• เชียงใหม่เข้ม! ให้คนเดินทางจากพื้นที่ระบาด ต้องรายงานตัว!! ฝ่าฝืนมีโทษ |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 29 ธ.ค. 63 เวลา 23:46:12 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้

สามารถติดตามข้อมูลอัปเดตพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ระบาด ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ สสจ.เชียงใหม่ ค่ะ https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/coronavirus_situation.php
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สสจ.เชียงใหม่ 084-8052121, 084-8053131
ตามที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในคราวประชุมครั้งที่ ๗๗/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ประชุมได้มีมติเห็นขอบ ให้กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการ แพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และความจำเป็นของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งที่ ๓๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ กำหนดมาตรการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ของบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นั้น
ในการนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในคราวประชุมครั้งที่ ๗๘/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ให้กำหนดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม ในการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิต 19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของ ประเทศไทย และเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๔ และข้อ ๗ (๑) ของข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๕๔ (ฉบับที่ ๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงกำหนดมาตรการดำเนินการป้องกันการแพร่ ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ของบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ดังนี้
ข้อ ๑ ให้ผู้ที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดเขียงใหม่ทุกช่องทาง ต้องกรอกข้อมูลลงใน
แอปพลิเคชัน "CM-CHANA" เพื่อติดตามตัว
ข้อ ๒ ให้ผู้ที่สัมผัสกับผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 หรือมีประวัติ เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด หรือ พื้นที่เสี่ยงตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่กำหนด (สามารถ อัพเดทได้ที่ลิงค์ https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/coronavirus_situation.php ) เมื่อเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ และเข้ารับ การตรวจเพื่อหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ตามความเห็นของแพทย์ที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มอบหมาย โดยต้องกักกันตนเอง (Home Quarantine) เป็น ระยะเวลา ๑๔ วัน
ข้อ ๓ ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดที่มีการระบาด นอกเหนือจากที่คณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่กำหนด เมื่อเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดเขียงใหม่ ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำในการตรวจเพื่อหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิต 19 ตามความสมัครใจของผู้เดินทาง และต้องสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด (Self monitoring) หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าพนักงานโรคติดต่อในพื้นที่ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจรักษา ในโรงพยาบาล
การรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ สำหรับอำเภอเมืองเชียงใหม่ ให้ติดต่อ เทศบาลนครเชียงใหม่ กรณีอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ กรณีอยู่นอกเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ สำหรับอำเภออื่น ๆ ให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขอำเภอนั้น ๆ หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่
ข้อ ๔ ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นนอกจากจังหวัดตามข้อ ๒ และ ข้อ ๓ เมื่อเดินทางเข้ามายัง พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถเดินทางได้ปกติ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามที่ทาง ราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
ข้อ ๕ ให้ผู้ประกอบการโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใด ที่เปิดให้บริการแก่ผู้เดินทางเข้ามาใน จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว จะต้องเก็บข้อมูลของผู้เดินทาง ได้แก่ ชื่อ-ชื่อสกุล, เลขประจำตัวประชาชน , หมายเลขโทรศัพท์, มาจากจังหวัดใด และต้องให้ผู้เดินทางลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน "CM-CHANA" เพื่อติดตามตัว
อนึ่ง การดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พศ๒๕๕๔ จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา ๑๖ ของพระราชกำหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พศ๒๕๕๔ หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสอง ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชกำหนตการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พศ๒๕๕๔
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 7363 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 ธ.ค. 63
เวลา 23:46:12
|