กระชากคอเสื้อขาด เหยื่อโต้แทงจริงตาย ‘ชอปเปอร์’บอยคอต
ชมรมชอปเปอร์เชียงใหม่ ประกาศบอยคอต “เต๋า-สมชาย” ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรม แต่ยันไม่มีล้างแค้นเอาคืนส่วนนักร้องดังโต้ทันควัน เมินไม่สนถูกบอยคอต ตอกกลับเจ็บ “รถก็รถผมน้ำมันก็เติมเองไม่ได้ไปขอเงินใครเติม" พร้อมจะเปิดบ้านแถลงข่าวซ้ำ ด้านคดีบานปลาย ทนายความ "ช่างซ่อมมือถือ" เตรียมแจ้งข้อหานักร้องดังเพิ่ม ขณะที่ตำรวจจี้ขอเทปวงจรปิดจากเทศบาลพิสูจน์ใครถูกใครผิด หลังเรียกสอบพยานทั้ง 2 ฝ่ายแล้วกว่า 10 ปาก แต่ยังสรุปไม่ได้ พี่สาวคู่กรณีแฉโดนนักร้องดัง กระชากคอเสื้อขาดจนบาดเจ็บที่แขน และคอ
คดีนายเฉลิมชัย แสงสุวรรณ อายุ 24 ปี หนุ่มช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ขึ้นโรงพักแจ้งจับ "เต๋า-สมชาย เข็มกลัด" พระเอก-นักร้องชื่อดัง พร้อมพวก
ฐานรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายเชียงใหม่-หางดง ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อกลางดึกวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากนักร้องหนุ่มไม่พอใจที่บีบแตรรถใส่ ขณะรถยนต์จอดติดไฟแดงต่อท้ายรถชอปเปอร์ของนักร้องชื่อดัง ขณะที่ เต๋า-สมชาย หลังทราบเรื่องถูกแจ้งความจับ ได้ควงทนาย ความขึ้นโรงพักแจ้งความกลับคู่กรณีทันทีในข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า พร้อมออกโรงโต้อ้างว่าถูกคู่กรณีบีบแตรไล่และชูนิ้วให้ "ของลับ" หยามศักดิ์ศรีกัน จึงลงจากรถไปเคลียร์ดี ๆ แต่กลับถูกคู่กรณีชักปืนออกมาขู่ จึงต่อสู้แย่งปืนจนสำเร็จ แต่ยังถูกชักมีดจ้วงแทงจนต้องปัดป้อง และพลาดท่าถูกมีดบาดที่นิ้วเลือดสาด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
|
|
|
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ย.
พ.ต.ต.วิสูตร วงศ์ใหญ่ สวส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าของคดี เรียกตัวนายเฉลิมชัย และน.ส.บุศรา อินต๊ะปัญญา อายุ 35 ปี ซึ่งนายเฉลิมชัยนับถือเป็นพี่สาว และเป็นคนขับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ในวันเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยทั้งคู่ยังให้การตรงกันเหมือนเดิม นายเฉลิมชัยยังยืนยันว่าถูกเต๋า-สมชาย กับพวกลากลงจากรถ ก่อนจะถูกนักร้องดังกับเพื่อน ๆ รุมทำร้าย และที่คว้ามีดกับปืนปลอม เป็นเพราะกลัวและต้องการป้องกันตัว ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร ขณะที่ น.ส.บุศรา ยังเปิดเผยว่า ถูกเต๋า-สมชาย กระชากคอเสื้อ จนขาด และได้รับบาดเจ็บที่แขนและลำคอ พร้อมทั้งโชว์บาดแผลให้ดู
จากนั้นเวลา 14.00 น. นายเฉลิมชัย พร้อมครอบครัว และนายศักดิ์ชัย พันธ์รอด ทนายความ พร้อมตัวแทนชมรมชอปเปอร์เชียงใหม่ เปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุมใหญ่เชียงใหม่โบว์ลิ่ง
โดยนายเฉลิมชัยยังยืนยันว่าถูกเต๋า-สมชายกับเพื่อนรุมทำร้าย และที่ชักปืนปลอมออกมา ก็เพราะกลัวถูกปองร้าย แต่เมื่อเห็นคู่กรณีเป็นดาราชื่อดัง จึงขอโทษไป แต่ไม่วายถูกรุมทำร้ายอยู่ดี "หากผมนำมีดออกมาแทงคุณเต๋าจริง ๆ คุณเต๋าคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้หรอก ผมแค่เอาออกมาป้องกันตัวเองเท่านั้นเองไม่ได้มีเจตนาจะไปแทงใครจริง ๆ และอยากฝากบอกคุณเต๋าว่า ความจริงผมปลื้ม คุณเต๋า มาก ๆ เพราะเห็นว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่หลังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมหมดศรัทธา และคุณเต๋าที่ว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ลูกผู้ชายเขากระชากเสื้อผู้หญิงจนขาด และทำร้ายผู้หญิงแบบนี้หรือ" คู่กรณี นักร้องดังกล่าว
ขณะที่ นายศักดิ์ชัย ทนายความของนายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า
เตรียมจะแจ้งความเพิ่มเติมกับเต๋า-สมชายในข้อหาอื่น ๆ แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นข้อหาอะไร แต่คดีนี้จะต่อสู้กันที่ศาลจนถึงที่สุด และจะประสานทางเทศบาลนครเชียงใหม่ และตำรวจจราจร เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่บริเวณนั้น ซึ่งน่าจะบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการเอาผิดกับเต๋า-สมชายต่อไป
|
|
|
ส่วนนายปฏิวัติ ใจใส ประชาสัมพันธ์กลุ่มโซเดวิล ซึ่งนายเฉลิมชัย คู่กรณีของนักร้องดังเป็นสมาชิกอยู่ กล่าวในนามตัวแทนชมรมชอปเปอร์เชียงใหม่ว่า
กลุ่มชอปเปอร์เชียงใหม่ ทั้ง 23 กลุ่มในจังหวัด ขอบอยคอตเต๋า-สมชาย จะไม่ให้เข้าร่วมทุกกิจกรรมด้วย พวกเราขับขี่เพราะใจรัก มีน้ำใจในการขับขี่ ยิ่งชอปเปอร์ด้วยกันแม้คนละกลุ่มไม่รู้จักกัน ก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันและน้องเฉลิมชัยก็เป็นกลุ่มชอปเปอร์ เป็นคนดีไม่มีนิสัยเกเร พวกเราไม่มีนิสัยอันธพาล เราไม่มีเอาคืนแน่สบายใจได้ แต่ปล่อยเป็นหน้าที่ของกฎหมาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามเต๋า-สมชาย ถึงเรื่องถูกกลุ่มชอปเปอร์เชียงใหม่ บอยคอต
โดยนักร้องคนดังกล่าวว่า ไม่ได้ทำความผิด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการป้องกันตัว และไม่สนใจที่ถูกบอยคอต "การบอยคอตต้องใช้กับ บุคคลที่มีความผิดเท่านั้น แต่ผมยังไม่มีความผิดอะไร การกระทำทุกอย่างเป็นสิ่งที่เกิดเฉพาะหน้า เป็นการป้องกันตัว วินาทีนั้นผมกำลังจะถูกฆ่า ก็ต้องป้องกันตัวเป็นธรรมดา ตอนแรกก็รู้สึกสงสารเพราะเข้าใจว่าวัยรุ่นเลือดร้อน และเป็นเด็กอยู่เลยไม่ถือสาเอาความ ถ้ามาขอโทษก็พร้อมที่จะให้อภัยกันอยู่ แต่ไปแจ้งความและโร่แจ้งสื่อ ต่าง ๆ และการที่ออกมาแถลงข่าวจะบอยคอตผม เป็นการเบี่ยงเบนประเด็น ใช้สื่อเป็นเครื่องมือ การที่ผมขี่รถจักรยานยนต์ ไม่เห็นผิดตรงไหนเลย รถก็รถผม น้ำมันก็เติมเอง ไม่ได้ไปขอเงินใครเติม จะบอยคอตอะไรก็ช่าง ผมไม่สน อยากทำอะไรก็ทำไปเลย เพราะแต่เดิมก็เป็นนักขี่รถจักรยานยนต์อิสระอยู่แล้ว ขี่มาตั้งแต่อายุ 14 ปี พรรคพวกที่กรุงเทพฯก็มีตั้งเยอะแยะ"
เต๋า-สมชาย ยังกล่าวว่า ทำไมไม่หยิบยกถึงเรื่องปืน หรือมีดเข้ามาพูด
หรือว่าพยายามหลบประเด็นแล้วไปเบี่ยงประเด็นอื่น และหลังเกิดเรื่องมีแฟนคลับต่าง ๆ โทรฯ มาให้กำลังใจ และปลอบว่าโชคดีที่ได้รอดตายมาได้ และเชื่อว่าเหตุการณ์หรือคดีที่เกิดขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์ที่ตนเองแสดงนำ และกำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เพราะหลังออกฉายได้รับการตอบรับดี และมีผู้ชมจำนวนมากเกือบทุกโรง และยังบอกว่าฉากแอ๊คชั่นต่าง ๆ ในภาพยนตร์ ช่วยให้รู้จักป้องกันตัวเองได้ เพียงแต่ในชีวิตจริงไม่มี เทค และเจ็บจริง อย่างไรก็ดี ในเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ย. เต๋า-สมชาย จะเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง ที่บ้านพักเลขที่ 225 หมู่ 6 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
|
|
|
ขณะที่ พ.ต.ต.วิสูตร สวส.เจ้าของคดี เปิดเผยว่า
จากการสอบสวน คู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันจะเอาเรื่องกันให้ถึงที่สุด ตนในฐานะพนักงานสอบสวน ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำไปกว่า 10 ปากแล้ว ซึ่งมีทั้งสองฝ่ายทั้งผู้อยู่ในเหตุการณ์และคนที่ขับรถผ่านไปมา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด แต่ขณะนี้ยังคงยืนยันไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก และทางตำรวจกำลังทำเรื่องขอดูกล้องทีวีวงจรปิดจากทางเทศบาลเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนำมาประกอบสำนวน
ด้าน "นัท มีเรีย" อดีตภรรยาของนักร้องดัง กล่าวว่า รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
โดยทราบจากข่าว แต่ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไรได้ และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร คงจะต้องปล่อยให้เต๋าเป็นคนให้สัมภาษณ์เอง แต่ถามว่าเป็นห่วงเต๋าหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเป็นห่วงในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ส่วน "ป้าจิ๊-อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ" ซึ่งถือเป็นแม่บุญธรรมของ "เต๋า-สมชาย" เปิดเผยทางโทรศัพท์เพียงสั้น ๆ ว่ายังไม่ได้คุยกันเลย เพราะช่วงนี้วุ่น ๆ แต่พอรู้ข่าวแล้วก็ตกใจเหมือนกัน เป็นห่วงเต๋า กลัวว่าจะได้รับอันตราย. |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
|