• ประมวลภาพประวัติศาสตร์ พิธียกยอดฉัตรทองคำ พระธาตุหริภุญชัยลําพูน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 15 ก.ย. 62 เวลา 22:03:14 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เครดิต Weenuwat Wattanasiri
๑๕ กันยายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๒.๓๐ น.พระเดชพระคุณ พระพรหมมงคล วิ. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระเดชพระคุณ พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน,เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร และมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ ประชาชน พุทธศาสนิกชน ในพิธียกยอดฉัตรทองคำ บัวคำยอดฉัตร ระฆังทองคำ ยอดพระบรมธาตุหริภุญชัย
โดยช่วงเช้า มีพิธีบวงสรวง แห่ผ้าห่มพระบรมธาตุ กล่าวคำอธิฐานถวายการบูรณะพระบรมธาตุ
ช่วงบ่ายมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีอัญเชิญยอดฉัตรทองคำ บัวคำยอดฉัตร ระฆังทองคำ ขึ้นสู่ยอดพระบรมธาตุหริภุญชัย ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน มีพุทธศาสนิกชน ประชาชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นหนึ่งในแปดจอมเจดีย์แห่งสยามประเทศ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นผู้บัญญัติคำว่า จอมเจดีย์ขึ้นมา โดยตรัสแก่สมเด็จพระวันรัต (กิตตโสภโณเถระ) เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ว่า "การที่ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งพระบวรพุทธศาสนา ทำให้มีพุทธสถานกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีอายุและแบบศิลปกรรมแตกต่างกันตามคตินิยมและยุคสมัย ในบรรดาปูชนียสถานนับร้อยนับพันมีเพียง ๘ แห่งเท่านั้นที่ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็น จอมเจดีย์แห่งสยาม"
๑.พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
๒.พระมหาธาตุเมืองละโว้
๓.พระธาตุหริภุญชัย
๔.พระธาตุพนม
๕.พระศรีรัตนมหาธาตุเมืองเชลียง
๖.พระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช
๗.พระมหาธาตุเมืองศรีสัชนาลัย
๘.พระเจดีย์ชัยมงคลวัดใหญ่
พระบรมธาตุหริภุญชัยมีลักษณะประกอบด้วยฐานปัทม์แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้นรับฐานบัวซึ่งมีลักษณะคล้าย มาลัยเถาสามชั้นซึ่งตั้งรับองค์ระฆังกลม องค์ระฆังประดับด้วยลวดลายดอกไม้สี่กลีบระหว่างลายดอกไม้สี่กลีบนั้นมีการดุนนูนเป็นภาพพระพุทธรูป รอบองค์ระฆังซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน เหนือขึ้นไปเป็นบัลลังก์ย่อมุม ส่วนบนเป็นปล้องไฉน ปลียอดเหนือสุดทำเป็นฉัตรเก้าชั้น นอกจากนี้พระเจ้าติโลกราช ได้โปรดให้ก่อกำแพงโดยรอบเขตพุทธาวาสเพื่อเป็นการป้องกันรักษาองค์พระธาตุอีกชั้นหนึ่ง ทั้งยังทรงให้ก่อสร้างซุ้มประตูโขงประดับด้วยลวดลายปูนปั้นอย่างงดงามทางประตูด้านทิศตะวันออกหน้าวิหารหลวงทางทิศเหนือและทางทิศใต้และ ทิศตะวันตก ปัจจุบันคงเหลือแต่ซุ้มประตูโขง ทางทิศตะวันออก และทางด้านทิศใต้ปี พ.ศ.๒๐๕๔ พระเมืองแก้ว กษัตริย์นครเชียงใหม่โปรดให้หุ้มบุองค์พระธาตุ ด้วยแผ่นทองจังโกฐ ที่เป็นแผ่นทองแดง และทรงให้ปิดทองทั้งหมดพร้อมๆ กับโปรดให้สร้างระเบียงหอก ทำด้วยทองเหลืองซึ่งสั่งทำจากเมืองเชียงแสนขึ้นเป็นรั้วล้อมโดยรอบขององค์พระธาตุด้วย โปรดให้สร้างวิหารหลวงทางด้านทิศตะวันออกขององค์พระธาตุหริภุญชัยเป็นศิลปะล้านนา นอกจากนี้ยังสร้างกำแพงเมือง และขุดคูโดยรอบกำแพงเมืองใหม่ขึ้น เป็นการย่นย่อตัวเมืองหริภุญชัยให้มีขนาดเล็กลงเพื่อเป็นการสะดวกที่จะดูแลรักษาองค์พระธาตุให้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในการสร้างกำแพงเมืองในครั้งนี้ทำให้วัดสี่มุมเมืองที่สำคัญและสร้างขึ้นในสมัยของพระนางจามเทวีกลายเป็นวัดนอกเมืองลำพูนไป ในปี พ.ศ.๒๓๒๙ ในสมัยของพระเจ้ากาวิละเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ได้มีพระราชศรัธทาตั้งฉัตรหลวงสี่มุม และยกฉัตรยอดเป็นทองคำเนื้อเจ็ด ฐานฉัตรกว้าง ๑ เมตร พระธาตุเจ้าหริภุญชัยเป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวลำพูน ชาวเมืองเหนือตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ มาแต่โบราณกาลตราบเท่าทุกวันนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4798 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 ก.ย. 62
เวลา 22:03:14
|