... ในเย็นวันนั้นเอง หลังจาก "ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี" หลังจากท่านสูตรทำวัตรเสร็จ พระมหาหนุ่ม จึงขอเข้าไปสนนาธรรมด้วยท่านครูบาบนโฮงหลวง แต่ความที่ถือตนว่าจบเปรียญธรรม ๙ ประโยค(แตกฉานในบาลี) จึงเกิดความประมาทในพระเฒ่าผู้ห่มขาว ที่ไม่จบแม้ ป.๔ พระมหารูปนั้นได้ท้าให้ครูบาแก้ปัญหาธัมม์ ๒ ข้อ ซึ่งผู้ที่จะตอบได้จะต้องเป็นศึกษาพระไตรปิฏกมาเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น .. จึงได้ปุจฉาขึ้นว่า
๑. #แผ่นดินหนาเท่าไหร่ ??
๒. #ฟ้าสูงเท่าไหร่ ??
... เมื่อ "ครูบา" ท่านรับวิสัจฉนา แล้วจึงอ้างพระไตรปิฏกมาตอบไปทันทีว่า
(๑.) ทุเว สตสหสฺสานิ จตฺตาริ นหุตานิ จ
เอตฺตกํ พหลตฺเตน สํขาตายํ พสุนฺธรา
#แผ่นดินนี้วัดโดยส่วนหนา
คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยจนะ(โยชน์)
(๒.) นว สตสหตฺสานิ มาลุโต นภมุคฺคโต
สฏฺฐิญฺเจว สหตฺสานิ เอสา โลกสฺส สณฺฐิติ
#ลมขึ้นสู่ท้องนภา
ถึง ๙๖๐,๐๐๐ โยจนะ(โยชน์)
... เมื่อได้ยินคำตอบดังนี้แล้ว พระมหาหนุ่ม เปรียญ ๙ ก็ถึงกับอึ้ง แต่ในขณะเดียวกัน "ครูบาอภิชัยขาวปี" ท่านจึงพูดขึ้นว่า ท่านมหาถามเรามา ๒ ข้อ งั้นเราก็จะขอถามคืนท่านมหาคืน ๒ ข้อ แล้วท่านครูบาก็ตั้งปุจฉาขึ้นว่า .. บนโลกนี้ !!
(๑.) #ในป่ามีไม้ทั้งหมดมีกี่อย่าง ??
(๒.) #ในน้ำมีปลาทั้งหมดมีกี่อย่าง ??
... เมื่อได้รับฟังอย่างนี้แล้ว พระมหา ปธ.๙ ก็ได้นิ่งคิดอยู่นานพอควร จนเวลาล่วงเข้ายามดึก "ครูบาฯ" เลยบอกว่า #เราขอตัวไปเตียวโจ๋มโขม(จงกรม)ก่อนนะ ขอนิมนต์ท่านมหาไปจำวัดได้ละ ส่วนเรื่องคำตอบนั้น เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาตอบก็ได้ จนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่หลังจากครูบาท่านฉันท์จังหันเช้าและสูตรตอบคุณข้าวศรัทธาเสร็จ พระมหาหนุ่ม ปธ. ๙ ก็ขึ้นไปหาครูบาบนโฮงหลวงอีกรอบ แล้วบอกไปตามจริงว่าที่ครูบาตั้งปุจฉาถามมานั้น กระผมนอนคิดทั้งคืน แต่ก็สุดจะหาคำตอบมาให้ได้
... ครูบาจึงแก้ปัญหาทั้ง ๒ ข้อ .. ให้ดังนี้
(๑.) ในป่า_มีไม้ทั้งหมด อยู่ ๒ อย่าง
คือ #ไม้กลวง กับ #ไม้ตัน
(๒.) ในน้ำ_มีปลาทั้งหมด อยู่ ๒ อย่าง
คือ #ปลาเกล็ด กับ #ปลาหนัง
... จากนั้น "ครูบาอภิชัยขาวปี" ก็ได้กล่าวต่ออีกว่า คำถามนี้ก็ออกใน #พระอภิธรรมปิฏก ที่ท่านเคยเอามาถามเรานั่นแหละ เป็นถึง "พระมหาฯ" ทำไมไม่หมั่นแปลหมั่นอ่านพระไตรปิฏกดูให้มากๆ จนสุดท้ายพระมหาหนุ่ม ปธ. ๙ จึงได้กราบครูบา ๓ ครั้ง แล้วกล่าวคำขอขมา ที่ได้คิดล่วงเกินและดูแควน ทั้งที่ทีแรกไม่เคยกราบเพราะเห็นว่าห่มผ้าสีขาวและแม้แต่ ป.๔ ก็เรียนไม่จบ จะรู้ธรรมและเจนพระไตรปิฏกได้อย่างไร และหลังจากนี้ไปตนจะตั้งใจหมั่นศึกษาพระไตรปิฏกให้มากขึ้น จะไม่ทนงตนจะละทิ้งความเป็นอัตตาให้น้อยลง แล้วจึงกราบลาครูบา เพื่อกลับไปยังวัดอุโมงค์ตามเดิม
... สมดั่งคำที่ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย" ได้เคยนิยาม "ครูบาเจ้าขาวปี" ว่า #ตุ๊ปี๋_เฮียนหน้อยฮู้นัก
: #ปล. ข้าพเจ้า "พระไจยยะลังก๋าภิกขุ" ได้ก๊อนไก๊มาจากอุบาสกเฒ่า(ไม่รู้หนังสือ) บ้านดงสักงาม(ผาหนาม) อ.ลี้ จ.ลำพูน ผู้ซึ่งเคยอุปฐากครูบาและอยู่ในเหตุการณ์นี้ หากว่าบทความนี้ได้พิมพ์ผิดพลาดหรืออาจเลือกใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ก็ต้องขอกราบอภัย .. มา ณ ที่นี้ด้วย สาธุๆ
แสดงโฆษณา