายน 2548
ผลงานที่ผ่านมา -ถ่ายโฆษณา DTAC – ซิมเฮฮา, ขนมเวเฟอร์ DELFITOP ฯลฯ
-ถ่ายมิวสิควีดีโอ ของ แอน-ธิติมา ประทุมทิพย์ เพลง “ เลือกเป็นคนที่รักเธอ” , “ ไม่คิดเสียใจ”
วงแพนเค้ก เพลง “ ก๋วยเตี๋ยวหน้าใสกับใจโทรมๆ” , “ ใจเย็น”
วง HRU เพลง “ ดาวมหาลัย”
อาร์ The Star เพลง “ หน้าตาดีไม่มีแฟน”
-ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร BUZZ , ICE , KNOCK KNOCK , MARS , CHEEZE , CAMPUS และ U - LIFE
-ละคร เรื่อง “ เพื่อนรักเพื่อนร้าย ”
<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>>>
แก๊งค์นักสืบ
โอปอลล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ รับบท ฤทัย ฤทัย : ผู้ช่วยสืบ 2 เจ๊ร้านคาราโอเกะ ที่คิดว่าตัวเองสวย เซ็กส์ เอ็กซ์ เชฟบ๊ะ ผู้ชอบแทะโลมจ๊อกทุกครั้งที่มีโอกาส และยอมพลีทุกอย่างเพื่อเค้า
โอปอล์ เผยว่า “ โอปอล์ดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่เอสและซันนี่อีกครั้งหลังจากหนังเพื่อนสนิท ที่พวกเราสนิทกันมาก ตอนนั้นบอกพี่เอสว่าถ้ามีหนังเรื่องใหม่อย่าลืมพวกเรานะ แล้วพอพี่เอสได้ทำหนังเรื่องใหม่ ก็มีบทติดต่อมาให้โอปอล์เล่นทันที เป็นบทฤทัย ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่ตัวละครอายุเท่าปอล์จริงๆ เพราะทุกเรื่องที่ผ่านมาบทที่ได้ในเรื่องจะแก่กว่าเราตลอด และเรื่องนี้ยังได้เล่นกับแจ็ค-แฟนฉัน ซึ่งพอได้ร่วมงานกันสนุกมาก แจ็คเป็นเด็กที่ตั้งใจทำงานมากๆ บางวันมากองถ่ายเราก็อยากมีอารมณ์ชิวๆ แต่พอเจอความตั้งใจของแจ็คที่ทุ่มเทกับงานมาก มันทำให้เราต้องแอ็คทีฟ เต็มที่ไปด้วย และซันนี่กับแจ็คจะชอบมากดดันปอล์ เวลาปอล์เข้าฉากก็จะมานั่งไขว่ห้างอยู่หน้าจอมอนิเตอร์แล้วบอกว่าทำให้ดีนะ เพราะแจ็คเล่นแล้วได้มุกไป 1 ดอก ส่วนซันนี่ก็รอดตัว เหลือแต่เราก็เลยกดดัน แต่พอตอนหลังเราเลิกกดดันกันเอง หันมาเล่นกันเป็นทีมเวิร์ค คือทั้ง 3 คนช่วยกันให้แต่ละซีนผ่านพ้นไปได้ เป็นกองถ่ายที่สนุกมาก ปกติคนเราย่อมมีเหนื่อยบางวันไม่อยากตื่นมาทำงาน แต่หนังเรื่องนี้ปอล์อยากตื่นมาทำงานทุกวัน เป็นหนังอีกเรื่องที่ปอล์ชอบมากค่ะ”
|
เฉลิมพล ทิฑัมพรธีรวงศ์ รับบท แจ็ค ผู้ช่วยสืบ 1 เด็กร้านซ่อมมอ ’ ไซด์ ขาฮิพฮอพของจริ ง ผู้มีใจรักการสืบจนขึ้นสมอง โย่! |
|
สุทิน : นักสืบมืออาชีพ โดย นิมิตร ลักษมีพงศ์ นักสืบสายโฉด หน้าโหด ใจเหี้ยม แต่กลับแพ้ทาง เจ้าหมา 4 ขา ที่แค่ขนร่วง เล็บหลุด หรือตดเสียงดังก็ แทบใจจะขาดเสียทุกครั้ง |
|
เจมส์บอนด์ : ผู้ช่วยสืบ 3 โดย ริชาร์ด หมาน้อยร่างเล็ก หน้าบ๊องแบ็วไร้เดียงสา แต่ฉลาดโคตร !!!
|
|
ปิ๊ง (กลาง) หัวหน้าแก็งค์ทวงหนี้ โดย ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม อาตี๋หน้าหยก ลูกพี่ใหญ่แก็งค์ทวงหนี้ ดีกรีโหดคับซอย ร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครกล้าหือ ! (รึเปล่า ? )
ต่อ (ขวา): ลูกน้องแก็งค์ทวงหนี้ โดย ต่อ สมุนมือขวา บ้า ทะลุเดือด มาพร้อมชุดเก่งสีเจ็บปวด แรงไม่แพ้ลีลาบู๊ ทั้งเตะและต่อย พลิ้วไหว ซะ … บรู๊ซลี ยังอาย
ตี๊ (ซ้าย): ลูกน้องแก็งค์ทวงหนี้ โดย ตี๊ สมุนมือซ้ายใจซื่อ ของแท้ต้องชุดซาฟารีมีหัวบาก โชว์โหดทีไร เจ็บตัวฟรีทุกที
|
ทีมบ้านใหญ่ และเสี่ยใหญ่
|
เสาวภา : บ้านใหญ่ 1 โดย จิ๊บ จารุภัส ปัทมศิริ คุณนายไฮโซที่หวังทำสวย ให้ผัวรักผัวหลง แต่ดันผิดคาด เลยหันมาเอาดีใช้บริการจ้างนักสืบ เพื่อตามล่าผัวตัวดีกับนังชะนีน้อยซะเลย !
วศิน : สามีบ้านใหญ่ 1 โดย ปั๋ง ปะกาศิต โบสุวรรณ นายตำรวจใหญ่มาดเข้ม เร่งสร้างความดีสะสมแต้มให้เมียรัก เพื่อกรุยทางสว่าง เปิดทางสะดวก ดอดไปหาบ้านเล็ก หารู้ไม่ ยิ่งทำดี เมียยิ่งระแวง
|
|
สุวิมล : บ้านใหญ่ 2 โดย ดารณีนุช โพธิปิติ เจ้าแม่มาเฟียขาใหญ่จอมตืด กัดฟันทุ่มเงินกับนักสืบชั้นเซียน หวังได้ภาพสามีกกกับอีหนู เพื่อฟ้องหย่าเอาเงินก้อนโต
อดิสรณ์ : สามีบ้านใหญ่ 2 โดย สุเมธ องอาจ อาเสี่ยใจถึง อีกหนึ่งผู้มีอุปการคุณ ที่หวังจะได้ถึงใจกับบ้านเล็ก ชนิดช้างมาหยุดก็ฉุดไม่อยู่
|
++++++++++++++++++
จีทีเอช จัดงานเปิดตัว “ สายลับจับบ้านเล็ก” สุดฮิป
ซันนี่ ควง พีค เล่นละครเวที แจ็ค-โอปอล์ ปล่อยมุขสุดฮา
จีทีเอช จัดงานเปิดตัวหนัง โรแมนติก-คอมเมอดี้ “ สายลับจับบ้านเล็ก” ค่าย จีทีเอช แบบสุดฮิป ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 ตึก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ควงนางเอกน้องใหม่ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ พร้อมด้วยแก๊งนักสืบ แจ็ค-เฉลิมพล, โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ และ ริชาร์ด สุนัขชื่อดัง ร่วมเล่นละครเวทีเพื่อเปิดตัวคาแร็กเตอร์ จ๊อก นักสืบจับบ้านเล็ก และแก๊งนักสืบสุดฮา ที่ออกมาโชว์ลีลา เรียกเสียงปรบมือได้ดังสนั่น ขนาดพิธีกร เชาเชา จากคลื่น 94 EFM. ยังอดขำกับมุขของ แจ็ค กับ ซันนี่ ที่ออกมาโชว์ลีลานักสืบสุดฮา แถมยังเห็นลุค พีค นางเอกใส่ชุดนอน โชว์ลีลาเซ็กซี่ จนได้ใจหนุ่มๆ ในงานไปได้โขเลยทีเดียว ขนาดช่างภาพยังรัวภาพแบบมือสั่นกันเป็นแถว
ส่วนหนุ่มซันนี่ ปลอมตัวเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์เกาหลี “ เรน” โชว์ลีลาเต้นส่ายสะโพก ยั่วสาวๆ แถมเปิดพุงโชว์กล้ามได้เสียวจี๊ดถึงใจ สาวน้อย สาวใหญ่ รวมถึงหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ที่มาในงานกันเพียบ โอปอล์ งานนี้สวมวิก ใส่ชุดเหมือนปาล์มมี่ ออกมาเรียกเสียงฮากับคนดู พร้อม แจ็ค แฟนฉัน
เซอร์ไพร์สสุดๆ งานนี้ เมื่อพระเอกมาดเซอร์ ซันนี่ ยอมจับไมค์ถ่าย MV เพลง “ คนของเธอ” ประกอบหนังสายลับจับบ้านเล็ก ด้วยเสียงแหบเสน่ห์สไตล์ซันนี่ ทำให้ได้เสียงปรบมืออย่างกึกก้อง งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ ผู้กำกับคู่บุญ เอส-คมกฤษ ตรีวิมล เพราะถ้าไม่ใช่เอส ซันนี่ คงไม่ยอมจับไมค์ร้องเพลงอย่างแน่นอน
ปิดท้ายความประทับใจ ผู้บริหาร จีทีเอช วิสูตร พูลวรลักษณ์, จินา โอสถศิลป์, จิระ มะลิกุล พร้อมด้วยผู้กำกับ นักแสดง เอส-คมกฤษ , ซันนี่, พีค-ภัทรศยา, โอปอล์, แจ็ค ฯลฯ ร่วม ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
|