• สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยืนยัน พร้อมให้คำแนะนำดูแลผู้ขออนุญาตปลูกกัญชง |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 04 ก.พ. 64 เวลา 17:16:54 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยืนยัน พร้อมให้คำแนะนำดูแลผู้ขออนุญาตปลูกกัญชง
เภสัชกรหญิง นฤมล ขันตีกุล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข พร้อมด้วย
นายพิสณฑ์ ศรีบัณฑิต เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ในประเด็นการขออนุญาตปลูกกัญชง ณ ห้องประชุมสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ อาคารสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่
ตามที่กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. ๒๕๖๓ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่
29 มกราคม 2564 โดยกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว มุ่งเน้นการส่งเสริมการใช้กัญชงเพื่อให้เกิดประโยชน์
ทางเศรษฐกิจส่งเสริมการพัฒนากัญชงให้มีคุณภาพดี มีมาตรฐาน สามารถส่งออกได้ และป้องกันมิให้มีการนำกัญชงไปใช้ในทางที่ผิด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะปลูกกัญชง ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการอนุญาต และคู่มือผู้ประกอบการในการ
ขออนุญาต โดยมี10 ข้อน่ารู้ ในการขออนุญาตปลูกกัญชง ดังนี้
1. พื้นที่ปลูกอยู่จังหวัดไหน ให้ยื่นขอที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้น ทั้งนี้สามารถยื่นขอได้ตลอดปี โดยขั้นตอนการอนุญาตประมาณ 120 วัน นับแต่วันที่หลักฐานครบถ้วนและยื่นชำระเงินค่าคำขออนุญาต
จึงควรวางแผนการยื่นคำขออนุญาตให้สอดคล้องเช่น ยื่นคำขออนุญาตเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อปลูกเดือนกรกฎาคม เป็นต้น
2. การขออนุญาตปลูกกัญชง เช่น เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม ไม่จำกัดพื้นที่ จะขออนุญาตพื้นที่เท่าไรก็ได้
3. เอกสารสิทธิ์ที่ดินในการขออนุญาตต้องชอบด้วยกฎหมาย ไม่บุกรุกป่า เช่น โฉนด หรือ นส. 3 ก หากผู้ขอไม่ได้เป็นเจ้าของจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้พื้นที่เพื่อผลิตยาเสพติดให้โทษตามแบบฟอร์มที่กำหนด ทั้งนี้ แบบภ.บ.ท.5 และภ.บ.ท. 6 ไม่ถือเป็นเอกสารถือครองที่ดิน ไม่สามารถใช้ขออนุญาตได้
4. สถานที่ปลูก ต้องมีแนวเขตพื้นที่ปลูกที่เห็นได้ชัด แยกจากการปลูกพืชชนิดอื่นเป็นสัดส่วนชัดเจน
5. มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ปลูกพื้นที่เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์หรือกัญชงหลังการเก็บเกี่ยวและแยกเก็บกัญชงเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับวัตถุอื่น
6. ถ้าพื้นที่ปลูกตั้งอยู่ในเขตชุมชน สถานที่ท่องเที่ยวและสถานศึกษาต้องมีระบบป้องกันการเข้าถึง
จากบุคคลภายนอก เช่น รั้วลวดหนาม ปิดกั้นทั้ง 4 ด้านของพื้นที่ปลูก จำกัดประตูทางเข้าออกพื้นที่จำเป็น
7. กำหนดบัญชีรายชื่อบุคคลผู้มีสิทธิ์ เข้า-ออก พื้นที่ปลูกกำหนดและผู้รับผิดชอบเฉพาะเป็นผู้ควบคุมในกิจกรรมเป็นลายลักษณ์อักษร
8. ผู้ขออนุญาตหรือผู้ดำเนินการ ต้องมีหนังสือผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยื่นขอที่สถานีตำรวจภูธรที่มีภูมิลำเนาอยู่
9. มีค่าใช้จ่ายคือ คำขอรับอนุญาตฯ ใบละ 500 บาท และค่าหนังสือสำคัญอนุญาต ฉบับละ 4,000 บาท
10. การปลูกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานการเกษตร เช่น การวิเคราะห์คุณภาพของดินและน้ำ การตรวจสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลงโลหะหนัก และจัดให้มีระบบติดตามจากต้นทางสู่ปลายทาง และตรวจสอบย้อนกลับเพื่อควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการให้ประชาชนที่สนใจขออนุญาตยื่นปลูกกัญชง ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้วันแรกในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้สนใจมาขอทราบรายละเอียดจำนวน 95 ราย และยื่นคำขออนุญาตฯเบื้องต้น (ส่งเอกสารเพิ่มเติม)
1 ราย และภาพรวมประเทศ มีผู้สนใจขอทราบรายละเอียดและรับคำแนะนำทั้งหมด 705 ราย ยื่นคำขออนุญาตฯเบื้องต้น 2 ราย
สำหรับ ผู้มีความประสงค์จะขออนุญาต สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขออนุญาตได้ที่ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา https://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics/SitePages/Hemp_V.aspx และสามารถขอคำแนะนำ เกี่ยวกับการขออนุญาตได้ที่งานกัญชงกัญชา กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 894 742 หรือ ID line: hempcmi ตามวันและเวลาราชการ
ข้อมูล : สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 807 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 04 ก.พ. 64
เวลา 17:16:54
|