นายพงษ์ชัย มูลรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว กรณีพนักงานบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.ได้เดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัว ณ โรงแรมดีวารี จังหวัดระยอง ซึ่ง เป็นสถานที่เดียวกับคณะทหารจากประเทศอียิปต์ และพบว่ามีผู้ติดเชื้อโรค COMD -19 นั้น ขอนำเรียนชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องตาม Time Line ดังนี้ วันที่ 4 กรกฎาคม ๒๕๕๓ พนักงานของศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวไปพักผ่อนกับครอบครัว ณ จังหวัดระยอง และได้เข้าพัก ณ โรงแรมตีวารี (ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ) โดยระหว่างการเข้าพัก ได้ปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค CoviD 19 มีการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด

และสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ วันที่1 2 กรกฎาคม 2563 พนักงานและครอบครัวเดินทางกลับจากจังหวัดระยองมายังจังหวัดเชียงใหม่โดยรถยนต์ส่วนตัว

วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒.

พนักงานและครอบครัวพักผ่อนอยู่ที่บ้านพัก โดยไม่มีการเดินทางไปสถานที่อื่น ๆ แต่อย่างใด วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ พนักงานมาปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ตามปกติ เมื่อรับทราบข่าวการติดเชื้อของ ทหารจากประเทศอียิปต์จากสื่อ ทำให้ทราบว่าตนเองนั้นเข้าพักโรงแรมเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน แต่พักคนละชั้น กับคณะนายทหารดังกล่าว (โดยพนักงานพักชั้นที่ ๕) จากนั้นจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา ตามมาตรการป้องกันและ แก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ บวท. และได้รับสั่งการให้หยุดปฏิบัติงานทันที วันที่ 14 กรกฎาคม 63) บวท. ได้ติดต่อไปยัง นายแพทย์กิตติพันธ์ ฉลอม ผู้ช่วยสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ด้านโรคระบาด ได้รับคำแนะนำว่า การนับระยะการ Quarantine นั้น ให้นับหลังจากวันกลับมา ซึ่งพนักงานเดินทางกลับมาถึงจังหวัด เชียงใหม่ในวันที่ 12ก.ค.63จึงนับวันที่ ๑๒ .ค. ๖๓ เป็นวันที่ ๑ ของการเริ่มกักตัว ในระยะเวลา ๑๔ วัน สำหรับระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจหาเชื้อ Covid 19 ตามคำแนะนำของสาธารณสุข คือใน ระยะเวลา ๕ วัน หลังจากได้รับเชื้อ และทางสาธารณสุขจังหวัดได้ประสานให้สาธารณสุขในพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ติดต่อไปยังพนักงาน โดยสาธารณสุขได้แนะนำให้พนักงานและครอบครัวกักตัวที่บ้านเป็น Home Quarantine และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะไปตรวจเยี่ยมติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายแพทย์กิตติพันธ์ ๆ แจ้งว่า กลุ่มพนักงานที่ เข้าเวรวันเดียวกันกับพนักงานคนนี้นั้น ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ยังไม่ต้องรับการตรวจ

สำหรับการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ บวท. ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ ได้ดำเนินการ ดังนี้

 

๑ทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในสำนักงานทั้งหมดทุกห้อง และติดตั้งเสปรย์พ่นอัติโนมัติเพื่อฆ่าเชื้อโรคแบบ เตียงกับที่ใช้งานในโรงพยาบาลโดยติดตั้งใช้งาน ณ ห้องปฏิบัติการที่พนักงานนั่งทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๒ให้พนักงานที่ปฏิบัติงานในเวลาปกติ (Day Work) กลับบ้านและปฏิบัติงานแบบ Work Form Home (WFH) จนกว่าจะได้รับผลการตรวจหาเชื้อจาก โรงพยาบาลของพนักงานที่ กลับจากจังหวัดระยอง

๓. จัดเตรียมอุปกรณ์ น้ำยาฆ่าเชื้อ เจลแอลกอฮอล์ สำหรับ พนักงานใช้งานทุกจุด โดยใช้ผลิตภันฑ์ที่ เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในโรงพยาบาล

๔. ประสานงานกับ โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ เพื่ออ้านวยความสะดวกและดูแลพนักงานกรณีมีความจำเป็นใดๆ

๕. ให้พนักงานที่เข้าเวรวันเดียวกันกับพนักงานที่กลับจากจังหวัดระยอง หยุดปฏิบัติงานและ Home Quarantine เป็นเวลา ๑๔ วัน เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค ณ ห้องปฏิบัติงาน ๒๔ ชั่วโมง เวลา ๐๖.๓๐ น. ก่อนมีการผลัดเปลี่ยนเวร ๒. พนักงานและครอบครัว เดินทางไปตรวจหาเชื้อ Covid 19 ที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอซึ่งมี แล็ปที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาล ในเวลา 0๐.00 นโดยเป็นการตรวจแบบ Drive Trough ซึ่งจะทราบผลภายใน ๒๔ ชั่วโมง ทั้งนี้ บวท. ยืนยันว่าจะดำเนินการ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบการป้องกันและควบคุมโรคของ สาธารณสุข ตลอดจนติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อ ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค Covid 19 ในขณะเดียวกัน บวท. มีความพร้อมให้บริการการเดินอากาศตามมาตรฐาน ICAO อย่างประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของ ทุกเที่ยวบิน

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV