• เพจหมอเวร แจง หากขาดอาหาร และอยู่ในความมืด จะเป็นยังไง |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 29 มิ.ย. 61 เวลา 14:28:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เพจหมอเวร แจง หากขาดอาหาร และอยู่ในความมืด จะเป็นยังไง
(12 ชม.)
ใน 3-4 ชม.แรก ร่างกายจะดึงพลังงานจากอาหารมื้อล่าสุดที่กิน เพื่อเอามาใช้งานก่อน หลังจากนั้นถ้าพลังงานตรงนี้หมด จะไปดึงพลังงานส่วนไกลโคเจนมาใช้แทน (ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือดึงพลังงานจากคาร์บที่อยู่ในกระแสเลือดมาใช้นี่แหละ)ตอนนี้ถือว่ายังชิวๆ ยังสบายๆ อยู่
(24 ช.ม)
พอครบ 24 ชม. ร่างกายจะเริ่ม โหยๆ เพลียๆ นิดหน่อย ท้องจะเริ่มส่งเสียงร้องระงมว่าต้องการอาหาร ระดับโซเดียมในเลือดสูงขึ้น ความดันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พอไกลโคเจนในเลือดหมดแล้ว คิวต่อไปที่ร่างกายจะดึงพลังงานมาใช้ก็คือกลูโคสหรือน้ำตาลส่วนที่เล็กที่สุดในร่างกายนั่นเอง หลักๆ จะดึงกลูโคสไปใช้งานกับสมองก่อน เพราะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
(36 ชม. )
ตอนนี้ระดับคลอเรสเตอรอลในเลือดลดลง อันนี้ลดลงเป็นปกติ เพราะว่าไม่มีสารอาหารประเภทคาร์บหรือไขมันตกถึงท้องเลย ถ้ากลูโคสหมด ร่างกายจะดึงโปรตีนมาใช้ต่อ หรือถ้าไม่พอก็จะเริ่มดึงเริ่มดึงไขมันที่สะสมใต้ผิวหนังมาใช้เผาแทนแล้วล่ะ
ผิวหนังจะเริ่มซีดลง ลิ้นแห้งและอาจมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นบริเวณลิ้น เริ่มมีกลิ่นปากที่รุนแรงขึ้น เพราะของเสียจากการเผาไขมันจำพวกคีโตนทำให้มีกลิ่นที่รุนแรง
(48 ชม.)
ครบสองวัน ตรงนี้ตาจะเริ่มอ่อนแรง อาจมีอาการแทรกเช่นการปวดหัว หรือรู้สึกว่าการขยับร่างกายไปมามันหนักมาก (ไม่มีแรงนั่นแหละ พูดง่ายๆ) ร่างกายจะขุดไขมันสะสมมาใช้อย่างจริงจัง ปกติไขมันสำรองของคนทั่วไป มักจะสามารถถูกเอามาเผาผลาญเป็นพลังงานต่อไปได้อีกอย่างน้อย 60-80 ชม.
ใครที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือมีไขมันสะสมเยอะก็จะอยู่ได้นานขึ้น
(60 ชม.).
เข้าวันที่สาม ความหิวเราจะลดลงอย่างน่าแปลกใจตอนนี้ร่างกายจะเริ่มดึงทั้งไขมันและดึงกล้ามเนื้อมาเผาผลาญพลังงานอย่างเต็มที่ เป็นจังหวะที่ร่างกายเราจะเริ่มปรับตัวได้แล้ว ถ้ายังมีน้ำกินอยู่ ตอนนี้จะรู้สึกตัวเบาๆ หน่อย และค่อนข้าง Active เป็นพิเศษได้อีกหลายวันหน่อย มันเป็นกลไกธรรมชาติเหมือนสั่งให้เราห้ามตาย และพยายามลุกออกไปไปหาอาหารมาเติมลงกระเพาะให้ได้
(72 ชม.)
อย่างที่บอกว่าร่างกายเราจะยังค่อนข้างตัวเบาๆ โหวงๆ อยู่ อาจจะมีวูบๆ บ้างเวลาลุกเร็วๆ เพราะน้ำตาลในเลือดเราลดลงอย่างฮวบฮาบ รวมถึงดึงไขมันและกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานแทน
(90 ชม. ขึ้นไป)
ตรงนี้เริ่มน่าเป็นห่วงเล็กน้อย เพราะปกติแล้วเราจะกินคาร์โบไฮเดรตจากอาหารต่างๆ แต่พอเราขาดคาร์บจากการกิน ร่างกายเราเลยไปทำปฎิกิริยากับโปรตีนและไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดในร่างกายเริ่มค่อยๆ เสียไปเรื่อยๆ ทีละน้อยๆ
ส่วนการดำรงชีพก็ยังคงดึงชั้นไขมันมาใช้ได้อยู่เหมือนเดิมอย่างที่บอก
((((( สรุป ))))))
.
จุดวิกฤตคือประมาณ 7-10 วัน ตอนนี้แหละ ร่างกายเคย Active หรือกระปรี้กระเปร่า ก็จะเริ่มหมดเรี่ยวแรงไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว อวัยวะภายในตับไตเริ่มพังที
ละส่วน เนื่องจากเลือดเป็นพิษอย่างที่บอก ถ้าเลือดเป็นพิษถึงระดับ 30% ของเลือดในร่างกายทั้งหมดก็จะเป็นจุดที่อันตรายที่สุดแล้ว เพราะทำให้มีสารพิษวิ่งเข้าสู่สมองได้ นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของจริง
.
แต่ช้าก่อน !!
อย่าเพิ่งวิตกกังวลขนาดนั้น มาดูข้อดีของการที่น้องๆ ติดอยู่ในถ้ำที่มืดสุดๆ มืดแบบแทบจะไม่มีแสงส่องผ่านเลย
.
คืองี้ปกติเวลาที่คนติดอยู่ในที่มืดเป็นเวลานานเนี่ย ร่างกายเราจะรู้สึกหลอนๆ และผวาตลอดเวลา สาเหตุเพราะไม่รู้วันเวลาไม่มีแสงเพื่อบอกว่านี่เช้าแล้ว หรือนี่มืดแล้ว ประสาทสัมผัสจะเริ่มแปรปรวนอาจทำให้เสียสติได้ง่าย
.
แต่การที่น้องๆ อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ อาการเหล่านี้แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย หรือหากเกิดขึ้นก็จะมีกำลังใจจากเพื่อนๆ รอบข้างคอยช่วยเหลือและปลอบใจกัน ทำให้ความเครียดสะสมลดลง และสามารถผ่านพ้นอาการทางจิตไปได้แบบสบายๆ แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสติของแต่ละคนนะ
.
และหากร่างกายเราอยู่ในสภาวะนี้ไปซักระยะใหญ่ และร่างกายเราจะเริ่มปรับตัวคล้ายๆ สัตว์ที่จำศีล และหากน้องๆ สามารถนอนหลับได้ การไม่รับรู้ถึงแสงสว่างภายนอกอาจจะทำให้วงจรการนอนหลับเปลี่ยนไป น้องอาจนอนหลับแบบรวดเดียวสองวันสองคืนได้เลย โดยไม่มีแสงมาเป็นตัวกระตุ้นบอกเวลาว่านี่เป็นวันใหม่แล้ว ขอให้รู้ไว้เลยว่าแสงมีอิทธิพลกับสมองเราเยอะมาก สังเกตได้จากเวลามีสุริยุปราคาแล้วสัตว์บินกลับรัง มนุษย์เราก็เช่นกัน หากไร้นาฬิกาหรือเครื่องบอกเวลา ยามอยู่ที่มืดนานๆ ร่างกายเราก็บอกให้ตัวเองเน้นพักผ่อนมากกว่าทำงาน ฉะนั้นระดับการเผาผลาญพลังงานจะยิ่งลดลงกว่าเดิมเข้าไปอีก มีพลังงานสำรองเหลือเฟือให้ใช้อีกหลายวัน
.
ขนาดตึกถล่มคนติดในนั้นซากตึกนานตั้งเป็นสัปดาห์ยังรอดมาได้เลย ยิ่งน้องๆ เป็นนักกีฬาที่แข็งแรงและไม่ได้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยอะไรด้วยแล้ว การมีน้ำสะอาดกินได้และยังเกาะกลุ่มกันอยู่ โอกาสรอดหมอว่าน่าจะมีสูงเกิน 80-90% เลยแหละเคสนี้ ยังไงน้องๆ ก็ต้องรอด หมอเชื่ออย่างนั้นนะ
ที่มา หมอเวร
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1467 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 มิ.ย. 61
เวลา 14:28:07
|