• ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ไวรัสต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด หากรุนแรงเสียชีวิต ไวรัสก็ตายเช่นเดียวกัน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 01 ก.พ. 63 เวลา 12:56:40 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้

วันนี้ 1 ก.พ.63 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก @Yong Poovorawan คาดการณ์การระบาดของโรคปอดบวมอู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยระบุว่า
โรคปอดบวมอู่ฮั่น โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไวรัสวิทยา
โดยธรรมชาติแล้วสิ่งมีชีวิต หรือ ไวรัสจะต้องมีการปรับตัว หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะถ้ารุนแรงจนเสียชีวิต ไวรัสก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน
สมัยก่อน การทำวัคซีนในการป้องกัน เช่นโปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม ก็พยายามใช้ไวรัสจากผู้ป่วย แล้วนำมาเพาะเชื้อ โดยผ่านการติดเชื้อหลายๆครั้ง ไปนานๆ หรือผ่านเข้าสัตว์ทดลอง หลายๆครั้ง ก็จะพบว่าไวรัสจะอ่อนฤทธิ์ลง เพื่อปรับตัวเข้ากับสิ่งมีชีวิตนั้น เราจึงได้โปลิโอวัคซีน MMR ชนิดอ่อนฤทธิ์ หรือ เมื่อติดเชื้อแล้วไม่ ก่อโรค แต่ทำให้เกิดภูมิต้านทาน ใช้ป้องกันการติดเชื้อต่อมา
ในขณะเดียวกัน ไวรัสก็คงไม่ต้องการให้ Host ที่ไปอาศัยอยู่ เสียชีวิต เพราะไวรัสก็อยู่ไม่ได้ จึงทำให้มีไวรัสหลายชนิดสามารถอยู่กับ host ได้ไปตลอด
ด้วยเหตุนี้เมื่อไวรัสอุบัติใหม่เกิดขึ้นในมนุษย์ ในระยะแรกเราจะเห็นว่ามีความรุนแรง ทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้ แต่ต่อไปก็คงจะต้องมีการปรับตัว เพื่อความคงอยู่ของตัวไวรัสเองด้วย
ไวรัสที่ก่อโรคในมนุษย์ที่รุนแรง ก็มักจะถูกควบคุมได้ง่าย ตรงข้ามกับไวรัสที่ก่อโรคไม่รุนแรง ก็จะขยายเป็นวงกว้างได้และในที่สุด ปรับตัวอยู่ประจำถิ่น หรือเกิดโรคตามฤดูกาล
ในทำนองเดียวกัน จึงทำให้เชื่อว่า โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เมื่อติดเชื้อในผู้ป่วย ถ้าอาการไม่รุนแรงก็จะมีโอกาสแพร่เชื้อไปได้มากกว่า โดยเฉพาะผู้ป่วยบางรายมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ถ้าไม่ได้ตรวจก็จะไม่ทราบว่ามีไวรัสอยู่ จึงมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้ในวงกว้าง
โรคเกี่ยวกับไวรัสที่ติดเชื้อในทางเดินหายใจ มีเป็นจำนวนมาก และมักจะเป็นปัญหาในเด็ก ที่ทำให้เกิดหวัด หลอดลมอักเสบ เจ็บคอ ถ้าไม่ได้ตรวจก็จะไม่รู้เลยว่าเป็นตัวไหน เราก็จะรักษาตามอาการ เด็กก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น และ จะป้องกันการติดเชื้อในผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ใหญ่เป็นโรคได้น้อยกว่าในเด็ก
โคโรนาไวรัสที่พบอยู่ในเด็กเดิม จึงมีอาการไม่รุนแรง และไม่ค่อยมีผู้ใดให้ความสนใจ เพราะรู้ว่า จะหายเอง
โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ เชื่อว่าไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับ SARS และ MERS จึงสามารถระบาดไปได้กว้างแบบนี้ และต้องยอมรับว่า การป้องกันการแพร่ระบาด จะทำได้ยากกว่า SARS
ในการระบาดเพียง 2 เดือน จำนวนผู้ป่วยที่รายงานยืนยันการตรวจเชื้อก็มากกว่า SARS ไปไกลแล้ว
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1042 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ก.พ. 63
เวลา 12:56:40
|