• พลังประชาชนย้ำพรรคอันดับ 1 มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน |
โพสต์โดย สำนักข่าวไทย , วันที่ 23 ธ.ค. 50 เวลา 16:10:34 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เรียกร้องให้ทุกพรรคยอมรับผลการเลือกตั้งจากประชาชน ย้ำสิทธิการจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นของพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ถือเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติ ระบุหากพรรคได้อันดับ 1 “สมัคร” เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีมีคลิปวิดีโอนายทหารสั่งทหารไม่ให้ลงคะแนนให้กับพรรคพลังประชาชน ว่า ตนขอไม่แสดงความเห็น เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิเพื่อเลือกผู้ที่ต้องการให้เข้ามาบริหารประเทศ เข้ามาทำงานจริง ๆ โดยไม่มีอิทธิพลมาชักจูง ส่วนเรื่องนี้ตนทราบมาก่อนหน้าแล้ว และขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการให้ถูกตามกติกาที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ส่วนหลังเลือกตั้งเกรงว่าจะถูกกีดกันในลักษณะนี้หรือไม่นั้น เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขึ้นกับผลการลงคะแนนของประชาชน ซึ่งตนอยากให้พรรคการเมืองและนักการเมืองคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเสนอนโยบายให้กับประชาชน เมื่อประชาชนตัดสินอย่างไรพรรคการเมืองและนักการเมืองต้องดำเนินไปตามนั้น อยากให้ทุกคนเปรียบเสมือนนักกีฬา เมื่อผลออกมาอย่างไรก็ให้ยอมรับ และหลังเลือกตั้งทุกคนเป็นเพียงคู่แข่ง ไม่ใช่ศัตรู
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียงอันดับ 1 จะเรียกร้องพรรคอันดับ 2 ไม่ให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กติกาประชาธิปไตยที่ยึดถือมาโดยตลอดในระดับประเทศและระดับโลก คือให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 จะต้องเป็นผู้ได้รับฉันทานุมัติจัดตั้งรัฐบาล ในประเทศออสเตรเลียที่มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีพบว่าผู้แพ้การเลือกตั้งโทรศัพท์ไปยินดีและสนับสนุนผู้ชนะการเลือกตั้งทันที ตนอยากเห็นบรรยากาศดังกล่าวในประเทศไทยเช่นกัน ผู้ชนะก็ต้องขอบคุณผู้แพ้ที่แข่งขันอย่างเป็นธรรม แสดงความยินดีอย่างจริงใจ ให้ผู้ชนะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และผู้แพ้ก็ไม่ควรกล่าวอะไรให้เกิดผลกระทบต่อผู้ชนะ
เมื่อถามถึงการจับมือของพรรคการเมืองเล็กเพื่อบอยคอตพรรคพลังประชาชน ซึ่งอาจได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าข่าวนี้คลาดเคลื่อนความเป็นจริง เพราะเท่าที่รับทราบจากคำสัมภาษณ์ของหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ พบว่าทุกพรรคจะรอผลการเลือกตั้งก่อน ตนไม่เชื่อว่าจะมีการจับมือกันล่วงหน้า เพราะไม่ใช่การตัดสินใจจากการรอฟังผลจากประชาชน
ต่อข้อถามว่า พรรคพลังประชาชนประกาศว่าจะไม่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวจะทำได้ต่อเมื่อได้คะแนนเสียงท่วมท้นจำนวนมาก ตนขอเรียนว่าการแก้ปัญหาประเทศชาติของรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองใดก็ตาม จำเป็นต้องมีเสถียรภาพพอสมควร ดังนั้น รัฐบาลที่มีเสถียรภาพควรมีเสียงประมาณ 300 เสียง ส่วนฝ่ายค้านมีจำนวน 180 เสียง จึงถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ซึ่งหากพรรคพลังประชาชนได้รับเสียงมากเป็นอันดับ 1 จะจัดประชุมผู้บริหารพรรค เพื่อหารือว่าจะดำเนินการทางการเมืองต่อไป โดยคาดว่าในเวลา 18.00 น. วันนี้ (23 ธ.ค.) จะทราบแนวทางการดำเนินการทางการเมืองของพรรคแล้ว
เมื่อถามว่า ได้รับการประสานงานจากฮ่องกง หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะการบริหารของพรรคพลังประชาชนมีสม่ำเสมอ และบริหารพรรคบนพื้นฐานของข้อมูลที่ดำเนินการทางการเมืองมาตลอด ตนเชื่อว่าไม่มีใครตัดสินใจได้ดีที่สุดเท่ากับตัวเราเอง เพราะเรามีข้อมูลมากที่สุดในการตัดสินใจ ถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ประสานงานระหว่างพรรคการเมือง ไม่คิดล่วงหน้า รอการตัดสินใจของประชาชนแล้วดำเนินกิจกรรมตามที่ประชาชนตัดสินใจ
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ อาจได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี หากพรรคพลังประชาชนได้รับเสียงมากอันดับ 1 และนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ติดปัญหาเรื่องคดี นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า บ้านเมืองมีหลักประชาธิปไตย พรรคก็มีหลักการของพรรค ซึ่งพรรคพลังประชาชนชัดเจนว่าหากพรรคเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ยอมรับในทางสากล กรณีคดีความของนายสมัครนั้นยังอยู่ในชั้นการสอบสวน การพิจารณาคดีในชั้นศาลยังไม่เริ่ม ดังนั้น ยังมีเวลาอีกนาน และหลักของการพิจารณาคดีผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ หากประชาชนตัดสินใจให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายสมัครย่อมได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเจตนารมณ์ของประชาชน
ต่อข้อถามว่า หากพรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียงอันดับ 1 จะยอมแลกกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคการเมืองขนาดกลาง เพื่อให้จับขั้วจัดตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การเมืองแบบชิงไหวชิงพริบต่อรองผลประโยชน์นั้นหมดไปแล้ว คิดว่าประชาชนไม่ต้องการเห็นการแข่งขันแล้วภายหลังไปต่อรองกันในเซฟเฮาส์ เพราะวิธีเดิมประชาชนไม่ต้องการเห็น ผู้บริหารของพรรคพลังประชาชนไม่นำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแลกกับการจับขั้วกับพรรคการเมืองอื่นแน่นอน
“ถ้าเรามีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราจะมีโอกาสพูดคุยกับพรรคอื่น เรายังอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างเปิดเผย มีความสง่างามในการดำเนินการ เพื่อประชุมความเป็นเอกภาพในนโยบายและวิสัยทัศน์” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
.-สำนักข่าวไทย
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1429 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย สำนักข่าวไทย
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ธ.ค. 50
เวลา 16:10:34
|