• รีวิว #Airfocerun2018 ระยะทาง 16 km. 9/9/2018 < by นู๋กุง เลดี้ จีจี้ > |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 11 ก.ย. 61 เวลา 13:34:56 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
รีวิวโดย นู๋กุง เลดี้ จีจี้
รีวิว #Airfocerun2018 ระยะทาง 16 km. 9/9/2018
สนามนี้ ปล่อยตัวกันที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีกล้วย วัฟเฟิลไส้กรอก ข้าวเหนียวปิ้ง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ให้รองท้อง
เริ่มต้นวันด้วยความรู้สึกอิ่มท้อง ตื่นเต้น เพราะเป็นนักวิ่งมือใหม่ ไม่ใช่สายดอย เลยกินน้ำและเข้าห้องน้ำบ่อยมาก ถือเป็นการวอร์มไปในตัว วิ่งไปกินน้ำ สลับกับวิ่งเข้าห้องน้ำ
BIB สนามนี้เป็นบาร์โค้ด เมื่อวิ่งผ่านซุ้มจะทำการเก็บระยะทางและความเร็ว เริ่มปล่อยตัวกันด้วยเวลา 09.09น. ฤกษ์งามยามดี (เลขไม่อั้น ใครจะเสี่ยงโชค ก็มีแม่ค้าหวยให้บริการ)
กิโลเมตรแรกเรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี จะเรียกว่าเปิดก๊อกกันเลยทีเดียว เพราะทางคือเนินขึ้น ขึ้น ขึ้นและขึ้น จากคนจำนวนเป็นพัน ผ่านเนินคัดตัว ก็เริ่มจับจังหวะเท้าของใครของมันได้มากขึ้น มีพื้นที่ให้สปีดตามสไตล์ของตัวเอง
จุดให้น้ำ เริ่มที่ 1.5km. พ้นโค้งมา ด้วยความรู้สึกคอแห้งผาก มองหาเต้นท์สีขาวตลอดทาง พอเห็นหลังคาขาวลิบๆ ใจมันมา ซอยขาเพิ่มความเร็วสักหน่อย ให้พอชุ่มชวย เด็กดอยใจดี เตรียมถ้วยน้ำไม่ทัน นักวิ่งเลยต้องมาช่วยกันแจกแก้วพลาสติกกันเอง
สับขาเข้าไป ยังคงเป็นทางขาขึ้น มีทางลงเล็กๆให้เหมือนได้เร่งความเร็วเพื่อขึ้นเนินถัดไป แต่ทำไงได้ เราไม่ใช่เครื่องเบนซิน ดีเซล ความเร็วขามันไม่แรงเท่าหัวใจที่ไปถึงยอดดอยนานแล้ว ก็มันเนิน เดินได้ก็เดินไป
โอ้ววว!!! เจอตากล้องนอนถ่าย ทุ่มเททั้งกายทั้งใจ อย่าลืมไปอุดหนุนรูปพี่ๆตากล้องทั้ง10เพจด้วย พี่เค้าบอก เข้ากล้องแล้ว ออกเลยครับๆ ทำงานวันนี้นิ้วที่ลั่นชัตเตอร์ คงไม่เมื่อยเท่าไหร่ เดาเบาๆว่า พี่คงเจ็บคอมากกว่า เพราะตะโกนตลอดเวลา เดินบ้างวิ่งบ้าง มีคนลากก็ดีไป ไม่มีคนลากก็ไปด้วยตัวเอง ซุ้มน้ำมาทุกๆ 1.5กิโลเมตร ......เลย 5กิโลเมตรไปร่างกายเริ่มอยู่ตัว ไม่ใช่สับขาพริ้ว และไม่ได้เดินตัวปลิวแต่อย่างใด ถ้าคิดว่า จะชิวชมนกชมไม้ 8กิโลเมตรแรก บอกเลยว่า ตามองแต่ถนน สิ่งที่ทำให้ร่างกายตั้งตรง 90องศากับพื้นโลกได้อย่างเดียวคือก้าวเท้าอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนั่นเอง
กม.7 ถึงซุ้มเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน เหมือนเจอสวรรค์รำไร มีสุขาให้เข้าทั้งชายหญิง เอาจริงๆ ใจมันเต้นตึกตัก จนแทบปล่อยระเบิดที่สะสมมาระหว่างทางไม่ออก แต่ท่องไว้ เลยนี้ไปป่าล้วนๆ มีอะไรก็ทิ้งใส่ชักโครกไปเหอะ ทำเวลาหน่อยแล้วกัน ในห้องน้ำมืดมาก ออกมาเจอแสงสว่าง เล่นเอาแทบหน้ามืดอยู่นา พี่ป่าไม้ขรา ติดไฟในห้องน้ำหน่อยนะคะ
ถือว่าหนูขอร้องงงง!!!!!
เลยระยะ 7กม. ขึ้นไปเริ่มมีหมอกให้ได้ฟิน ระยะทางไม่ได้ชันมากแต่วิ่งไม่ได้ฮะ พี่ตะคริวมารอเป็นปั้นๆเลย
ถึงกิ่วแม่ปาน แม่จะโว้ยยยย วิวข้างทาง สวยจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนพักข้างทาง มองให้ไกลสุดสายตา พลางคิดในใจว่า ภาพที่สวยที่สุดคือภาพที่ถ่ายไว้ด้วยสายตาและเก็บมันไว้ในความทรงจำนี่เอง
กิ่วแม่ปานมีซุ้มพยาบาล ให้บริการพ่นสเปรย์เผื่อคนเป็นตะคริว ยาดม และรอยยิ้มจากน้องๆชาวเขามาโบกไม้โบกมือทักทาย
เดินต่อไปนะฮะ อย่าเผลอเกร็งก้นและต้นขา เพื่อนคู่ใจในตอนขึ้นดอย คือ พี่ตะคริวนี่แหละ อย่าให้ขึ้นเชียวนะ เพราะ ขึ้นแล้ว มันเหิมเกริม จะขึ้นๆๆๆๆ อยู่นั่นแหละ
ถึงเจดีย์นภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จุดปล่อยตัว ฟันรัน ซึ่งเริ่มเห็นรถเหลืองขับลงมาเป็นระยะๆแล้ว คงถึงยิดดอยและเริ่มกลับลงมา แต่สำหรับ 16โล เรายังต้องไปต่อไป
อะแฮ่มมม!!!! ซุ้มน้ำท้ายๆเราแอบเห็นเปลือกกล้วยเปลือกแตงโม แต่เหลือไม่ถึงเราชาว16โลเลยอ่ะ มีซุ้มน้ำซุ้มพยาบาลถี่ขึ้น ตากล้อง อยู่ด้านบนค่อนข้างเยอะกว่า ช่วงแรกๆ ซุ้มน้ำสุดท้ายก่อนถึงยอดดอย เฮลบลูบอย เจอจางมากกกกกก จนนึกว่าหยดน้ำยาอุทัยทิพย์ 555555
5โลหลัง ชิวฮะท่านผู้โช้มมมม!!! เดิน สลับ กับยืดเส้น ไม่ได้ดึงมันตึงเอง
หมอกลงจัด ด้วยสายตาสั้นรึเปล่าก็ไม่รู้ระยะ 100เมตร แทบมองไม่เห็นคนด้านหน้า เหมือนเดินกลืนหายเข้าไปในสายหมอก ต้นไม้เขียวขจี สดชื่นสุดๆ สูดเอาออกซิเจนเข้าให้เต็มปอด เฮ้ยยย!มันฟิน แวะทักเพื่อนร่วมทาง คุณลุงข้าราชการเก่า บินมาจากกทม.เคยมาปั่นอินทนนท์คนพันธุ์อึดเมื่อช่วงต้นปี ลุงนักวิ่งทีมชาติเก่าเคยเดินไม่ได้อยู่1ปี แต่วันนี้ลุงมาวิ่งขึ้นอินทนนท์ พี่ทหารจากลพบุรี คุยกันไปเดินกันไป แป้บเดียวก็ 16 กิโลเมตร อุณหภูมิ 14องศา เข้าเส้นชัยไปที่หอดูดาว เชคบิ้บ รับเหรียญ รับผ้าหม่ฟลอยด์คลายหนาว สุขาอยู่หนใด .......น้ำเย็นเจี๊ยบบบ ถ้าช่วงล่างไม่แข็งแกร่งพอ อาจจะน้อคน้ำได้
วิ่งไป3ชั่วโมง 16นาที อ้าวซุ้มอาหาร แทบไม่เหลืออะไรให้กินล้าวววว ต่อคิวยาวๆ ตากแดดร้อนจนควันขึ้นพื้น อยู่ดีๆก็หนาวจัด อ้าว!!ฝนตก 3ฤดูที่ต้องเจอ เออมันท้าทายดี ได้ข้าวเหนียวปิ้งมา 1ห่อ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น รีบซดให้หมดแล้วเอาถ้วยไปขอเกี๊ยวกุ้งที่ซุ้มซีพี เพราะถ้วยที่ซุ้มไม่มีแล้ว
เดินมากินแตงโม โอ้โหงานวิ่งถ้าขาดแตงโมมันคือไม่ได้เลย เพราะสดชื่นมาก แวะกราบพระพุทธสัมฤทธิ์ผล(ถ้าชื่อผิดขออภัย) สวยงามมาก และ แอบขอให้ถูกสลากกินแบ่งสักใบ 55555
นั่งชิวอยู่สักพักให้ขาผ่อนคลาย เดินออกมาลงรถเหลืองเป็นเซ็ทท้ายๆเลย ตอนขึ้นรถก็คึกคักกันดี แค่เกียร์ดัง ครึ้ดดด!!!!รถออกตัว หลับกันทั้งรถจ้า ใช้เวลาเดินวิ่งขึ้นไป 3ชั่วโมง ลงรถมาด้วยเวลา 20นาที เจอแดดแรงๆเลยจ้า กินพาราได้เลย หน้าร้อนตัวร้อนปรี้ดด
โดยสรุป บอกเลยว่า เป็นสนามที่ฟิน และมีความสุขสุดๆ ถ้าใครไม่ได้มา พลาดแระหล่ะ ปีหน้าลงทะเบียนให้ไว พกรองเท้าคู่ใจ แล้วไปเจอกันบนยอดดอย
ขอบคุณที่ตามอ่านรีวิวของนักวิ่งมือใหม่มาจนบรรทัดสุดท้าย เจอกันใหม่ เมื่อหัวใจต้องการ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2025 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 ก.ย. 61
เวลา 13:34:56
|