• ขู่ฆ่าเหยื่อแชร์ข้าวให้ข้อมูลดีเอสไอ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 20 ธ.ค. 50 เวลา 10:07:37 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
บริษัทแชร์ข้าวสาร เหิมเกริมหนัก ส่งคนข่มขู่เอาชีวิตเหยื่อ ห้ามแจ้งความ ด้านดีเอสไอ ลุยสอบสวนต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้เสียหายกว่า 2 พันราย มูลค่าความเสียหาย 200 ล้านบาท เผยมีเหยื่อที่ยังไม่เข้าแจ้งความกับทาง ดีเอสไอ อีกร่วมพันรายผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้ามาดำเนินการควบคุมคดี ก็มีกลุ่มประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อแชร์ข้าวสารทยอยกันเข้ามาแจ้งความและให้ความร่วมมือกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งสองแห่ง ทั้งของบริษัทร่วมทุนค้าปลีก จำกัด ของท้องที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
และของบริษัทสมคิดธุรกิจ จำกัดของท้องที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยของบริษัทร่วมทุนค้าปลีกฯ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบสวนแล้วออกหมายจับตัวนายรชต ชวาลาอกนิษฐ์ พร้อมกับพวกโดยชุดแรกออกไปจำนวน 4 คน และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.50 มีการออกหมายจับเพิ่มอีกจำนวน 4 คน เป็น 8 คน และขยายผลการยึดทรัพย์ไปยังบ้านนายรชต และญาติ ที่กรุงเทพ ส่วนของบริษัทสมคิดธุรกิจฯ ยังออกหมายจับตัวนายสมคิด ตั้งตัวเพียงคนเดียว และผู้ร่วมขบวนการแชร์ข้าวสารของทั้งสองกลุ่มยังคงวนเวียนเจรจากับแกนนำชาวบ้านเพื่อของเคลีย์เงินและไม่ให้เข้าแจ้งความกับตำรวจเพิ่มขึ้นมาอีก
นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกขบวนการแชร์ข้าวสารเข้าไปทำการข่มขู่เอาชีวิตกับแกนนำเหยื่อที่ชักชวนชาวบ้านให้เข้ามาแจ้งความกับทางตำรวจและดีเอสไอ จนมีการเข้าแจ้งความขอคุ้มครองชีวิตหลายคน จนเกิดหวาดผวาไม่กล้าแจ้งความกันจำนวนมาก เพราะทราบว่ามีการจ้างกลุ่มอันธพาลเข้ามาข่มขู่ชาวบ้านและยังให้คำสัญญาว่าหากไม่เข้าแจ้งความก็จะยังจะได้รับเงินคืนบางส่วนด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ธ.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับทาง พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ชูกิจคุณ ผบช.ภ.5 ว่าได้รับแจ้งในเรื่องนี้หรือไม่และจะมีการสั่งดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มแชร์ข้าวสารที่ยังคงเหิมเกริมอยู่ พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ได้เปิดเผยว่าเรื่องแชร์ข้าวสารในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปแล้ว มันสืบเนื่องมาจากอะไรก็คาดเดาได้ยาก เพราะสถานการณ์เช่นนี้ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อที่จะหากำไร ในเรื่องของแชร์ข้าวสารที่เกิดขึ้นในส่วนของตำรวจภูธรภาค 5 มันก็มีอยู่หลายแห่งทางตำรวจก็พยายามสกัดเสียก่อนที่จะลุกลาม
เราทำทุกวิถีทาง ส่วนใหญ่ปัจจุบันทางตำรวจเริ่มได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายแล้ว อาจจะกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ เกรงว่ากลุ่มเหยื่อทั้งหลายจะมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ให้กับตำรวจ ซึ่งจริงๆ แล้วทางตำรวจมีข้อมูลที่พร้อมแล้วถึงวิธีดำเนินการของเขา ว่ามีใครบ้าง เรามีไว้หมดแล้ว การที่เขาจะไปข่มขู่ผู้เสียหายมันไม่มีประโยชน์ เพราะเราเพียงแต่ซักถามเขาเรื่องทั่วไปว่า พวกเขาทำอย่างไรกับใครแค่ไหน แต่รายละเอียดข้อมูลเบื้องลึกทั้งหมด มันอยู่ในมือตำรวจทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นในการที่จะมีการข่มขู่ก็คงจะมีบ้างในลักษณะที่วนเวียนไปดู แต่คงไม่ถึงขนาดที่จะไปทำร้ายอะไรหรอก ถึงไปทำร้ายใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่มีผลต่อคดี แต่สำหรับใครที่ได้รับความเดือดร้อนถูกข่มขู่ ทางตนก็พร้อมที่จะจัดตำรวจไปดูแลความปลอดภัยให้ แต่ในขณะนี้ยังไม่การร้องขอเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ คนหนึ่งได้เปิดเผยว่าในขณะกลุ่มหัวหน้าสาย จำนวนมากยังไม่มาพบกับทางพนักงานสอบสวน โดยกลุ่มคนพวกนี้ทราบว่ายังคงติดต่อกับทางแกนนำบริษัทอยู่ และมีจำนวนหลายคนที่ยังเก็บเงินที่ได้จากลูกแชร์ไว้กับตัวเอง จึงไม่กล้าจะเข้ามาพบทางดีเอสไอ
ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นมีความผิดสมรู้ร่วมคิด ก็จะต้องถูกออกหมายจับกุมในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยและหัวหน้าสายบางคนที่ยังอยู่ตามหมู่บ้านก็ยังคงวิ่งเคลีย์ชาวบ้านไม่ให้เข้าแจ้งความโดยบอกว่ายังคงสามารถเจรจากับฝ่ายผู้บริหารบริษัทได้และมีการทยอยนัดจ่ายเงินคืนไปบางกลุ่มแล้ว จนชาวบ้านไม่กล้าเข้าแจ้งเพิ่ม สำหรับบริษัทแชร์ขนาดเล็กที่ทางตำรวจเข้าจับกุมก่อนจะบานปลายบริษัทเหล่านี้มีการวิ่งเคลีย์เงินจนทำให้ยอดไม่ถึงที่จะแจ้งให้ทางดีเอสไอเข้ามาดำเนินสอบสวนได้มีอยู่อีกหลายแห่งในเชียงใหม่
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1368 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 20 ธ.ค. 50
เวลา 10:07:37
|