• เก๋งไม่หลบรถฉุกเฉิน ! ลูกสาวเผยอโหสิกรรมให้ คืบหน้าเก๋งไม่หลบรถฉุกเฉิน ล่าสุดคนป่วยเสียชีวิตแล้ว ญาติอโหสิกรรมให้คนขับรถขวาง |
โพสต์โดย เดลต้าพาเพลิน , วันที่ 09 เม.ย. 61 เวลา 15:15:55 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คืบหน้าเก๋งไม่หลบรถฉุกเฉิน ล่าสุดคนป่วยเสียชีวิตแล้ว ญาติอโหสิกรรมให้คนขับรถขวาง
นครราชสีมา
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kenzaa Standby ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์รถฉุกเฉินคันหนึ่งเปิดไซเรนขอทางขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีผู้ป่วยต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางในช่องเลนขวา มีรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ สีแดง ไม่ยอมหลบ และขับแช่อยู่เลนขวา เมื่อรถฉุกเฉินขับตามได้สักระยะจึงต้องแซงซ้าย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าผู้ป่วยที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ ชื่อนายประสิทธิ์ แรมครบุรี อายุ 61 ปี ชาวบ้านสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กำลังเดินทางจาก ร.พ.ลาดกระบัง กรุงเทพฯ เพื่อกลับ ร.พ.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่เป็นโรงพยาบาลใกล้กับภูมิลำเนาบ้านเกิด ได้เสียชีวิตลง แล้ว เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายประสิทธิ์ พบว่ามีบรรดาสมาชิกครอบครัว อาทิ นางทองม้วน แรมครบุรี ภรรยาของผู้ตาย น.ส.สายใจ แรมครบุรี บุตรสาวคนโต และบุตรชายอีกสองคน คอยต้อนรับแขกอยู่ภายในงาน โดยมีบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย มาร่วมแสดงความเสียใจตลอดทั้งวัน ซึ่งต่างพากันนั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.สายใจ บุตรสาวคนโตของผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองได้ตัดสินใจอพยพครอบครัวทั้งหมดเข้าไปทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ มานานประมาณ 18 ปีแล้ว โดยพ่อและสมาชิกกครอบครัวที่เป็นผู้ชายได้ทำหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนตนทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อเป็นคนขยันขันแข็ง แข็งแรงดี แต่มีโรคหอบหืด ซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่ดูแลตัวเองได้ดีมาตลอด กระทั่งเมื่อสองอาทิตย์ก่อน พ่อมีอาการปวดหัว จึงไปหาซื้อยาที่คลินิกใกล้บ้านมากิน แต่ไม่ยอมไปหาหมอ
น.ส.สายใจ กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 5 เม.ย. พ่อเกิดอาการทรุดลงอย่างกะทันหันจนไม่รู้สึกตัว ครอบครัวจึงนำตัวไปรักษาที่ ร.พ.ลาดกระบัง ซึ่งแพทย์มาดูอาการแล้วลงความเห็นว่ามีอาการสมองขาดออกซิเจน หากรักษาก็ทำได้ แต่จะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ทางครอบครัวจึงตัดสินใจจะส่งตัวกลับมาพักที่ ร.พ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งใกล้กับบ้านเกิด เพื่อหวังว่าจะให้บรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดได้มาดูใจกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก่อน ยังดีที่พ่อยังได้กลับมาสิ้นใจที่ภูมิลำเนาบ้านเกิด ในช่วงเกิดเหตุนั้นมีแม่และน้องชายนั่งไปในรถฉุกเฉินกับพ่อ ส่วนตนกำลังนั่งรถอีกคันขับตามไป จึงไม่เห็นเหตุการณ์ กระทั่งได้เห็นนคลิปดังกล่าวที่ถูกแชร์ต่อกันมา
วันนี้ตนและครอบครัวไม่ติดใจเอาความอะไรกับคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว และขออโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้พ่อจากไปอย่างเป็นสุขที่สุด แต่อยากฝากบอกว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ ควรที่จะมีน้ำใจมากกว่านี้ เพราะรถฉุกเฉินที่ต้องเปิดไซเรนและไฟขอทางนั้น มีผู้ป่วยอยู่ในรถ ส่วนใหญ่ต้องเร่งส่งตัวไปทำการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะมีชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ว่ากรณีของพ่อตน ครอบครัวพอที่จะทำใจได้แล้ว แต่ก็อยากให้พ่อไปถึงบ้านโดยยังมีลมหายใจ เพื่อให้ญาติพี่น้องได้มาพบหน้า หากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของตนเองบ้างจะรู้สึกอย่างไร บุตรสาวผู้เสียชีวิตกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพิธีฌาปนกิจศพของนายประสิทธิ์ แรมครบุรี จะมีขึ้นในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่วัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ที่มา @khaosod
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2154 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย เดลต้าพาเพลิน
IP: Hide ip
, วันที่ 09 เม.ย. 61
เวลา 15:15:55
|