มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายของการชิงชัย ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ตะกร้อ ชิง 2 เหรียญทอง ในประเภทคู่ เริ่มจากหญิงคู่ เซต 21-16, 21-15 คะแนน ส่วนทีมไทย เอาชนะ เวียดนาม ไปได้ในรอบชิงฯ 2-0ชายคู่ ไทยเอาชนะอินโดนีเซียไปได้แบบไม่ยากเย็นนักในรอบชิงฯ 2-0 เซต 21-13, 21-17 คะแนน ทำให้ทีมตะกร้อไทยเก็บเพิ่มได้อีก 2 เหรียญทอง รวมกับก่อนหน้านี้ที่ได้ 6 เหรียญทอง จากตะกร้อลอดห่วงชายหญิงทีมชุดชายหญิง และทีมเดี่ยวชายหญิง ทำให้ตะกร้อไทยกวาดไปเรียบวุธถึง 8 เหรียญทองด้วยกัน
พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประธานสหพันธ์ ตะกร้อโลก และนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่ทีมไทยคว้าเหรียญทองถึง 8 เหรียญ นับเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวัง แต่รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียถอนทีมออกจากการ แข่งขันครั้งนี้ ทำให้ขาดสีสันไปบ้าง และสาเหตุที่ทั้ง 2 ชาติถอนทีมนั้น คิดว่าไม่ใช่เรื่องลูกตะกร้อ เพราะเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการหารือมาตลอด ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องตัวนักกีฬามากกว่า เพราะนักกีฬาของมาเลเซียชุดนี้เป็นหน้าใหม่ทั้งทีม ซึ่งเมื่อเทียบกับทุกชาติแล้วต่างกันลิบลับ ไม่ต้องถึงทีมไทยแค่ทีมอินโดนีเซีย ตนคิดว่ามาเลเซียก็สู้ไม่ได้แน่นอน ตรงนี้จึงทำให้ทางมาเลเซียจำต้องถอนทีมดีกว่าปล่อยให้เล่นแล้วแพ้แบบไม่ มีลุ้น ซึ่งตรงนั้นจะทำให้ขายหน้ามากกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องการถอนทีมของมาเลเซียและพม่า สหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติได้เรียกคณะกรรมการบริหารประชุมเป็นการด่วน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนบทลงโทษจะเป็นเช่นไรต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโอลิมปิกสากลที่มี หน้าที่โดยตรง คาดว่าจะรู้ผลเร็วๆนี้
วอลเลย์บอลชายหาดชิง 2 เหรียญทอง ไทยได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดยทีมหญิง รอบชิงฯเป็นการแย่งแชมป์กันเองของคู่ไทย ผลปรากฏว่า กมลทิพย์ กุลนา กับยุพา ภูครองพลอย เอาชนะจารุณี สารนอก กับอุษา เต็นปักษี ไป 2-1 เซต 23-21, 17-21, 16-14 คะแนน ขณะที่ทีมชาย รอบชิงฯ สถาพร สว่างเรือง กับบวร ยังถิ่น ของไทย แพ้ให้กับแอนดี้ อาดียาซา กับโกโก้ ดาคุนโคโร จากอินโดนีเซีย 0-2 เซต 17-21, 19-21 คะแนน
ขี่ม้า ชิง 2 เหรียญทอง ไทยได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน โดย 2 เหรียญทอง ได้จากนิน่า ลิกอน สาวน้อยวัย 16 ปี ที่ติดทีมซีเกมส์ครั้งแรก ซึ่งควบม้าคู่ใจแปซิฟิก สตรอม ทำคะแนนได้มากกว่าใคร และทีมอีเวนติ้งของไทย ที่ประกอบไปด้วยนิน่า ลิกอน ธานินทร์ พิชัยการ วีรภัฎ ปฎิกานนท์ และวิศรุต ต่างพันธุ์ ส่วนเหรียญเงินได้จากวิศรุต ต่างพันธ์ ในประเภทบุคคลอีเวนติ้ง
ขี่ม้าโปโล ชิง 1 เหรียญทอง ไทยได้ 1 เหรียญทองแดง รอบชิงอันดับ 3 ไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 7 ครึ่ง ต่อ 2 ส่วนเหรียญทองเป็นของมาเลเซีย ที่ชนะสิงคโปร์ 9 ต่อ 3 ครึ่ง
ยิมนาสติกลีลา ชิง 4 เหรียญทอง ไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน โดยเหรียญทองได้จากธาราทิพย์ ศรีดี ประเภทห่วง ส่วนเหรียญเงินได้จากธาราทิพย์ ศรีดี ประเภทคฑา ริบบิ้น และเชือก ทำให้ธาราทิพย์ ศรีดี ได้ไปคนเดียว 2 เหรียญทอง
เทนนิส ชิง 3 เหรียญทอง ไทยได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง โดยเหรียญทองได้จากชายคู่ สนฉัตร รติวัฒน์ กับสรรค์ชัย รติวัฒน์ ที่รอบชิงฯ ชนะ เฟเดอริก ไตโน กับเซซิล มาริต คู่จากฟิลิปปินส์ 2-0 เซต 6-2, 6-4, หญิงคู่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ กับนภาพร ตงสาลี ที่รอบชิงฯ ชนะ แซนดี้ กูมุลยา กับโรมานา เทดจากูซูมา จากอินโดนีเซีย 2-0 เซต 6-2, 6-3, คู่ผสม สรรค์ชัย รติวัฒน์ กับนภาพร ตงสาลี ที่รอบชิงฯ ชนะ เซซิล มาริต กับเดนิเซา คู่จากฟิลิปปินส์ 2-0 เซต 6-4, 7-6 (3) ส่วนเหรียญทองแดง ได้จากหญิงคู่ สุชานันท์ วิรัชประเสริฐ กับหนึ่งนัดดา วรรณสุข, คู่ผสม สนฉัตร รติวัฒน์ กับแทมมารีน ธนสุกาญจน์
โดยในวันสุดท้ายทัพนักกีฬาไทยทำเพิ่มได้อีก 9 เหรียญทอง ทำให้ยอดรวมเหรียญของไทยอยู่ที่ 183 เหรียญทอง ครองความเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์
ครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ ไม่มีใครสู้ได้ และได้เป็นเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 10 มากที่สุด หนีอินโดนีเซียที่ได้ 9 สมัยออกไป พร้อมทำลายสถิติเมื่อครั้งซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ ปี 2538 ที่ไทยเราเคยทำได้มากที่สุด 157 เหรียญทองลงอย่างราบคาบ โดยครั้งนี้มีมาเลเซียตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 68 เหรียญทอง
จากยอดเหรียญรางวัลรวมของนักกีฬาไทยที่ทำได้ 183 เหรียญทอง 123 เหรียญเงิน 103 เหรียญทองแดง ในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์เงินรางวัลของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่กำหนดไว้ที่เหรียญทอง 2 แสนบาท เหรียญเงิน 1 แสนบาท และเหรียญทองแดง 5 หมื่นบาท ผู้ฝึกสอนได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ สมาคมกีฬา 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ยอดเงินรางวัลของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทยรวมแล้วเป็นเงินประมาณ 168 ล้านบาท แบ่งออกเป็นนักกีฬา ประมาณ 113 ล้านบาท และผู้ฝึกสอนกับสมาคมกีฬา ประมาณ 55 ล้านบาท โดยสมาคมที่ได้เงินรางวัลอัดฉีดไปมากที่สุด คือสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งได้ไป 4 เหรียญทอง ฟุตบอลชาย-หญิง และฟุตซอลชาย-หญิง ได้ไปรวมทั้งสิ้น 20.4 ล้านบาท
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์
คมชัดลึก
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม