ข่าวจากเฟส
ดอยสะเก็ด เพชรแห่งล้านนา
ภาพจาก เนชั่น
ปิดตำนาน
คุณยายสิลา อุปติพงษ์ ๙๖ ปี เศรษฐินีใจบุญแห่งนครเชียงใหม่ ทุ่มเงินสร้างวัด กุฏิพระ ศาลาสวดศพหลายวัด จนหมดตัว ได้รับการอุปการะจากวัดเจดีย์หลวง วานนี้สิ้นบุญแล้ว ศพตั้งที่ศาลาอุปติพงษ์ ภายในวัด ทุกคืนมีสวดอภิธรรม ๑ ทุ่ม และ ๑ ก.ค.บ่ายโมงเคลื่อนไปสุสานประตูหายยา
หลังจากเป็นข่าวดังในปี 2554 เมื่อนางสิลา อุปติพงษ์ หรือคุณยายสิลา อายุ 92 ปีในขณะนั้น อาศัยอยู่ในกุฏิหลังวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมื
องเชียงใหม่ล้มป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ รอบกุฏิมีสุนัขร่วม 20 ตัวที่คุณยายเลี้ยงไว้เห่ากระโชกอยู่ 3 วัน พระราชเจติยาจารย์ เจ้าอาวาสจึงให้พระเณรเข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล มีอาการดีขึ้นได้กลับมาวัด ทางวัดจัดที่พักให้ใหม่ติดแอร์อย่างดี อยู่หลังศาลาบำเพ็ญกุศลศพบุญประสงค์ติดกับศาลา “สิลา อุปติพงษ์” ที่คุณยายสร้างถวายวัดไว้เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ซึ่งระหว่างนั้นมีคนที่ทราบข่าวด้วยความสงสารได้นำเงิน และสิ่งของไปช่วยเหลือจำนวน
มาก รวมทั้ง น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และทีมบริหารเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยจัดสวัสดิการผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเงินช่วยสงเคราะห์ให้นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2558 เวลา 15.20 น. พระครูปลัดสุวัฒนเมตตาคุณ เลขานุการรองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) และเลขาคณะสงฆ์วัดเจดีย์หลวง แจ้งว่าคุณยายสิลา อุปติพงษ์ ได้สิ้นใจลงด้วยอาการสงบด้วยโรคชราในห้องพักด้านหลังศาลาสิลา อุปติพงษ์นั่นเอง รวมอายุได้ 96 ปี ทางวัดโดยพระราชเจติยาจารย์ ได้ระดมพระภิกษุสามเณร และศรัทธาชาวบ้านที่ทราบมาร
่วมจัดตั้งศพในศาลา และสวดอภิธรรมคืนแรกค่ำวันเดียวกัน ทั้งนี้จะมีการบำเพ็ญกุศลศพจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน และวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสามเณร เวลา 12.00 น.เคลื่อนศพสู่สุสานประตูหายยา เวลา 13.30 น.ประชุมเพลิง ผู้จะร่วมบุญวาระสุดท้ายคุณยายสิลา สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานวัดฯ 089-9999380
สำหรับประวัติของนางสิลา อุปติพงษ์ ซึ่งพระครูโสภณกวีวัฒน์ ผช.เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงได้บันทึกไว้ ระบุว่า นางสิลา เกิดปี พ.ศ.2462 เดิมชื่อ สิลา มัยโชติ บิดาชื่อ ร.ต.อ.ทองดี มารดานางบัวนำ บ้านเดิมอยู่ถนนเจริญประเทศ เรียน ร.ร.พระหฤทัยไม่จบออกมาค้าข
าย แต่งงานเป็นภรรยาคนที่สองกับขุนอุปติพงษ์พิพัฒน์ หรือนายศาสตร์ อุปติพงษ์ คหบดีชาวกรุงเทพฯ มาทำธุรกิจโรงพิมพ์อุปติพงษ์ สร้างโรงภาพยนตร์ยุคต้น ๆ ของเมืองเชียงใหม่ชื่อศรีเวียง กับทำหนังสือพิมพ์ชื่อดัดจริต เมื่อสามีถึงแก่กรรมลง ยายสิลาตั้งจิตอธิษฐานหากได้รับมรดกจะทำบุญอุทิศให้สามี ต่อมาจึงได้ขายโรงภาพยนตร์ให้นางลัดดา พันธาภา เจ้าของลัดดาแลนด์ 4 ล้านบาท นำไม้สักทองถวายเป็นกุฏิวัดแสนฝาง พร้อมถวายเงินอีก 50,000 บาทก่อสร้าง กับขายโรงพิมพ์ให้ ร.ร.เมตตาศึกษา และ ร.ร.ขายต่อให้ ส.ทรัพย์การพิมพ์นำเงินเข้ามูลนิธิเมตตาศึกษา
จากนั้นได้ทำการสงเคราะห์สังคม และบำรุงพระพุทธศาสนาหลายวัด เช่นสมทบสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลา กุฏิ รวมทั้งที่วัดเจดีย์หลวงสร้างศาลาบำเพ็ญกุศลชื่อ สิลา อุปติพงษ์ ในปี 2512 บูรณะพระวิหารหลวง และสร้างกุฏิไม้ถวายวัดอีก 2 หลังปัจจุบันรื้อลงและสร้างอาคารพระพุทธพจนวราภรณ์ขึ้นมาแทน พระครูโสภณกวีวัฒน์ กล่าวว่า ได้สมัยก่อนชาวเชียงใหม่เรียกว่า “คุณนายสิลา” เป็นคนรูปร่างเล็ก สวมแหวนเพชร ตุ้มหูเพชร สวมผ้าไหม เกล้าผมสีทอง ปิ่นปักผมเป็นทองคำ ไปไหนมาไหนมีคนกางร่ม และขับรถยนต์ให้ เป็นคนใจบุญสุนทาน ชอบสงเคราะห์คน และรักสัตว์โดยเฉพาะสุนัข พอปี 2529-2530 ตกที่นั่งลำบากทรัพย์สินได้บริจาคทำบุญจนหมดได้มาขอพึ่งพาวัดเจดีย์หลวง พระธรรมดิลก (ขันธ์ ขันติโก) เจ้าอาวาส จึงสร้างกุฏิไว้หลังวัด และตั้งเงินเดือนให้ตามสมควร จนกระทั่งมาล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์เมื่อปี 2554 และ 4 ปีให้หลังก็ถึงแก่กรมลงในที่สุด.
Cr:บุญฤิทธิ์ ตุลาพันพงศ์