หลังจากที่เจ้าหน้าที่กระจายตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ก็พบก็เศษกระดูกกะโหลกศรีษะที่ถูกทุบจนเป็นชิ้นเล็กๆ และเศษกระดูกส่วนอื่นๆของร่างกายที่แตกละเอียด ไม่สามารถนำมาต่อเป็นรูปร่างได้ รวมทั้งฟันปลอมที่ตกอยู่ในพงหญ้า คาดว่าศพถูกเผาทั้งเนื้อและกระดูกไหม้ไปกับกองไฟเกือบทั้งหมด และยังมีการนำเศษกระดูกที่เหลือไปทุบให้แตกละเอียดและกวาดทิ้งในพงหญ้า เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมดไม่ให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร และในบริเวณเดียวกันยังพบยางรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ได้เผาอีก 2 เส้น
ต่อมานางปวีณา ขุนทรงอักษร อายุ 58 ปี พร้อมญาติได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุเนื่องจาก น.ส.ภิญญดา แป้นจันทร์ อายุ 48 ปี หรืออ้อย น้องสาวได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา และทันทีที่เห็นแหวนเพชรและฟันปลอม ก็ยืนยันว่าเป็นแหวนเพชร ของน.ส.ภิญญดา และผู้เสียชีวิตที่ถูกเผานั่งยาง ก็น่าจะเป็นน.ส.ภิญญาดา แน่นอน
จากการสอบสวนญาติทราบว่า น.ส.ภิญญดา เป็นนักธุรกิจขายตรงและขายประกัน มีหน้าตาดีและมีฐานะดี ได้หายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับรถเบนซ์สีดำ ญาติจำเพียงเลขทะเบียนรถได้เพียงเลข 333 และภายในบ้านพักเลขที่ 418/7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ยังมีคราบเลือดด้วย
หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุและควบคุมสั่งการสืบสวนทางคดี ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบสวนพยานแวดล้อมพบตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่า น.ส.ภิญญดา คือนายกฤษฎา ไหมขาว หรือโรจน์ อดีตสามีที่ได้อย่าร้างกันไปแล้ว แต่ได้กลับมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันฉันผัวเมีย ในคืนเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน กระทั้งหายตัวไปทั้งคู่พร้อมกับรถเบนซ์ ซึ่งตำรวจกำลังติดตามตัวอดีตสามีมาทำการสอบสวน
#ขอบคุณภาพ : นสพใต้สันติสุข
#บิ๊กเกรียน