กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เครดิต สวท. 95fm ลำพูน
ข่าวดี มติ ครม. 25 สิงหาคม 63 เคาะเยียวยาชาวสวนลำไย ไร่ละ 2 พันบาท-ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่ 15 กันยายนนี้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ หรือฟรุตบอร์ด (Fruit Board) ที่รับแจ้งจากสภาอาชีพเกษตรกรและมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะเลขานุการฟรุตบอร์ดเสนอโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยปี 2563 เพื่อช่วยเหลือชาวสวนให้สามารถฟื้นฟูการผลิตลำไยที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนแล้งทำให้ลำไยออกดอกและติดผลมากแต่ลำไยไม่ได้คุณภาพรวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายของโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือนประมาณ 200,000 ครัวเรือนโดยพื้นที่ไม่เกิน 1,200,000 ไร่และเป็นพื้นที่สวนลำไยที่ให้ผลผลิตแล้วหรืออายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ โดยได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยอย่างทั่วถึงเป็นธรรมและตรวจสอบได้เพื่อป้องกันการทุจริตอีกด้วย
ทั้งนี้ลำไยถือเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยเนื่องจากมีศักยภาพการผลิตค่อนข้างสูงโดยปี 2562 มีผลผลิตจำนวน 1,011,276 ตัน มูลค่าการส่งออกลำไยสด 583,297 ตัน คิดเป็น 20,812 ล้านบาท,ลำไยอบแห้ง 164,575 ตัน คิดเป็น 8,780 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักสำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย
สำหรับเงื่อนไขการรับแจ้งยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการเยียวยาชาวสวนลำไยปี 2563 นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่าเกษตรกรต้องมีสัญชาติไทย,บรรลุนิติภาวะแล้ว,เป็นหัวหน้าครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยกับกรมส่งเสริมการเกษตรภายในวันที่15 กันยายน 2563 ทั้งในกลุ่มเกษตรกรรายใหม่ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนและกลุ่มเกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้หรือก่อนมีมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ขอให้มาปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันภายในห้วงเวลาเดียวกัน
ส่วนเอกสารและหลักฐานใช้ขึ้นทะเบียน ได้แก่ บัตรประชาชน,ทะเบียนบ้าน,สำเนาเอกสารสิทธิ์ (ถ้ามี) สำหรับทะเบียนบ้านที่นำมาขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะต้องมีการกำหนดบ้านเลขที่และกรณีย้ายเข้าทะเบียนบ้านใหม่ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของกระทรวงมหาดไทยก่อนวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561
ขณะที่การจ่ายเงินให้เกษตรกรจะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|