• สธ.แถลง หญิงไทย2ราย ตรวจรายแรกพบซากไวรัส ไม่แพร่เชื้อ อีกรายขอตรวจซ้ำ ย้ำโอกาสติดเชื้อในประเทศค่อนข้างน้อย |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 19 ส.ค. 63 เวลา 23:13:41 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สธ.แถลงร่วม รพ.รามาฯ ตรวจรายแรกพบซากไวรัส ไม่แพร่เชื้อ อีกรายขอตรวจซ้ำ!
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค และ ร.พ.รามาธิบดี ร่วมดำเนินการตรวจสอบกรณีหญิงไทย 2 ราย ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19 ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ขณะนี้ได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่ผู้อยู่ใกล้ชิดในครอบครัวและชุมชนแล้ว
วันนี้ (19 สิงหาคม 2563) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และรศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพบหญิงไทยตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19 ขณะเตรียมตัวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ตามที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ทำการตรวจสุขภาพหญิงไทย 2 ราย อายุ 34 และ 35 ปี ซึ่งมาขอใบรับรองแพทย์ประกอบการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทางห้องปฏิบัติการ และผลพบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย จากข้อมูลการสอบถามทั้งสองรายนี้ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการป่วยทางเดินหายใจ และอยู่ระหว่างการส่งตัวอย่างตรวจยืนยันด้วยวิธีการเพาะเชื้อ เพื่อประกอบการสรุปผลการวินิจฉัยต่อไป โดยขณะนี้ทั้งสองรายอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล โดยได้แจ้งข้อมูลให้กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทราบและตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
รศ.นพ.สุรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่ารายแรก เป็นเพศหญิง อายุ 34 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางกลับมาไทยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 63 ไม่มีอาการ เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนด 2 สัปดาห์ ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ครั้งที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย. ตรวจพบสารพันธุกรรมปริมาณน้อย สรุปผลการตรวจหาเชื้อกำกวม (Inconclusive result) และตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย. ผลไม่พบเชื้อ เมื่อกักกันครบ 2 สัปดาห์ ได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา จังหวัดชัยภูมิ และพักแยกตัวจนครบ 30 วัน ต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. 63 เตรียมตัวเดินทางต่างประเทศ จึงได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ร.พ.รามาธิบดี ผลการตรวจวันที่ 18 ส.ค. 63 พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 19 ในปริมาณน้อย และเจาะเลือดตรวจพบภูมิคุ้มกัน ขณะนี้แพทย์รับไว้ดูแลในโรงพยาบาล จึงสรุปว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายเดิมที่พบซากเชื้อและเคยอยู่ในสถานที่กักกันจนครบกำหนดแล้ว
ส่วนในรายที่ 2 เป็นเพศหญิง อายุ 35 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 63 เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนดนาน 2 สัปดาห์ ทำการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ จึงได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา จังหวัดเลย จากนั้นวันที่ 16 ส.ค. 63 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และในวันที่ 18 ส.ค. 63 ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 พบสารพันธุกรรม ขณะนี้ทางร.พ.รามาธิบดี ได้ติดตามนำตัวมาไว้ดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ จากข้อมูลระบาดวิทยา คาดว่าเป็นการติดเชื้อในประเทศได้น้อยมาก เพราะเราไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศมา 80 กว่าวัน อย่างไรก็ตาม ต้องทำการตรวจสอบโดยกระบวนการเดียวกับรายแรก เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า หลังจากได้รับรายงานในเรื่องนี้ ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค ของกรมควบคุมโรค ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นเพื่อให้ได้ประวัติเสี่ยง และผู้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงสองรายนี้ ขณะนี้ได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้อยู่ใกล้ชิดในครอบครัวและชุมชน พร้อมสอบสวนเพิ่มเติมและแนะนำให้เฝ้าระวังอาการ ปฏิบัติตัวป้องกันโรค ต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีระบบเข้มแข็ง และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อสอบสวนและควบคุมโรคดังกล่าว และขอให้ประชาชนดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องเช่นเดิม “สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด" หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ข้อมูลจาก : กองระบาดวิทยา/ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1093 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 19 ส.ค. 63
เวลา 23:13:41
|