• เลี้ยงลูกให้เป็นทรพี (โดยไม่เจตนา) โดย ศ.นพ. วิทยา นาควัชระ |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 05 ส.ค. 62 เวลา 10:24:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางการเลี้ยงลูก ซึ่ง พ่อแม่แต่ละบ้านย่อมมีการเลี้ยงที่แตกต่างกัน ขอให้เป็นตัวอย่างหนึ่ง และนำไปปรับใช้กันนะครับ ซึ่งทางเราได้ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง
#เลี้ยงลูกให้เป็นทรพี (โดยไม่เจตนา)
โดย ศ.นพ. วิทยา นาควัชระ
เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องจริง
ตั้งใจจะยกให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่อยากจะโทษใคร
เพราะ ตัวละครแต่ละคนในเรื่อง ก็เจ็บปวดอยู่แล้ว
ถือว่าเป็นกรณีศึกษา และเป็นตัวอย่างประกอบก็แล้วกัน
ตัวอย่างที่ 1
พ่อมีการศึกษาจบปริญญาเอก แม่จบปริญญาโท
ทั้งพ่อและแม่มีการงานทำดีมาก การเงินก็ดี
แต่ก็ทำงานหนักทั้งคู่
ทั้งสามีภรรยามีลูกชาย 2 คน
คนโตอายุ 14 ปี คนเล็กอายุ 9 ปี
ลูกทั้งคู่ แลดูน่ารักตลอดมา การเรียนไม่เก่ง แต่การสังคมเก่ง พูดเก่ง กีฬาเก่ง กำลังเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อมากแห่งหนึ่ง
พ่อแม่เริ่มปวดหัว ที่ลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน
ลูกคนโตเริ่มก้าวร้าว พ่อแม่ว่าอะไรก็เถียง หรือไม่สนใจ
ครั้งล่าสุดนี้ ลูกฃายพูดจายอกย้อนพ่อ เถียงพ่อ
จนพ่อทนไม่ได้ เอามือไปตีลูกชายเข้า 1 ที
ลูกชายลุกขึ้นเตะพ่อ 1 ที แล้วผลักพ่อกระเด็น
แถมเดินหนีออกจากบ้านไป
พ่อมาเล่าให้ผมฟังด้วยหัวใจปวดร้าว
ผมถามว่า แล้วทำอย่างไรต่อ
เขาบอกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร
... ไม่เคยลงโทษลูกมาก่อนเลย
เพราะคิดว่าจะเลี้ยงลูก ด้วยการไม่ลงโทษเลย
ครั้นโตแล้ว จึงเห็นว่าลูกทำผิดเรื่อยๆ ไม่อยู่ในโอวาท
ถ้าจะลงโทษตอนนี้ ลูกก็ไม่ยอมรับ แถมสู้ และหนีไปเฉยๆ
จะสู้กับลูกก็สู้ไม่ได้ อายเขาด้วย เขาถามผมว่า
ทำไงดี……หมอครับ ?
ตัวอย่างที่ 2
พ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม่เป็นหมอ
ก็ทำงานหนักทั้งคู่
ลูกชายคนโตอายุ 13 ปี ไม่เชื่อฟังพ่อแม่
ครั้งล่าสุดนี้ แม่เผลอไปเอ็ดลูกเข้ามากๆ
ลูกชายเลยเอาไม้ตีหัวแม่แตก และหนีออกจากบ้านไป
พ่อแม่ก็ไม่รู้จะทำอะไร ... ทั้งคู่ไม่เคยลงโทษลูก
แม่โทรศัพท์มาหาและบอกว่า ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง
กลัวคนที่ได้ฟัง เขาจะหาว่า ลูกของเธอ เป็นลูกทรพี
เธอถามผมว่า….
หมอ….ทำไงดี?…..อยากจะฆ่าตัวตายแล้ว !!!
จากทั้งสองกรณีนี้ แสดงให้เห็นว่า เด็กเติบโตขึ้นมา
ในครอบครัวที่ " ไม่ได้สร้างวินัยให้แก่เด็กตั้งแต่เล็กๆ "
เด็กจึงเติบโตขึ้นมา มีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง
สังคมดี พูดเก่ง กีฬาเก่ง อาจจะเรียนเก่งด้วยก็ได้
" แต่ ขาดวินัยกับตัวเอง "
" ไม่มีการยอมรับกติกาของสังคม ของครอบครัว ของพ่อแม่ "
ซึ่ง ยิ่งเติบโตต่อไป
ก็จะไม่ยอมรับกติกาของสถาบันการศึกษา ของที่ทำงาน
และแม้แต่ กฏหมายบ้านเมือง
เรียกว่าเติบโตต่อไป
ทำงานก็ยาก อยู่ก็ยาก มีครอบครัวก็ยาก มีลูกก็ยาก
… ยากไปหมดทุกอย่าง แม้แต่อยู่คนเดียวก็ยาก
เผลอๆ ก็อาจทำผิดกฏหมายบ่อยๆโดยอ้างว่า
… ไม่เจตนา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก็เป็นเพราะ
" พ่อแม่ไม่ลงโทษ เมื่อเด็กทำผิดตั้งแต่เล็กๆ "
และ
" ไม่ชมเชย หรือให้รางวัลเมื่อเขาทำความดี "
ผมจำได้แม่นว่า เมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว มีการเชื่อกันมาก
เรื่อง การเลี้ยงลูกโดยไม่มีการลงโทษทางกาย
ซึ่งก็คือ การตีลูกนั่นเอง
พวกมีความรู้ระดับปริญญาโทขึ้นไป ครูบาอาจารย์ แพทย์
เชื่อถือกันมาก และเลี้ยงลูก โดยไม่ลงโทษโดยการตีเลย
แต่ จะบอกให้เด็กคิดเอง ให้เด็กมีอิสระในการแสดงออก
ซึ่งแลดูก็น่ารักดีหรอก ในตอนเด็กๆ
ในช่วงนั้นๆ ผมเคยถูกเชิญไปบรรยายพิเศษ
ให้สมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนสาธิตที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งฟัง
และผมก็ถูกถามเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ตอบในที่ประชุมเลยว่า
ผมไม่เห็นด้วยหรอก ที่ไม่มีการลงโทษเด็กทางกาย เมื่อทำผิด
ถ้าเป็นผม ผมจะตีเด็ก ใช้มือตีก้นเขาจะดีที่สุด ผมถูกหาว่า
… แหม หมอเหี้ยมจัง
แต่ผมเชื่อว่า
การถูกตี หรือการถูกลงโทษทางกาย ตั้งแต่เด็กๆนั้น
เด็กจะตระหนัก และรับรู้ถึงบทบาทของการลงโทษได้ดีกว่า
และเร็วกว่า การลงโทษทางจิตใจ และทางสังคม
เพราะเด็กนั้น เล็กเกินไปที่จะเข้าใจ และจะได้ใจด้วย
ผมยังพูดอีกด้วยว่า …
" จำไว้ ถ้าคุณไม่ลงโทษลูกของคุณเมื่อทำผิด "
" สักวันหนึ่ง สังคมจะลงโทษลูกของคุณ
ซึ่งจะเจ็บยิ่งกว่า ที่คุณลงโทษเขาเอง เสียอีก "
สิบกว่าปีผ่านไป
เด็กๆยุคนั้น ก็คงเติบโตเป็นวัยรุ่นกันในขณะนี้พอดี
ปัญหาเรื่องลูกวัยรุ่นนี้ ทำความปวดหัวมาให้กับพ่อแม่มาก
มีพ่อแม่ นำลูกวัยรุ่นมาปรึกษาผมที่คลินิกมากมาย
ท้งที่เจ้าตัวยอมมาหาเอง และจ้างกันมา
มีวัยรุ่นรายหนึ่งมาจากเยอรมัน
พ่อแม่ต้องจ้างให้มาหาผม ด้วยการซื้อเสื้อผ้าให้ 30 ชุด
ซึ่ง หลังจากมาหาพูดคุยกับผมแล้ว เขาบอกว่า ไม่ต้องจ้างก็ได้
เพราะ มาหาแล้ว คุยกับผมได้สนุกดี อยากมาคุยบ่อยๆ
โดยส่วนตัวผมเองแล้ว
ผมสนใจเรื่องของวัยรุ่น และกิจกรรมวัยรุ่นตลอดมา ในทุกๆรูปแบบ
และต้องเข้าใจ หรือตามให้ทันอยู่เสมอๆ
สมัยที่รับราชการอยู่ในโรงพยาบาล สังกัดกรมการแพทย์
ผมก็เป็นผู้ริเริ่มตั้งแผนกจิตเวชวัยรุ่นขึ้นมา เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
เพราะ มองเห็นความสำคัญของบุคคลในวัยนี้
ที่จะต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลือแนะนำหรือแก้ไข
โดยจิตแพทย์ หรือบุคลากรที่พร้อมจะเข้าใจจิตใจของพวกเขาโดยแท้จริง
และต้องทันสมัย ทันเหตุการณ์ด้วย
ในอเมริกา ก็จะมีแผนกจิตเวชวัยรุ่นนี้
อยู่ตามโรงเรียนแพทย์ใหญ่ๆ ที่ผมเคยได้ไปศึกษามา
วัยรุ่นที่มีปัญหาหลายๆราย ก็ช่วยเหลือได้
ทั้งในแง่เกเร ไม่เรียนหนังสือ ชอบหนีเที่ยว ติดยา
สำส่อนทางเพศ แปรปรวนทางเพศ ก้าวร้าว แยกตัว
ขาดความเชื่อมั่นตัวเอง กังวล ฯลฯ
บางราย ก็ช่วยเหลือได้ยากมาก เพราะเขาไม่อยากให้แพทย์ช่วย
และที่แน่นอนคือ พ่อแม่ต้องให้ความร่วมมือด้วย
แต่ ไม่อยากจะรอให้ถึงขั้นนี้หรอก
จะเจ็บด้วยกันทั้ง พ่อ แม่ ลูก
" จงมาตั้งใจอบรมลูก ให้มีวินัยตั้งแต่เด็กๆ ดีกว่าครับ "
จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่า " เลี้ยงลูกผิด "
ซึ่งถือว่า เป็นบาปบริสุทธิ์ชนิดหนึ่งก็ได้
หรือ อย่างที่ชาวบ้าน เขาเรียกกันว่า
#เป็นการเลี้ยงลูกให้เป็นทรพี_โดยไม่เจตนา ก็ได้
ผมหนาวในหัวใจจังครับ
นี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางการเลี้ยงลูก ซึ่ง พ่อแม่แต่ละบ้านย่อมมีการเลี้ยงที่แตกต่างกัน ขอให้เป็นตัวอย่างหนึ่ง และนำไปปรับใช้กันนะครับ ซึ่งทางเราได้ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 6114 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ส.ค. 62
เวลา 10:24:07
|