• เด็กต้องเล่น! เพราะการเล่นคือการพัฒนาสมองของเด็ก |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 26 ก.พ. 62 เวลา 22:24:36 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
การเล่นกับการพัฒนาสมองของเด็ก
....................................
การเล่น เป็นกิจกรรมทางกาย ( Physical Activity )อย่างหนึ่ง ได้รับยอมรับในระดับสากลว่ามีผลต่อพัฒนาการด้านร่างกาย สติ ปัญญา อารมณ์ และสังคม
แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่กิจกรรมนันทนาการ เช่น เดินเล่น ว่ายน้ำ ลีลาศ ไปจนถึงกิจกรรมการเล่นกีฬา การออกกำลังกายจึงถูกเชื่อมโยงเข้าสู่งานด้านการศึกษาปฐมวัย และครอบครัวทั้งในแง่ส่งเสริม ป้องกัน บำบัด และฟื้นฟู
ปัจจุบันการเล่นของเด็กสำคัญ เพราะเด็กจะได้รับประสบการณ์จากการสัมผัส เกิดการคิด วิเคราะห์ สร้างจินตนาการ
มีงานวิจัยสรุปว่า การเล่นช่วยพัฒนาสมอง โดยเฉพาะเด็กในช่วง 0-6 ปีทุกครั้งที่เด็กได้เล่นจะทำให้เกิดการขยับ แขน ขา เป็นการกระตุ้นสมองส่วนกลาง เมื่อมีกิจกรรมการเล่นที่หลากหลาย เด็กจะคิด มีจินตการ ซึ่งเป็นสมองส่วนหน้า
รศ.ดร.ยศนันท์ วงศ์สวัสดิ์ หนึ่งในนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก กล่าวว่า การเล่นทำให้เกิดการตัดสินใจ เกิดการคิด มีงานวิจัยต่อเนื่อง ถึงการเล่นจะทำให้เด็กๆที่มีพัฒนาการสมองดี เด็กบางคนถ้าคิดเลขในใจได้ เพราะหน่วยความจำในสมองดี
งานวิจัยยังระบุอีกว่า กิจกรรมการเล่นจะเป็นส่วนช่วยลดความวิตกกังวล ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาสู่โรคต่างๆเยอะแยะ ด้วยคนเราหากลดการทำงานบางกิจกรรม แล้วใจจับจ้องบางอย่างสมองส่วนอื่นก็จะลด ส่วนอื่นมาเติม ช่วยลดความเครียด สมองกลับมาสู่ภาวะผ่อนคลาย
การเล่นทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เคยมีการทดลองแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่มเพื่องานวิจัย โดยมีกิจกรรมกลางแจ้งและในร่ม ผลประจักษ์เชิงวิชาการได้ข้อสรุปว่า ถ้าเล่นกลางแจ้ง จะมีการใช้สมองส่วนหน้าเยอๆ เด็กกลุ่มนี้จะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
นอกจากการเรียนการสอน การเล่นจะทำให้ มีการพัฒนาด้านอื่นๆตามมา
มีการทดลอง จำลองกิจกรรมในแต่ละกลุ่ม เพื่อหาผลสรุปพัฒนาต่างๆ จากกิจกรรมการเล่น ควบคู่ไปกับการเรียน การสอน พบว่า เด็กที่มีช่วงผ่อนคลาย พัฒนาการสมองดี การเรียนก็ดีขึ้นตาม
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือสสส.ได้เข้ามาช่วยออกแบบกิจกรรม เพื่อช่วยตรงนี้ จะทำแบบ 20-20-30 เป็นสูตรยืดหยุ่นระหว่างการเรียน บางรายวิชาเช่น ภาษาอังกฤษ ,คณิต หากการเรียน การสอนนำกิจกรรม การสอนเชิงเชิญชวน"ออกมาเล่น ทำกิจกรรม" มีการเคลื่อนไหว ให้เกิดความสนุก ผ่อนคลาย
อาจจะเป็นช่วงเช้าๆก่อนเรียน หาอะไรสนุก ในกิจกรรม เล่น ขยับเคลื่อนไหวสัก 20 นาที ช่วงบ่ายอีก 20 แล้วเย็นๆอีก 30 นาที จะทำให้เด็กมีความสุข จากกิจกรรมนอกตำรา
ปีนี้สสส.ตั้งใจอยาก รณรงค์ด้านกิจกรรม ออกมาเล่น ในบางรายวิชา อย่างน้อยให้ได้รวมกัน 1 ชั่วโมงใน 1 อาทิตย์ น่าจะช่วยเรื่องการเรียนดีขึ้น ดีกว่านั่งนิ่ง
ผลสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นได้ รศ.ดร.ยศนันท์ วงศ์สวัสดิ์ ย้ำว่าทุกจังหวัดต้องช่วยๆกัน จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น
ส่วนประเด็นการออกมาเล่นเกมส์ ประเภท อีสปอร์ตนั้น ต้องทำพความเข้าใจหลักๆว่า ถ้าเป็นเกมส์ จะมี 2 แบบคือ กระโดด เคลื่อนไหว มีผลต่อพัฒนาการทางร่างกาย อยู่ที่การเลือกเล่นเกมส์นั้น จะว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเดินเล่น
อวัยวะที่ได้ จะแตกต่างกัน ความคิดสร้างสรรค์ต่างกัน
ถ้าอีสปอร์ตจะช่วย ด้านร่างกาย แต่จะไม่มีผลต่อพัฒนาการด้านความจำ การสร้างสรรค์ เพราะหากทำอะไรที่หนัก มากเกินไป ก็ไม่ใช่เป็นผลดี ต่างจากกิจกรรม ออกมาเล่นเป็นระยะๆ มีตารางเวลายืดหยุ่น พอเหมาะ ทุกอย่างถ้าอยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะดีหมด
การเล่นมีหลายระดับ เล่นให้เป็น ให้ครบระดับกิจกรรมทางกาย การให้เด็กได้มีโอกาสเล่นจะเป็นการสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กในแต่ละวัย ช่วง 0-4 ปี เด็กอนุบาลชอบร้องเพลงและเล่นกับคำ
วัย 3 - 6 ปีเป็นวัยแห่งการเล่น (Play Age) ถ้าเด็กมีความสุขเพลิดเพลินในชีวิต จะช่วยให้ประสาทสัมผัส กล้ามเนื้อพัฒนา การจัดการเรียนการสอนผ่านการเล่นจะส่งเสริมให้สมองเด็กทำงานอย่างเต็มศักยภาพ มีทักษะด้าน
ต่าง เป็นจุดเริ่มของการฉลาดรู้ ฉลาดคิด มีพัฒนาการทางอารมณ์ สติ ปัญญาที่ดีต่อไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1841 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 ก.พ. 62
เวลา 22:24:36
|