ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
 
ได้จัดเสวนาทางวิชาการ “เกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้งปี 50 โค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งจะมีหมาหอนหรือหมาหลับ?“ โดยมีนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ยืนยันว่ากกต.มีจุดยืนในการรักษาความเป็นกลางในการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล คมช. หรืออดีต คมช. ก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ และถ้า กกต. ไม่มีจุดยืนในการทำงาน คงจะมีการฟ้องร้องว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และยืนยันว่า กกต.มีหน้าที่ที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเลียงนั้นตนคิดว่า คงจะทำอย่างโจ่งแจ้งเหมือนในอดีตค่อนข้างยาก เพราะกติกาใหม่ค่อนข้างเข้มงวด มีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมือง และ กกต. ได้พยายามแก้ไขกฎหมายทั้งในส่วนผู้รับและผู้ให้ พร้อมทั้งยืนยันว่ากกต.พิจารณาเรื่องต่าง ๆ โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามตนเรียกร้องประชาชนเลิกการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพื่อไปสู่การเมืองมิติใหม่และความสมานฉันท์

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ( ครป.) กล่าวว่า

การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในภาวะฉุกละหุก ทางการเมือง และยังมีการแปลความหมายว่าการเลือกตั้งจะเป็นการเลือกว่าเอาหรือไม่เอา รัฐบาลทักษิณ ไม่ใช่เป็นการเลือกรัฐบาลใหม่หรือแข่งขันกันด้วยนโยบาย นอกจากนั้นการเลือกตั้งยังอยู่บนความขัดแย้งทางการเมือง จึงยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาทางการเมืองได้ อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่าการซื้อสิทธิขายเสียงในทางการเมืองนั้น ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะกับคนจน ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีการจะแจกใบเหลืองใบแดงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะกฎหมาย การเลือกตั้งค่อนข้างเข้มงวด ปัญหาคาราคาซังกรณียุบพรรคไทยรักไทย การแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองค่อนข้างสูง รวมทั้งกกต. เป็นนักกฎหมายคงจะใช้หลักนิติศาสตร์ในการพิจารณาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการแบ่งฝ่ายของประชาชนค่อนข้างสูงทำให้เกิดมีการจับผิดกันค่อนข้างมาก.