• เผยเหตุ พปช.ชนะเลือกตั้ง ผลพวกจากโนโหวต ดันพรรคนำโด่ง |
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 24 ธ.ค. 50 เวลา 09:17:56 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เผยเหตุ พปช.ชนะเลือกตั้ง ผลพวกจากโนโหวต ดันพรรคนำโด่ง
นายสมชาย ปรีชาศิลปะกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สิ่งแรกที่ทุกคนควรทำภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ คือ ยอมรับผลการเลือกตั้ง แม้อาจจะไม่ตรงกับใจของคนกทม.หรือคนชั้นกลาง
แต่ต้องไม่ลืมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแค่กทม. เพราะถือเป็นกติกาอันเป็นพื้นฐานของสังคมที่มาจากคะแนนเสียงของประชาชน โดยหากมีกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งออกมาเคลื่อนไหว เพราะพรรคพลังประชาชนได้รับคะแนนเสียงมากนั้น ตนคิดว่าการชุมนุมไม่น่าจะส่งผลดี
คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ยังกล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า นโยบายของพรรคไทยรักไทยในอดีตที่เป็นมรรค เป็นผลต่อชาวบ้านส่งผลให้พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกเข้ามาค่อนข้างมากจนทำให้พรรคอื่นไม่สามารถดึงใจชาวบ้าน โดยคะแนนที่สะท้อนออกมาครั้งนี้เคยปรากฏออกมาแล้วในครั้งการทำประชามติที่มีคะแนนโนโหวตกว่า 43% และคะแนนรับร่าง 57 %
ซึ่งตอนนี้คะแนนโนโหวตได้เทให้กับ พปช.หมด แต่คะแนนรับร่างรัฐธรรมนูญกลับกระจายไปหลายพรรค ดังนั้นผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้จึงทำให้เห็นได้ชัดว่า การรัฐประหาร 1 ปีที่ผ่านมานั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงและไม่ได้ทำให้สังคมไทยได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น เพราะความแตกแยกหลังวันที่ 20 กันยายน 2549 ก็ยังมีอยู่
'ถ้า พปช.ได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับหนึ่งก็มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าไม่มีความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลได้ก็อาจให้พรรคที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 มาเป็นแกนนำแทน ซึ่งโอกาสจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์หันมารวมกับพรรคเล็กอื่น ๆ โอกาสที่เป็นไปได้นั้นอาจเป็น เพราะมีพลังมหัศจรรย์คอยกำกับ ถ้าไม่มีอำนาจพิเศษ พปช.มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลแน่
โดยผมคิดว่า หากนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ บุคลิกส่วนตัวอาจทำให้มีปัญหาต่อการบริหารงานและอาจเจอภาวะกดดันจนทำให้ต้องปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวก็จะเกิดปัญหาทั้งต่อสื่อมวลชนและบุคคลรอบข้าง เพราะการที่นายสมัครถูกเลือกครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากฐานคะแนนของนายสมัครเอง แต่มาจากส่วนอื่น ๆ ทั้งนี้ หวังว่า หลังการเลือกตั้งรัฐบาลจะเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย' นายสมชาย กล่าว
คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ประเทศไทยควรเดินเข้าสู่การเมืองระบบรัฐสภาที่มีการโต้แย้งกันในระบบ ซึ่งเห็นว่า ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่แตกต่างกัน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งเพื่อให้ผ่าน ๆ ไปเท่านั้น
ดังนั้นรัฐบาลที่มีก็จะเป็นผสมที่มีภาวะง่อนแง่น เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้ออกแบบมาเพื่อให้รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งตนคิดว่าในระยะสั้นนี้รัฐบาลไม่น่าจะออกนโยบายที่สร้างความแตกแยก โดยสิ่งสำคัญ คือ ควรผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและทำให้ประเทศชาติเดินไปได้และควรเปิดโอกาสให้มีกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญและมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1104 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 24 ธ.ค. 50
เวลา 09:17:56
|